แหวกฟ้าหาฝัน : เดินตลาด Hotorgshallen ราชินีแห่งทะเลบอลติก Stockholm

แหวกฟ้าหาฝัน : เดินตลาด Hotorgshallen ราชินีแห่งทะเลบอลติก Stockholm

วันอาทิตย์ ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบยุโรป และไปเที่ยวภาคพื้นยุโรปรวมทั้งเกาะต่าง ๆ มาหลายแห่งแล้ว สถานที่หนึ่งที่แนะนำอีกแห่งก็คือ Stockholm ราชินีแห่งทะเลบอลติก ทั้งนี้เพราะ Norse Atlantic Airways เพิ่งจะมาเปิดบินตรงระหว่างกรุงเทพกับสต็อกโฮมด้วยค่าตั๋วเครื่องบินที่ราคาถูกกว่าตั๋วจากกรุงเทพไปโตเกียวของสายการบินไทยเสียอีก เมื่อมีสายการบินใหม่บินหลายเมืองในกลุ่มสแกนดิเนเวียมาทำตลาดในไทยจึงเป็นโอกาสดีของคนไทยที่จะได้สัมผัสประเทศในกลุ่มนี้


 

ประเทศในกลุ่มสแกนดิเนเวียประกอบด้วย สวีเดน เดนมาร์ก นอร์เวย์ และฟินแลนด์ ทั้งสี่ประเทศล้วนเป็นประเทศมั่งคั่ง แต่มีภูมิอากาศที่หนาวเย็นมาก ชาวสแกนดิเนเวียจึงนิยมหลบหนาวมาเที่ยวประเทศไทย ในอดีต สายการบินที่บินตรงระหว่างไทยกับกลุ่มประเทศนี้มี SAS, TG, FinnAir แต่ปัจจุบันเพิ่ม Norse Atlantic Airways ที่มีราคาเป็นมิตรมากจึงเป็นการเปิดโอกาสให้ทั้งชาวสแกนและชาวไทยได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างกันมากยิ่งขึ้น การเลือกเดินทางไป Stockholm เป็นที่แรกของกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวียก็เพราะเมืองหลวงของสวีเดนเป็นเมืองหลวงที่ใหญ่ที่สุดและมีประชากรมากที่สุดใน 4 ประเทศ อีกทั้งยังเป็นเมืองศูนย์กลางทางการค้าและวัฒนธรรมอีกด้วย

 

 

เมืองที่ถูกกล่าวขวัญถึงครั้งแรกในปี 1252 นี้มีความหมายว่าเป็นหมู่เกาะที่เต็มไปด้วยไม้ซุง นักประวัติศาสตร์เชื่อว่าเมืองนี้ถูกก่อตั้งโดย Birger Jarl เพื่อปกป้องสวีเดนจากการรุนราน เมื่อเมืองเติบโตขึ้นจากการค้าขายในทะเลบอลติกจนมีเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง และมีวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง สต็อกโฮมก็เริ่มถูกรุกรานโดยพระเจ้าคริสเตียนที่สองแห่งเดนมาร์กในปี 1520 จนเกิดการสังหารหมู่ที่เรียกว่า Stockholm Bloodbath อย่างไรก็ดีเมื่อพระเจ้ากุสตาฟวาซา ได้เถลิงอำนาจในปี 1523 ประเทศก็กลับมามีความมั่นคงและมั่งคั่งขึ้นจวบจนคริสต์ศตวรรษที่ 17 สวีเดนกลายเป็นหนึ่งในมหาอำนาจของยุโรป เมื่อประเทศมั่งคั่ง พระนางคริสติน่า ราชินีของสวีเดนก็ได้ให้การสนับสนุนทางด้านวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมอย่างมากจนดึงดูดนักคิดนักเขียนจากหลายประเทศให้ย้ายมาอยู่สต็อกโฮม

 

 

คริสต์ศตวรรษที่ 17 สวีเดนเริ่มกลายเป็นมหาอำนาจส่งผลให้เมืองสต็อกโฮมใหญ่โตขึ้นและมีประชากรเพิ่มขึ้นถึง 6 เท่า จักรพรรดิเลยมีดำริให้สร้างกำแพงเมืองขึ้นเพื่อกันอริราชศัตรู แต่เมื่อ TreKronor Castle ถูกไฟไหม้ พระราชวังสต็อกโฮมก็ถูกสร้างขึ้นใหม่เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเป็นจักรวรรดิสวีเดน และยกเลิกกำแพงเพื่อให้การขยายอาณาเขตเมืองเป็นไปได้ง่ายขึ้น โชคร้ายเริ่มมาเยือนเมื่อกาฬโรคระบาดในปี 1710 ส่งผลให้ประชากร 20,000 คนหรือกว่า 36% เสียชีวิตจนทำให้เมืองหยุดชงัก และเศรษฐกิจเสื่อมถอย เมืองเริ่มเติบโตอีกครั้งในสมัยพระเจ้ากุสตาฟที่สามหรือยุค Enlightenment นโยบายเศรษฐกิจของพระองค์ทำให้ประเทศก้าวหน้า อีกทั้งการชนะสงครามกับรัสเซียส่งเสริมให้ชื่อเสียงประเทศขจรขจาย ความเจริญรุ่งเรืองของประเทศมีอย่างต่อเนื่องจนถึงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ส่งผลให้เกิดการตั้งสถาบันทางด้านเทคโนโลยีและมหาวิทยาลัยมากมาย สต็อกโฮมกลายเป็นเมืองที่ทันสมัยและมีความหลากหลายมากปลายคริสต์ศตวรรษที่ 20 ส่งผลให้อาคารโบราณหลายแห่งถูกทำลายลงแล้วสร้างใหม่มีความทันสมัย อุตสาหกรรมหนักก็เปลี่ยนเป็นอุตสาหกรรมไฮเทคและบริการ

 

 

 

 

นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าเมืองสต็อกโฮมจากสนามบินทำได้ไม่ยากเพราะมีรถ Express ถึงกลางเมืองเลย สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวสายกินก็คือ Hotorgshallen ตลาดในร่มกลางเมือง ตลาดที่ถูกก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในทศวรรษที่ 1880 และได้รับการปรับปรุงใหม่ให้มีพื้นที่มากขึ้นในปี 1953 นี้เป็นตลาดที่มีชั้นใต้ดินขายสินค้าที่มีความหลากหลายทั้งของพื้นเมืองและนานาชาติ นักท่องเที่ยวไม่เพียงจะได้สัมผัสตลาดที่สะอาด ทันสมัย สวยงาม และอุดมไปด้วยกลิ่นหอมของอาหารปรุงสุกนานาชนิด แต่ยังจะมีโอกาสรับประทานอาหารในร้านเล็ก ๆ ที่มีอาหารพื้นเมืองและนานาชาติในสนนราคาที่ไม่สูงมากนักเทียบกับราคาในร้านอาหารอีกต่างหากด้วย

 

 

 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top