วันพฤหัสบดี ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
'เอมอร โคพีร่า' มุ่งถ่ายทอดปัญญาแห่งจิตสู่การเยียวยา ภาวะซึมเศร้า-โรคเครียด ลดการฆ่าตัวตาย

'เอมอร โคพีร่า' มุ่งถ่ายทอดปัญญาแห่งจิตสู่การเยียวยา ภาวะซึมเศร้า-โรคเครียด ลดการฆ่าตัวตาย

วันพุธ ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 14.20 น.
Tag : ภาวะซึมเศร้า โรคเครียด เอมอร โคพีร่า
  •  

แพทย์ไทย เดินสายให้ความรู้และนำการถ่ายทอดปัญญาแห่งจิตสู่การเยียวยา ภาวะซึมเศร้าและโรคเครียด  มุ่งลดความเสี่ยงฆ่าตัวตายซึ่งมีอัตราเพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก

แพทย์หญิงไทย ทำโลกตะลึง นำหลักการถ่ายทอดปัญญาแห่งจิต สู่การเยียวยา บำบัดช่วยเหลือผู้คนที่ตกอยู่ในภาวะซึมเศร้าและความเครียด อันนำไปสู่การฆ่าตัวตาย ซึ่งเป็นภาวะการณ์ที่เพิ่มสูงขึ้นของประชากรทั่วโลก เผย การบูรณาการทางความคิด จิต อารมณ์ และสติสัมปชัญญะเข้าด้วยกัน  เป็นพลังหนึ่งเดียวที่จะช่วยให้คนเรามีความยืดหยุ่น เข้าใจในสถานการณ์ เห็นความชัดเจนของปัญหา เห็นทางแก้ไข และ มีความเห็นอกเห็นใจ มั่นใจว่า การถ่ายทอดปัญญาแห่งจิตนี้ จะสามารถเชื่อมโยง ผสมผสานระหว่างประเพณีและนวัตกรรมเพื่อทำให้ ผู้คนทั่วโลกมีความมั่นคง และ มีสุขภาพดีในระยะยาว


แพทย์หญิง ดร.เอมอร โคพีร่า แพทย์หญิงไทยผู้คร่ำหวอดในการศึกษาด้านสาธารณสุข ผู้ซึ่งมีประสบการณ์ด้านจิตวิทยาแนวพุทธมาอย่างยาวนาน ผู้ซึ่งมีชื่อเสียงไปทั่วโลก กล่าวว่า ประเทศไทยและทุกประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญกับช่วงเวลาสำคัญในเส้นทางสุขภาพจิต สำหรับคนไทยพบว่า มากกว่า 9% มีความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า 7% มีภาวะเครียดสูงในระดับอันตราย และมากกว่า 5% เผชิญกับความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย โดยในปี พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา พบว่า  มีคนเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายเฉลี่ย 15 คนต่อวัน หรือเฉลี่ย 1 คนในทุก 2 ชั่วโมง การเข้าถึงการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญมีจำกัด โดยมีจิตแพทย์เพียง 1.28 คน และนักจิตวิทยา 1.57 คน ต่อประชากร 100,000 คน และบางจังหวัดไม่มีผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตเลย “ความท้าทายเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่เกิดขึ้นในทุกประเทศทั่วโลกเช่นกัน ดังนั้น จำเป็นต้องอาศัยแนวทางแก้ไขที่มีประสิทธิภาพและหยั่งรากลึกในอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของชาติ”

แพทย์หญิง ดร.เอมอร กล่าวต่อไปว่า “ปัญหาสุขภาพจิตของคนไทยมักเกิดจากบาดแผลที่อยู่ในจิต และบาดแผลที่ลึกที่สุด คือบาดแผลที่มองไม่เห็น  มันฝังรากลึกในจิตและในหัวใจ  ความตระหนักรู้นี้หล่อหลอมเส้นทางที่จะแสวงหาการเยียวยาที่อยู่เหนือสภาวะทางร่างกาย ซึ่งดิฉันได้นำเอาจิตวิทยาแนวพุทธ จิตวิทยาเหนือบุคคลและการฟื้นฟูเยียวยาในโลกตะวันตก และสำรวจการใช้การบำบัดด้วยสารจิตประสาท และการใช้เห็ดทางการแพทย์ ภายใต้การควบคุมและดูแลจากแพทย์อย่างเข้มงวด ที่อิงอ้างหลักการบำบัดจากงานวิจัยเชิงประจักษ์ มาใช้เพื่อช่วยในการเยียวยา หลังจากที่ดิฉันได้บรรยายเรื่องนี้บนเวทีระดับโลกและตีพิมพ์หนังสือเกี่ยวกับการหายใจอย่างมีสติและสติสัมปชัญญะ ดิฉันกลับเมืองไทยพร้อมกับภาระกิจใหม่ นั่นคือการช่วยให้ประเทศไทยเป็นผู้นำโลกในสิ่งที่ดิฉันเรียกว่า “ปัญญาแห่งจิต (สติปัญญาทางจิตใจ)”

สติปัญญาทางจิตใจ คือ ความสามารถในการควบคุม ขยาย และเปลี่ยนแปลงสภาวะภายในของเรา มันคือ การบูรณาการทางความคิด จิต อารมณ์ และสติสัมปชัญญะเข้าด้วยกัน  เป็นพลังหนึ่งเดียวที่จะเยียวยาผู้คน โดยสติปัญญาทางจิตใจ จะส่งผลคนที่เข้าถึง เกิดความยืดหยุ่น ความชัดเจน และความเห็นอกเห็นใจ ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลต่อการสร้างสมดุลในการดำรงชีวิตเท่านั้น แต่จะเป็นนวัตกรรมที่ทำให้เกิดความมั่นคง และสร้างสุขภาพดีให้แก่ประชาชนและประเทศชาติในระยะยาวอีกด้วย

การบำบัดด้วยการหายใจ การบำบัดด้วยสารจิตประสาท และการใช้เห็ดทางการแพทย์ ภายใต้การควบคุมและดูแลจากแพทย์อย่างเข้มงวด ไม่ใช่สิ่งทดแทนการดูแลแบบดั้งเดิม แต่เป็นเครื่องมือเสริมที่เมื่อปฏิบัติอย่างปลอดภัยและมีจริยธรรม จะสามารถค้นพบเส้นทางใหม่ ๆ สำหรับการเยียวยาบาดแผลทางใจ ภาวะซึมเศร้า และความวิตกกังวลได้

แนวทางในการดำเนินงาน คือ การทำให้ปัญญาแห่งจิตเป็นทรัพยากรที่ทุกคนเข้าถึงได้ ไม่ว่าจะเป็นในโรงเรียน ชุมชน และสถานที่ทำงาน ประเทศที่ปัญญาแห่งจิตเข้มแข็งจะไม่เพียงแต่เยียวยาประชาชนเท่านั้น แต่ยังจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับโลกอีกด้วย

“ประเทศไทยกำลังอยู่ในจุดเปลี่ยน การผสมผสานประเพณีเข้ากับนวัตกรรม ช่วยให้เรานิยามความหมายของสุขภาวะทางจิตใจใหม่ได้ ไม่ใช่แค่การปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ แต่คือการมีจิตใจแจ่มใส เข้มแข็ง และเบิกบาน ดิฉันเชื่อว่าประเทศไทยสามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำในการเคลื่อนไหวระดับโลกครั้งนี้ได้ และถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนช่วยกำหนดทิศทางดังกล่าว”  แพทย์หญิง ดร. เอมอร กล่าวในที่สุด

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://draimon.com/

หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่อีเมล์ Aimonkopera@gmail.com และ Draimon@mindaiinstitute.com

-(016)

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

สถานทูต ณ กรุงปารีส เตือนคนไทย 2 ต.ค. หลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมชน คาดผู้ร่วมประท้วงกว่า 5 แสนคน

เปิดคลิป 'เสธ.เบิร์ด' คว้าปัตตาเลี่ยน 'ตัดผมให้พ่อ' ฉลองวันเลื่อนขั้น

ภรรยาสุดปลื้ม! 'เสธเบิร์ด'ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็น'พลโท' แฟนคลับแห่ยินดีเพียบ

'ปู มัณฑนา'เล่านิทานบ้าง! ซัดเดือดถึงใคร'ความรู้ไม่มี จัดได้ว่าโง่ อิจฉาอีกช่อง'ติดแฮชแท็กแซ่บ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved