เครือเจริญโภคภัณฑ์ โดย นายจอมกิตติ ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหาร ผู้บริหารสูงสุดด้านพัฒนาความยั่งยืนภาครัฐและกิจการสัมพันธ์ ลงพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี อุดรธานี อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด และมุกดาหาร มอบทุนการศึกษาจนถึงปริญญาตรี พร้อมโอกาสทำงานในเครือเจริญโภคภัณฑ์ในอนาคต แก่บุตร-บุตรีรวม 6 คน ของทหารหาญผู้เสียสละชีวิตปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติจากสถานการณ์สู้รบแนวชายแดนไทย–กัมพูชาเมื่อปลายเดือนกรกฎาคม 2568 พร้อมทั้งมอบ “กล่องกำลังใจ” ซึ่งจัดเตรียมอุปกรณ์การเรียนตามช่วงวัย “บันทึกกำลังใจ” จากพนักงานเครือซีพี และของที่ระลึกจากกลุ่มธุรกิจในเครือฯ เพื่อส่งต่อพลังใจและความห่วงใยสู่ครอบครัวทหารกล้าด้วยความซาบซึ้งและจริงใจ เมื่อวันที่ 7–9 สิงหาคม 2568
นายจอมกิตติ ระบุว่า “การช่วยเหลือครั้งนี้สอดคล้องกับค่านิยม ‘3 ประโยชน์’ ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่มุ่งสร้างประโยชน์แก่ประเทศชาติ ประชาชน และองค์กร เป็นไปตามดำริของนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส นายสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ และนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร ที่ต้องการส่งต่อความห่วงใยจากเครือฯ สู่ครอบครัวของผู้ที่เสียสละเพื่อชาติ ในนามของเครือเจริญโภคภัณฑ์ เราขอแสดงความเคารพอย่างสุดซึ้งต่อความกล้าหาญของทหารกล้า และขอมอบทุนการศึกษานี้เพื่อสนับสนุนครอบครัวที่อยู่เบื้องหลังผู้ที่เขารัก และเป็นแรงใจสำคัญให้เดินหน้าต่อไปด้วยความเข้มแข็ง”
เริ่มจากครอบครัวแรกคือ ครอบครัวของสิบเอกจิรายุส อินทุมาน อายุ 31 ปี ทหารหาญ ซึ่งได้เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา บริเวณภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 ปัจจุบันมีบุตรี 1 คน วัย 10 ปี ซึ่งนางสมพิศ อินทุมาร มารดาของ สิบเอกจิรายุส อินทุมาน กล่าวว่า “ครอบครัวรู้สึกภูมิใจในตัวบุตรชายมาก ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อรักษาชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ในครั้งนี้ ซึ่งครอบครัวตั้งแต่บิดา รวมไปถึงพี่ชายของสิบเอกจิรายุสต่างก็รับราชการเป็นทหาร ตลอดเวลาที่ลูกได้ทำหน้าที่ในการรับใช้ชาติ ท่ามกลางความเสี่ยงต่ออันตรายต่างๆ แม้จะเต็มไปด้วยความเป็นห่วง แต่ก็แอบแฝงไปด้วยความรู้สึกภูมิใจมาโดยตลอดเช่นกัน ท่ามกลางความสูญเสียที่เกิดขึ้นจนยากที่จะทำใจ ก็ยังคงมีกำลังใจจากผู้คนมากมายทั้งจากคนที่รู้จักและไม่รู้จักส่งมาให้อย่างต่อเนื่อง จนทำให้ตอนนี้ครอบครัวเริ่มกลับมาเข้มแข็งมากขึ้น”
เช่นเดียวกับนางมธุลิน สีจุ้ยจ้าย ภรรยาของจ่าสิบเอกธีระยุทธ สีจุ้ยจ้าย อายุ 39 ปี ทหารหาญ ผู้สละชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องผืนแผ่นดินไทยในเหตุการณ์ปะทะบริเวณช่องสายตะกู อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 ซึ่งเป็นครอบครัวที่ 2 ที่เครือซีพีลงพื้นที่พบปะ ระบุว่า “ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน จ่าสิบเอกธีระยุทธเป็นคนที่ดูแลครอบครัวดีมาก ลูกสองคนผูกพันกับพ่อมาก ลูกๆ มีความอดทนเหมือนพ่อ ตอนแรกก็กังวลมาก เพราะต้องดูแลลูกสองคนคนเดียว แต่เมื่อได้รับกำลังใจ และการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน รู้สึกเบาใจลงเยอะมาก ซาบซึ้งใจอย่างที่สุด และต่อจากนี้จะเข้มแข็งให้ได้เพื่อลูก” ขณะที่เด็กหญิงจุฑามาศ สีจุ้ยจ้าย บุตรีคนโต เปิดเผยความตั้งใจอันแน่วแน่ว่าถึงความฝันในอนาคตว่า “อยากเป็นแพทย์ทหาร อยากรักษาทั้งคนทั่วไปและทหาร เพราะไม่อยากให้ใครต้องเสียชีวิตเหมือนคุณพ่ออีก”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี