โรงแรมเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน กรุงเทพฯ เตรียมเนรมิต 4 วันแห่งรสชาติอันเหนือระดับ ในฐานะเจ้าภาพงานปิดท้ายซีรีส์การรับประทานอาหารสุดหรู “Marriott International 2025 Luxury Dining Series” ที่ทุกคนรอคอย โดยธีมของปีนี้มุ่งเน้นไปที่ “Forgotten Flavors” หรือ “รสชาติที่เลือนหาย” ซึ่งนำเสนอใน 7 จุดหมายปลายทางที่ได้รับการคัดสรรทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยกรุงเทพฯ จะเป็นบทสรุปอันยิ่งใหญ่ของซีรีส์นี้ ผ่านประสบการณ์อาหารที่คัดสรรอย่างพิถีพิถันจากฝีมือของเชฟและผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องดื่มกว่า 25 คน จากหลากหลายเวทีระดับโลก ระหว่างวันที่ 25–28 กันยายน 2568
“Forgotten Flavors” ได้แรงบันดาลใจจากรายงาน Future of Food 2025 ของเครือแมริออท ซึ่ง ชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่เกิดขึ้นในโลกของอาหาร โดยเฉพาะแนวโน้มการหันกลับมาใช้วิธีปรุงอาหารแบบดั้งเดิมและวัตถุดิบโบราณ ควบคู่ไปกับความใส่ใจในเรื่องความยั่งยืนและวัฒนธรรม สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการประสบการณ์การกินที่ลึกซึ้งและมีความหมายในกลุ่มนักเดินทางระดับไฮเอนด์ ตลอดจนความสนใจที่เพิ่มขึ้นในวัตถุดิบท้องถิ่นและภูมิปัญญาโบราณซึ่งมักถูกมองข้ามในโลกของไฟน์ไดนิ่งร่วมสมัย และถือเป็นการยืนยันว่าแนวคิดการรื้อฟื้นมรดกทางอาหารผ่านมุมมองสมัยใหม่ คือทิศทางที่เหมาะสมของปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นการจัดมื้ออาหารสุดหรูหรือกิจกรรมเฉพาะทาง โดยโรงแรมยังคงเดินตามปรัชญานี้อย่างแน่วแน่ด้วยการรังสรรค์ความทรงจำผ่านรสชาติที่ยกย่องความหลากหลายของอาหารไทยโบราณ ด้วยการตีความใหม่ในแบบร่วมสมัย ที่ยังคงเคารพในภูมิปัญญาดั้งเดิม พร้อมทั้งผลักดันขอบเขตแห่งความคิดสร้างสรรค์อยู่เสมอ
“พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นเจ้าภาพจัดงานปิดท้ายซีรีส์ Marriott’s 2025 Luxury Dining Series ในปีแรกของการเปิดให้บริการ” ทีน่า ลิว ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน กรุงเทพฯ กล่าว “ซีรีส์สุดพิเศษนี้ตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราในการยกระดับ ‘รสชาติที่เลือนหาย’ ผ่านการถ่ายทอดในมุมมองสมัยใหม่ พร้อมเฉลิมฉลองเทคนิคโบราณและวัตถุดิบอันเป็นที่รัก ซึ่งสะท้อนอัตลักษณ์ทางอาหารของชาติ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ในวงการอาหารและเครื่องดื่มของเราจะสามารถมอบประสบการณ์อันน่าประทับใจที่เชื่อมโยงอดีตและอนาคตเข้าไว้ด้วยกัน”
โปรแกรมสุดสร้างสรรค์ของโรงแรมเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน กรุงเทพฯ เต็มไปด้วยรสชาติอันโดดเด่นและความเป็นเอกลักษณ์จากหลากหลายจุดหมายด้านอาหาร ในวันที่ 25 และ 26 กันยายน ที่ห้องอาหาร Duet by David Toutain แขกจะได้ลิ้มลองดินเนอร์สุดล้ำสมัยแบบ Six-Hands Dinner โดยเชฟชาวฝรั่งเศสชื่อดัง David Toutain เจ้าของมิชลินสตาร์ 2 ดาว บินตรงมาจากปารีสเพื่องานนี้โดยเฉพาะ จับมือกับเชฟ Valentin Fouache หัวหน้าเชฟของห้องดูเอท และเชฟ Adam Catterall จากร้านดัง Roganic มิชลินสตาร์และกรีนสตาร์จากฮ่องกง
ต่อเนื่องด้วยค่ำคืนพิเศษในวันที่ 27 และ 28 กันยายน จะนำเสนอการผสานศิลปะการปรุงอาหารแบบฝรั่งเศสเข้ากับความประณีตแบบเอเชีย โดยเชฟ David Toutain และเชฟ Valentin Fouache หัวหน้าเชฟของห้อง ดูเอท จะร่วมมือกับ เชฟ Loïc Portalier เชฟใหญ่จากร้านอาหารฝรั่งเศสชื่อดังระดับมิชลินสตาร์และ 50 Best discovery Louise จากฮ่องกง เพื่อรังสรรค์ประสบการณ์อันเหนือระดับในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน
ในวันที่ 26 กันยายน ห้องอาหาร Lily’s ยังเตรียมมอบประสบการณ์ดินเนอร์ส่วนตัวสุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับแขกเพียง 10 ท่านเท่านั้น โดย เชฟ Tala Bashmi ทาลา บัชมิ เจ้าของตำแหน่ง MENA’s Best Female Chef จากการจัดอันดับ World’s 50 Bestจะนำเสนอการตีความอาหารบาห์เรนต้นตำรับในสไตล์ของเธออย่างพิถีพิถัน ถ่ายทอดรสชาติแท้จริงจากบ้านเกิดผ่านเมนูขนาดพอดีคำที่กลั่นกรองจากประสบการณ์และหัวใจ
การเดินทางแห่งรสชาติยังคงดำเนินต่อไปกับมื้อบรันช์สุดแสนพิเศษ Friends of Lily’s Brunch ที่ห้องอาหาร Lily’s ในวันที่ 27 และ 28 กันยายน นำโดย เชฟเศรษฐพัฒน์ สุขไพศาลพงษา (ป๊อบ) เชฟเดอคูซีนแห่ง Lily’s ซึ่งจะร่วมรังสรรค์บทเพลงแห่งรสชาติสุดสร้างสรรค์เคียงข้าง เชฟทาลา บัชมิ Tala Bashmi เจ้าของตำแหน่ง MENA’s Best Female Chef จากการจัดอันดับ World’s 50 Best, เชฟ Loïc Portalier จากร้าน Louise ฮ่องกง, และ เชฟจ๋าย อรุษ เลอเลิศกุล จากร้านชามแกง ชามกรุง และชามก๊อกความร่วมมืออันล้ำค่านี้คือการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างศิลปะการปรุงอาหารตะวันออกกลาง ไทย และฝรั่งเศส ที่จะสร้างนิยามใหม่ให้กับการรับประทานอาหารในรูปแบบ มื้อบรันช์ ที่คงคอนเซปต์ Art of Gathering ของห้องอาหาร Lily’s ได้อย่างลงตัว
ขณะเดียวกัน ที่ Caleō Bar ภายใต้การดูแลของ Ewen Ledan ผู้จัดการบาร์และเครื่องดื่มมากฝีมือ จะจัดความร่วมมือสุดพิเศษในวันที่ 26 และ 27 กันยายน ระหว่าง Angelo Sparvoli หัวหน้าบาร์เทนเดอร์จาก American Bar อันเลื่องชื่อแห่งโรงแรม The Savoy กรุงลอนดอน กับ Simone Rossi มิกโซโลจิสต์ชื่อดังจากฮ่องกง และผู้คิดค้น Ratafia Rossi เหล้าลิเคอร์รสเชอร์รีสูตรอิตาเลียนอันเป็นเอกลักษณ์ การจับมือกันของทั้งสองมาสเตอร์นี้จะถ่ายทอดความคิดสร้างสรรค์ของศิลปะการผสมเครื่องดื่มระดับโลกให้กลายเป็นค่ำคืนที่ทุกคนไม่อาจลืม
นอกจากนี้ Caleō ยังได้เตรียมนำเสนอประสบการณ์ Afternoon Tea ช็อกโกแลตแบบมัลติเซนซอรีสุดล้ำค่า ที่จะพาผู้ร่วมงานดื่มด่ำไปกับโลกของโกโก้จากแหล่งปลูกที่โดดเด่นที่สุดทั่วโลก แขกจะได้เพลิดเพลินกับการชิมช็อกโกแลตอย่างมีแนวทาง พร้อมชมสาธิตสดโดย เชฟขนมหวาน Executive Pastry Chef Sylvain Constans ซึ่งจะเผยเบื้องหลังงานศิลป์อันประณีตของขนมหวานแต่ละชิ้นในเซ็ตอาฟเตอร์นูนทีพิเศษนี้ ตั้งแต่วันที่ 25 ถึง 28 กันยายน
สำรองที่นั่งและดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.theritzcarltonbangkok.com
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี