ตะลอนเที่ยว : วันที่ระลึกทรงดนตรี ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ตะลอนเที่ยว : วันที่ระลึกทรงดนตรี ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

วันอาทิตย์ ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

ความใกล้ชิดระหว่างพระเจ้าแผ่นดินไทยกับพสกนิกร เป็นสิ่งยืนยันชัดเจนว่า "ฟ้ากับดิน" ไม่เคยอยู่ห่างไกลกันเลยแม้แต่น้อย เพราะ "ฟ้า" ทรงห่วงใย และทรงให้ความเป็นกันเองกับ "ดิน" เสมอมา ดังนั้นในสังคมไทยจึงไม่มีปัญหาช่องว่างระหว่าง "ฟ้ากับดิน"



พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร หรือที่คนไทยขานพระนามว่า ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงเป็นฟ้าที่พระราชทานความเป็นกันเองกับพสกนิกรตลอดเวลา ดังจะพบได้ชัดเจนในระหว่างการเสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมเยียนราษฎรในเขตห่างไกลความเจริญ และแสนทุรกันดาร ภาพชินตาที่พสกนิกรได้เห็นเป็นประจำคือพระองค์ประทับกับพื้นดินแล้วมีพระราชปฏิสันถารกับพสกนิกรที่เข้าเฝ้าฯ 


นอกจากทรงห่วงใยพสกนิกรในเขตทุรกันดารแล้ว ยังพระราชทานโครงการในพระราชดำริเพื่อช่วยเหลือและแก้ปัญหาต่าง ๆ ให้ประชาชนตลอดเวลา อาทิ โครงการเกี่ยวกับชลประทาน โครงการพัฒนาปรับปรุงคุณภาพดิน รวมถึงโครงการด้านการเกษตรกรรมอีกมากมายจนเกินพรรณนาได้ครบถ้วนทุกโครงการได้ภายในระยะเวลาอันสั้น


ขณะเดียวกัน พระองค์ยังทรงเป็นห่วงปัญญาชนของประเทศ ด้วยทรงทราบดีว่าปัญญาชนคือจักรกลสำคัญตัวหนึ่งที่จะช่วยพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าได้อย่างดี ดังนั้น พระองค์จึงทรงใส่พระทัยกับการพัฒนาการศึกษาขั้นสูงของประเทศ โดยพระราชทานความช่วยเหลือต่าง ๆ ให้สถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา และยังทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ด้วยการเสด็จพระราชดำเนินพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เพราะทรงเห็นว่าการได้มีโอกาสได้พบปะกับบัณฑิตคือการช่วยให้บัณฑิตมีขวัญกำลังใจออกไปช่วยสร้างสรรค์ความเจริญให้ประเทศชาติ และยังพระราชทานพระบรมราโชวาทแด่บัณฑิต เพื่อเป็นเครื่องย้ำเตือนใจให้ช่วยกันพัฒนาประเทศ


ด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ พระองค์ท่านจึงพระราชพระบรมราชวโรกาสให้นิสิต นักศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาหลายแห่งได้มีโอกาสอันดีที่จะได้เข้าเฝ้าฯ โดยทรงเลือกใช้การพบปะกับปัญญาชนด้วยรูปแบบที่เป็นกันเอง นั่นคือเสด็จพระราชดำเนินไปทรงดนตรีในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ อาทิ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยมหิดล รวมถึงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นต้น 


สำหรับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยคือสถาบันอุดมศึกษาแห่งแรกที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ โดยเสด็จพระราชดำเนินไปทรงดนตรีร่วมกับนักดนตรีของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยเสด็จพระราชดำเนินทรงดนตรีครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2501 จนกระทั่งถึงปี พ.ศ. 2516 แต่หลังจากนั้นทรงมีพระราชภารกิจที่สำคัญกว่าจึงทรงงดการเสด็จพระราชดำเนินทรงดนตรี ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ด้วย


ดังนั้น วันที่ 20 กันยายนทุกปีจึงเป็นวันที่ระลึกทรงดนตรี ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยผู้บริหารมหาวิทยาลัยได้จัดงานเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระองค์ท่าน โดยปีนี้ได้จัดงานไปเมื่อวันที่ 20 กันยายน ณ หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นสถานที่ที่พระองค์ท่านเสด็จทรงดนตรี โดยในหลาย ๆ วาระนั้น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยเสด็จด้วย พร้อมทั้งสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ โดยเสด็จด้วย (สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ คือพระบรมราชอิสริยยศในขณะนั้น)


และเป็นประจำเมื่อเสด็จพระราชดำเนินทรงดนตรีที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็จะทรงเชิญชวนให้ผู้เข้าเฝ้าฯ ร่วมกันสมทบทุนทุนอานันทมหิดล (ต่อมาคือมูลนิธิอานันทมหิดล) เพื่อนำเงินไปเป็นทุนการศึกษาสำหรับบัณฑิตที่ได้การคัดเลือกไปศึกษาต่อขั้นสูงในมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก เพื่อนำความรู้ด้านวิชาการกลับมาพัฒนาประเทศ โดยพระองค์ท่านพระราชทานทุนประเดิมสำหรับทุนอานันทมหิดล จำนวน 2 หมื่นบาท เมื่อปี พ.ศ. 2498 ดังนั้น จึงถือเป็นประเพณีที่ผู้เข้าชมการแสดงดนตรีในวันที่ระลึกทรงดนตรีจะร่วมกันบริจาคเงินสมทบมูลนิธิอานันทมหิดลเป็นประจำทุกปี


สำหรับการแสดงในงานของปี 2568 นี้ มีนักดนตรีจากวง CU Band , OCU Band (Old CU Band) และนักร้องที่เป็นนิสิตเก่า และนิสิตปัจจุบันไปรวมงานอย่างคับคั่ง แต่ปีนี้มีความแปลกใหม่ตรงที่บรรดาผู้บริหารของจุฬาฯ ได้ร่วมร้องเพลง "จุฬาฯ ของเรา" ด้วย เพลงนี้กล่าวถึงคณะและวิทยาลัยต่าง ๆ ในจุฬาฯ อย่างครบถ้วน 


สำหรับนักร้อง นักดนตรีกิตติมศักดิ์ของงานในปีนี้คือ ม.ร.ว. เบญจาภา ไกรฤกษ์ นิสิตเก่าคณะรัฐศาสตร์ อดีตนักร้องประจำวง อ.ส. วันศุกร์ (อัมพรสถานวันศุกร์) สุวิทย์ อังศวานนท์ นนท์ บูรณสมภพ ถาวร เยาวขันธ์ และภูษิต ไล้ทอง เป็นต้น ส่วนปีนี้ไม่มีคนสำคัญของงานคือสันทัด ตัณฑนันทน์ หรือลุงตัน ไปร่วมด้วย เนื่องจากลุงตันได้จากไปแล้วเมื่อไม่นานมานี้ 


และในโอกาสนี้ ยังเป็นปีที่ CU Band มีอายุครบ 70 ปีด้วย ดังนั้นจึงนับเป็นโอกาสพิเศษที่ CU Band ได้ร่วมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพราะวง CU Band ได้รับพระมหากรุณาธิคุณให้ร่วมเล่นและแสดงดนตรีกับพระองค์ท่านมาก่อน  

 


ส่วนในภาพที่เห็นนักเรียนตัวน้อยร่วมการแสดงในครั้งนี้คือ นักเรียนชั้นประถมจากโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ร่วมบรรเลงโดยใช้ฮาร์โมนิกา (หรือ mouth organ) ภายใต้การฝึกซ้อมโดยณานดนู ไล้ทอง 
ขอเชิญชวนคุณผู้อ่านร่วมบริจาคเงินสมทบมูลนิธิอานันทมหิดล โดยบริจาคผ่านธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ชื่อบัญชี “สมทบทุนอานันทมหิดล วันที่ระลึกวันทรงดนตรี” บัญชีเลขที่ 045-2-98139-9 ผู้บริจาคจะได้รับใบเสร็จเพื่อนำไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้ด้วย โดยผู้บริจาคที่ต้องการใบเสร็จรับเงิน โปรดกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มร่วมบริจาคเงินสมทบทุนอานันท

มหิดล https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSdvV9noinhZptfs7fTlvdwZQVr0EjlWzme_b0Cmh9ucOMvOeA/viewform หรือส่งใบโอนเงินไปที่ Line official : วันที่ระลึกวันทรงดนตรี @240wuccm ภายใน 1 เดือน นับจากวันที่เงินเข้าบัญชีรับเงินบริจาค สำนักบริหารกิจการนิสิตจะดำเนินการส่งใบเสร็จรับเงินให้ผู้บริจาคทางไปรษณีย์ภายใน 1 เดือนนับจากวันที่ได้รับข้อมูลบริจาค หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดโทรศัพท์สอบถามที่หมายเลข 0-2218-7373 ในวันเวลาราชการ

 

ตะลอนเที่ยว by Mr. Flower


 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top