นวัตกรรมนมอัดเม็ดฯ ตัวช่วยจัดการภาวะเมตาบอลิกซินโดรมในเด็ก คว้ารางวัลระดับชาติ

นวัตกรรมนมอัดเม็ดฯ ตัวช่วยจัดการภาวะเมตาบอลิกซินโดรมในเด็ก คว้ารางวัลระดับชาติ

วันอังคาร ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2568, 16.08 น.

นวัตกรรม มช. สู่ "นมอัดเม็ดเสริมโพรไบโอติกสายพันธุ์ไทย"  ทางเลือกใหม่ช่วยจัดการภาวะเมตาบอลิกซินโดรมในเด็ก พร้อมคว้ารางวัลระดับชาติ

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดย อาจารย์ ดร.พัฒนพงศ์ เถิดตะถา คณะอุตสาหกรรมเกษตร ได้คิดค้นนวัตกรรม “นมอัดเม็ดเสริมโพรไบโอติกสายพันธุ์ไทย” ที่ช่วยจัดการภาวะเมตาบอลิกซินโดรมในเด็ก ซึ่งเป็นกลุ่มอาการที่เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคอ้วนและโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในอนาคต เช่น ภาวะอ้วนลงพุง ระดับน้ำตาลในเลือดสูง และความดันโลหิตสูง โดยผลงานนี้ได้รับรางวัลเหรียญเงินในงาน "Higher Education Innovation Awards 2025" จากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) อีกด้วย


จุดเริ่มต้นของนวัตกรรมนี้เกิดจากการผสมผสานของ 2 เทคโนโลยีหลักเข้าด้วยกัน คือ โพรไบโอติกสายพันธุ์ไทย Lactiplantibacillus plantarum CMUB-N14 และ แป้งต้านทานการย่อย (Resistant starch) จากกล้วยน้ำว้า ที่ทำหน้าที่เป็นสารเคลือบโพรไบโอติกและมีคุณสมบัติเป็นพรีไบโอติกอีกด้วย โดยทีมวิจัยพบว่าจุลินทีรย์ในระบบลำไส้ในแต่ละบุคคลนั้นมีความแตกต่างกันตามตามพันธุกรรม พื้นที่ และพฤติกรรมการบริโภคอาหาร และจุลินทรีย์ในระบบลำไส้ของคนไทยมีความแตกต่างจากชาวต่างชาติ จากการสำรวจการบริโภคโพรไบโอติกในประเทศไทย พบว่ากว่า 90% เป็นโพรไบโอติกที่นำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งอาจทำงานกับระบบลำไส้ของคนไทยได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ จึงเป็นที่มาของการพัฒนาจุลินทรีย์โพรไบโอติกสายพันธุ์ไทยเพื่อให้เข้ากับระบบลำไส้ของคนไทยโดยเฉพาะ

นอกจากนี้ การใช้แป้งต้านทานการย่อยจากกล้วยน้ำว้ามาเคลือบโพรไบโอติก ยังเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยให้จุลินทรีย์สามารถอยู่รอดในระบบทางเดินอาหารและเดินทางไปถึงลำไส้ใหญ่ได้อย่างปลอดภัย ก่อนจะขยายจำนวนและผลิตสารสำคัญ เช่น กรดไขมันสายสั้น (Short-chain fatty acids: SCFAs) ได้แก่ กรดอะซิติก กรดโพรพิโอนิก และกรดบิวทิริก ซึ่งมีบทบาทในการปรับสมดุลการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย การใช้วัตถุดิบอย่างกล้วยน้ำว้าไม่เพียงแต่เพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ แต่ยังช่วยส่งเสริมการใช้ผลผลิตทางการเกษตรที่ตกเกรดและสนับสนุนเกษตรกรในท้องถิ่นอีกด้วย

ประโยชน์ของโพรไบโอติกซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่คัดแยกจากธรรมชาติ เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยจัดการปัญหาโรคอ้วนและเบาหวานได้  เนื่องจากปัจจุบันพบว่าเด็กไทยมีภาวะเมตาบอลิกซินโดรมและเสี่ยงต่อโรคอ้วนลงพุงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การควบคุมอาหารหรือใช้ยารักษาอาจไม่เหมาะสมกับเด็กในวัยเจริญเติบโต

งานวิจัยนี้จึงได้นำโพรไบโอติกสายพันธุ์ไทยมาพัฒนาในรูปแบบนมอัดเม็ด ซึ่งเป็นขนมที่เด็กคุ้นเคยและรับประทานง่าย โดยมีให้เลือก 2 รสชาติ คือ รสออริจินัลและรสช็อกโกแลต จุดเด่นของนมอัดเม็ดนี้คือการรวมกันของโพรไบโอติกและพรีไบโอติกจากแป้งกล้วยน้ำว้า ทำให้เกิดคุณสมบัติ ซินไบโอติก (Synbiotic) ที่ช่วยส่งเสริมการทำงานของจุลินทรีย์ดีในระบบลำไส้ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับผู้บริโภคทุกวัย โดยเฉพาะกลุ่มเด็กที่เป็นเป้าหมายหลัก

โดยผลงานนี้ได้รับ รางวัลเหรียญเงิน จากการประกวดนวัตกรรม “Higher Education Innovation Awards 2025 ด้านเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร สายอุดมศึกษาประจำปี 2568 โดยสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เป็นผลงานของนักศึกษาระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ 1 ซึ่งเป็นความตั้งใจของอาจารย์ที่จะสนับสนุนนักศึกษาให้เป็นผู้ประกอบการ (Startup) ตั้งแต่ช่วงแรกของการศึกษา ในการต่อยอดเทคโนโลยีนี้ สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น โยเกิร์ต เครื่องดื่มเสริมฟังก์ชัน และอาหารหมักอย่างแหนม เป็นต้น ปัจจุบันจุลินทรีย์โพรไบโอติก L. plantarum CMUB-N14 อยู่ระหว่างการประเมินความปลอดภัยโดยศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (BIOTEC) เพื่อขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และผลักดันสู่ตลาดในอนาคต

นี่เป็นอีกหนึ่งผลงานที่น่าภาคภูมิใจของอาจารย์และนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ไม่เพียงแต่สร้างทางเลือกสุขภาพให้แก่คนไทยในเรื่องการจัดการภาวะเมตาบอลิกซินโดรม แต่ยังช่วยสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรท้องถิ่นและเพิ่มมูลค่าให้ผลผลิตทางการเกษตรของท้องถิ่นอย่างยั่งยืน

-(016)

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top