ดีป้า เผยข้อมูลอุตฯ ดิจิทัลคอนเทนต์ไทยปี 67

ดีป้า เผยข้อมูลอุตฯ ดิจิทัลคอนเทนต์ไทยปี 67

วันอังคาร ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2568, 16.57 น.

2 กันยายน 2568 สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) เผยผลสำรวจและประเมินสถานภาพอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทยประจำปี 2567 พบว่าภาพรวมอุตสาหกรรมฟื้นตัวขึ้น 14% หรือราว 50,609 ล้านบาท โดดเด่นที่อุตสาหกรรมคาแรคเตอร์เติบโตก้าวกระโดด 196% จากกระแสอาร์ตทอยที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่อุตสาหกรรมเกมเริ่มฟื้นตัวหลังจากการหดตัวต่อเนื่องในช่วงสองปีที่ผ่านมา

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า ร่วมกับ สมาคมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย (DCAT) สมาคมผู้ประกอบการแอนิเมชั่นและคอมพิวเตอร์กราฟิกส์ไทย (TACGA) สมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เกมไทย (TGA) สมาคมธุรกิจบางกอกเอซีเอ็มซิกกราฟ (Bangkok ACM SIGGRAPH) และ บริษัท ไอเอ็มซี เอ้าท์ซอร์สซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ดำเนินการสำรวจข้อมูลและประเมินสถานภาพอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ (เกม แอนิเมชัน คาแรกเตอร์ และหนังสืออิเล็กทรอนิกส์) ประจำปี 2567 และคาดการณ์แนวโน้ม 3 ปี


นางสาวกษมา กองสมัคร รักษาการรองผู้อํานวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์และความมั่นคง สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ดีป้า เปิดเผยผลการสำรวจจำนวนผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทยปี 2567 พบว่า มีผู้ประกอบการรวมทั้งสิ้น 277 ราย แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของระบบนิเวศดิจิทัลคอนเทนต์ที่มีความหลากหลายและมีศักยภาพในการพัฒนาต่อไป สะท้อนให้เห็นถึงโอกาสทางธุรกิจและความน่าสนในของอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย การที่มีผู้ประกอบการใหม่เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของอุตสาหกรรมและการสนับสนุนจากภาครัฐที่มีประสิทธิภาพ

ข้อมูลจากการสำรวจในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงพื้นฐานที่มั่นคงของอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย ซึ่งสามารถรักษาการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีเสถียรภาพตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา การวิเคราะห์แนวโน้มการเติบโตระยะยาวตั้งแต่ปี 2561 ถึงปี 2567 มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 10% สะท้อนให้เห็นการขยายตัวที่แข็งแกร่งและสม่ำเสมอของอุตสาหกรรมนี้

โดยในปี 2567 อุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทยมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 50,609 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับปี 2566 ซึ่งสะท้อนถึงความมั่นคงและศักยภาพการพัฒนาในระยะยาวสำหรับการคาดการณ์ในอนาคต คาดว่าอุตสาหกรรมจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมูลค่ารวมจะอยู่ที่ 51,291 ล้านบาทในปี 2568 และ 53,728 ล้านบาทในปี 2569 ตามลำดับ และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 56,414 ล้านบาทในปี 2570 การเติบโตนี้มีปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญหลายประการ ประกอบด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การขยายตัวอย่างรวดเร็วของตลาดดิจิทัล และความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการสนับสนุนการพัฒนา ปัจจัยเหล่านี้จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมไทยให้ก้าวสู่เป้าหมายการเป็นศูนย์กลางดิจิทัลคอนเทนต์ชั้นนำของภูมิภาค

แม้ว่าจำนวนบุคลากรในอุตสาหกรรมคาดการณ์ว่าจะลดลงเล็กน้อย 1% เหลือ 7,688 คนในปี 2567 เนื่องจากผลกระทบของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และระบบอัตโนมัติ แต่ความต้องการบุคลากรที่มีทักษะเฉพาะทางยังคงอยู่ในระดับสูงในทุกอุตสาหกรรมย่อย ซึ่งการมาถึงของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์กำลังส่งผลกระทบต่อทุกอุตสาหกรรมย่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการผลิตเนื้อหาพื้นฐาน Motion Graphics และงาน Animation บางประเภท อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยี AI ยังเปิดโอกาสใหม่ในการสร้างสรรค์เนื้อหาที่หลากหลายและการปรับแต่งเนื้อหาให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างแม่นยำ ทั้งนี้อุตสาหกรรมจำเป็นต้องปรับตัวโดยการพัฒนาทักษะที่เทคโนโลยี AI ไม่สามารถทดแทนได้ เช่น การคิดเชิงสร้างสรรค์ การบริหารโครงการ และการสร้างสรรค์ทรัพย์สินทางปัญญา (IP) ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

อุตสาหกรรมเกมฟื้นตัวหลังหดตัวต่อเนื่อง 2 ปี คาดหวังการเติบโตต่อเนื่อง

นายกิตติพงษ์ ดวงดีไพศาล นายกสมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เกมไทย กล่าวว่า อุตสาหกรรมเกมในปี 2567 มีมูลค่า 35,981 ล้านบาท เติบโต 5% หลังจากหดตัวอย่างต่อเนื่องช่วงปี 2565-2566 โดยตลาดเกม PC มีแรงหนุนจากการกลับมาของเกม AAA Titles คุณภาพสูง การเติบโตของตลาด Work-from-Home รวมถึงความสำเร็จของ PlayStation 5 และ Nintendo Switch ในขณะที่ แพลตฟอร์มมือถือต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงและพฤติกรรมผู้บริโภคที่ระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ส่งผลให้มูลค่าการบริโภคเกมมือถือลดลงเป็น 17,835 ล้านบาท เช่นเดียวกับการสร้างเกมที่มีทรัพย์สินทางปัญญาของตนเอง (IP Owner) ที่มีมูลค่าเพียง 504 ล้านบาท ลดลง 26% จากปีก่อน สะท้อนถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการสนับสนุนการสร้าง IP ของไทยเพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้า

อุตสาหกรรมคาแรคเตอร์เติบโตก้าวกระโดด รับกระแสอาร์ตทอยโลก

คุณอณิตา ตันตสิรินทร์ กรรมการสมาคมดิจิทัลคอนเทนต์ไทยกล่าวว่า อุตสาหกรรมคาแรคเตอร์มีการเติบโตสูงสุดด้วยมูลค่า 7,232 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 196% จากปีที่ผ่านมาเนื่องจากการขยายตัวของตลาด Character Merchandising ที่เติบโตขึ้นถึง 506% คิดเป็นมูลค่า 6,078 ล้านบาท

กระแสการเติบโตของอาร์ตทอยระดับโลกส่งผลให้ผู้บริโภคมีความต้องการสินค้าที่เชื่อมโยงกับคาแรคเตอร์ที่ชื่นชอบเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะคาแรคเตอร์จากแบรนด์ชั้นนำอย่าง Pop Mart, Qposket, Nendoroid, Funko Pop และ Cosbaby ที่มีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการเติบโตนี้สะท้อนถึงศักยภาพของผู้ประกอบการไทยในการผลิตสินค้าคุณภาพสูงและความสามารถในการปรับตัวตามความต้องการของตลาดต่างประเทศ

อุตสาหกรรมแอนิเมชันเผชิญความท้าทายจากเทคโนโลยี AI และการแข่งขัน

นายกฤษณ์ ณ ลำเลียง นายกสมาคมผู้ประกอบการแอนิเมชั่นและคอมพิวเตอร์กราฟิกส์ไทย กล่าวว่า อุตสาหกรรมแอนิเมชันมีมูลค่า 3,432 ล้านบาท หดตัว 3% เป็นปีที่สามติดต่อกัน สาเหตุหลักมาจากการแข่งขันที่รุนแรงจากประเทศเพื่อนบ้านที่มีต้นทุนแรงงานต่ำกว่า รวมถึงผลกระทบจากเทคโนโลยี AI ที่เข้ามาทดแทนงานพื้นฐาน

แม้จะเผชิญความท้าทาย แต่ผู้ประกอบการไทยยังคงมีความได้เปรียบในงานคุณภาพสูงและงานเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ตลาดภาพยนตร์แอนิเมชันยังฟื้นตัวด้วยการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์กว่า 30 เรื่อง โดยมี "INSIDE OUT 2" ทำรายได้สูงสุด 148 ล้านบาท ส่วนการรับจ้างงาน CG/ VFX ยังคงเป็นแกนหลัก แต่ต้องปรับตัวรับมือกับผลกระทบจาก AI และการแข่งขันจากสตูดิโอในประเทศเพื่อนบ้าน

อุตสาหกรรมหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เติบโตอย่างมั่นคง

นางสาวกวิตา พุกสาย ผู้แทนจากอุตสาหกรรมหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ กล่าวว่า อุตสาหกรรมหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดยมีมูลค่า 3,963 ล้านบาท ลดลง 0.21% การเติบโตของ E-book และ E-Comic ที่เพิ่มขึ้น 6% ช่วยชดเชยการลดลงของ Web Novel และ Webtoon

ทั้งนี้ เนื้อหาที่ได้รับความนิยมส่วนใหญ่ยังคงเป็นเนื้อหานำเข้าและแปลเป็นภาษาไทย โดยเฉพาะจากประเทศจีน เกาหลี และญี่ปุ่น ขณะที่นักเขียนไทยเริ่มสร้างผลงานที่ได้รับความนิยม อาทิ "BAD (LOVE) LIAR ลวงรัก (ร้าย)" และ "IT'S REAL คุณหมอเป็นพระเอก"

นอกจากนี้ ในงานแถลงผลสำรวจข้อมูลและประเมินสถานภาพอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทยปี 2567 ยังมีช่วงของการเสวนาในหัวข้อ “When Creativity Meets Code: Thriving in the AI Era of Thai Digital Content เมื่อโค้ดมีสมอง: เกมเอาตัวรอดของดิจิทัลคอนเทนต์ไทยในยุค AI” โดย ดีป้า และผู้แทนจากสมาคม ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับตัวสู่ยุค AI ของอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย โดยเฉพาะในประเด็นสำคัญว่าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เป็นโอกาสหรืออุปสรรคสำหรับผู้ประกอบการในประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลจากการสำรวจที่แสดงให้เห็นผลกระทบของ AI ต่อหลายอุตสาหกรรม

ในช่วงเสวนา ผู้แทนจากสมาคมได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์การนำ AI มาใช้ในการผลิตคอนเทนต์ รวมถึงหาแนวทางพัฒนาทักษะบุคลากรให้สามารถทำงานร่วมกับ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างความเข้าใจเรื่องการใช้ AI อย่างสร้างสรรค์แทนการถูกแทนที่

การเสวนายังครอบคลุมยุทธศาสตร์การลดการนำเข้าและเพิ่มการส่งออกคอนเทนต์ไทย ซึ่งเป็นประเด็นเร่งด่วนเมื่อพิจารณาจากข้อมูลที่แสดงให้เห็นการพึ่งพาการนำเข้าที่ยังคงสูง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเกมและคาแรคเตอร์ ผู้แทนจากสมาคมได้ร่วมกันหาแนวทางสร้างและพัฒนา IP ไทยที่แข็งแกร่ง แลกเปลี่ยนประสบการณ์การขยายตลาดส่งออกในภูมิภาค ASEAN และหารือมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐที่จะช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้า

ดีป้า ในฐานะหน่วยงานหลักด้านการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ได้นำเสนอบทบาทและแผนการสนับสนุนอุตสาหกรรมในการเตรียมความพร้อมสู่ยุคดิจิทัล รวมถึงการพัฒนาโครงการและมาตรการต่าง ๆ ที่จะช่วยให้อุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทยสามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก พร้อมทั้งสร้างมูลค่าเพิ่มและลดการพึ่งพาต่างประเทศ

การเสวนาในครั้งนี้ถือเป็นเวทีสำคัญที่จะช่วยกำหนดทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทยในยุค AI และสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสู่ความยั่งยืนและการเติบโตที่แข็งแกร่งในอนาคต

“ดีป้า และหน่วยร่วมดำเนินการหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผลสำรวจข้อมูลและประเมินสถานภาพอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ ปี 2567 และคาดการณ์แนวโน้ม 3 ปีจะเป็นประโยชน์ต่อการกำหนดนโยบายและทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัลของรัฐบาลในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ขณะเดียวกันจะเป็นส่วนช่วยสำคัญเพื่อประกอบการตัดสินใจวางแผนธุรกิจของภาคเอกชนอีกด้วย” ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว

-(016)

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top