ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จัดกิจกรรมรณรงค์บริการวิชาการส่งเสริมสุขภาพเนื่องในวันหัวใจโลก ประจำปี 2568 บูรณาการทีมแพทย์และบุคลากรสหสาขาวิชาชีพด้านการดูแลรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ร่วมส่งสารรณรงค์สร้างการตระหนักรู้ถึงอันตรายและภาวะต่างๆ ของโรคหัวใจและหลอดเลือด ภายใต้แนวคิด “อย่ารอให้ใจพัง ฟังเสียงหัวใจก่อนจะสาย” ใช้ใจร่วมกันเอาชนะโรคหัวใจและหลอดเลือดไปด้วยกัน เพื่อร่วมตอกย้ำสารรณรงค์ตามคำขวัญสมาพันธ์หัวใจโลก คือ YES USE HEART FOR ACTION ทั้งนี้ สมาพันธ์หัวใจโลกได้กำหนดให้ทุกวันที่ 29 กันยายนของทุกปี เป็นวันหัวใจโลก (World Heart Day)และได้ระบุว่า โรคหัวใจและหลอดเลือดยังเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของโลก โดยพบผู้เสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจ (CVD) คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 20.5 ล้านคนต่อปี แต่การเสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากโรคหลอดเลือดหัวใจถึง 80% สามารถป้องกันได้หากเข้าถึงการรักษาที่มีคุณ ภาพและได้รับการคัดกรองตั้งแต่ในระยะเริ่มต้น รวมถึงทางเลือกในการเลือกโภชนาการที่ดีต่อสุขภาพและการออกกำลังกาย สำหรับประเทศ ไทยข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข ปี 2568 ประเทศไทยมีผู้ป่วยสะสมโรคหัวใจและหลอดเลือดมากถึง 2.6 แสนคน และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในแต่ละปี
ภายในงานได้รับเกียรติจาก รศ.นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย นพ. ดำรงค์ สุกิจปัญญาโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และ ดร.นพ.วิโรจน์ เมืองศิลปศาสตร์ ผู้อำนวยการศูนย์หัวใจและหลอดเลือด นำทีมทอล์กสร้างแรงบันดาลใจภายใต้หัวข้อ YES USE HEART FOR ACTION กับ 8 ทีมการดูแลหัวใจครบวงจรของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ พร้อมเปิดตัวบริการใหม่ AF Virtual Ward ระบบการดูแลผู้ป่วยภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะทางไกล ที่ช่วยให้แพทย์สามารถติดตามอาการผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด แม้จะอยู่ที่บ้าน ลดความเสี่ยงและเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับผู้ป่วยโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เปิดให้บริการตรวจรักษาผู้ป่วยกลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือด ตามพระดำริของ ศ.ดร.สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ที่ทรงมีพระปณิธานในการพัฒนาต่อยอดโรงพยาบาลจุฬาภรณ์เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่ครอบคลุมการรักษาทุกโรคให้กับประชาชน โดยตลอดระยะเวลาของการดำเนินงานศูนย์หัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลได้มุ่งพัฒนาและสร้างนวัตกรรมสุขภาพใหม่ๆ ของการให้บริการดูแลผู้ป่วยกลุ่มหัวใจและหลอดเลือด ด้วยประสบการณ์ของทีมแพทย์เฉพาะทางและบุคลากรสหสาขาวิชาชีพที่ร่วมปฏิบัติงาน ทั้งนี้ ศูนย์หัวใจและหลอดเลือดโรงพยาบาลฯได้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมการรักษาที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูงมาใช้เพื่อเพิ่มความแม่นยำ ความปลอดภัย และลดระยะเวลาการฟื้นตัวของผู้ป่วยโดยครอบคลุมการรักษาโรคหัวใจที่ซับซ้อนในทุกมิติด้วย 8 ทีมการดูแลหัวใจครบวงจร ประกอบด้วย
ทีมหัตถการสวนหลอดเลือดหัวใจ ที่มากประสบการณ์และมีความชำนาญสำหรับการตรวจและรักษาผ่านสายสวนโดยไม่ต้องผ่าตัด ทำการขยายหลอดเลือดด้วยบอลลูนและใส่ขดลวด การเปลี่ยนลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบผ่านสายสวน TAVR, การรักษาภาวะลิ้นหัวใจไมทรัลรั่วด้วย MitraClip โดย ดร.นพ.วิโรจน์ เมืองศิลปศาสตร์ ผู้อำนวยการศูนย์หัวใจและหลอดเลือด และแพทย์เฉพาะทางด้านอายุรศาสตร์โรคหัวใจและหลอดเลือด กล่าวว่า “การรักษาที่ดีเริ่มจากการวินิจฉัยที่แม่นยำ หน่วยหัตถการของเรา เริ่มจากการตรวจสวนหัวใจเพื่อประเมินสภาพหลอดเลือดหัวใจแบบปัจจุบันทันด่วน ร่วมกันวางแผนการรักษาแบบรายบุคคลกับคนไข้และครอบครัว การรักษาด้วยวิธีผ่านสายสวนช่วยลดภาระการผ่าตัด ลดระยะเวลาพักฟื้น และกลับสู่ชีวิตประจำวันได้เร็วขึ้น ขณะเดียวกันเรามีทีมฉุกเฉิน 24 ชั่วโมงรองรับภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน เพื่อ ให้การรักษารวดเร็ว ปลอดภัย และติดตามผลอย่างต่อเนื่อง”
ทีมรักษาภาวะหัวใจล้มเหลว ใช้แนวทางมาตรฐานสากลในการดูแลผู้ป่วยด้วยการปรับยา เทคโนโลยีการบำบัดเพื่อประสานจังหวะการเต้นของหัวใจ โดยใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจ (pacemaker) ที่มีสายไฟไปยังห้องหัวใจทั้งสองข้าง เพื่อให้หัวใจเต้นพร้อมกันดีขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิ ภาพการสูบฉีดเลือด ส่วน ICD (Implantable Cardioverter Defibrillator) คือเครื่องกระตุกหัวใจอัตโนมัติ ที่จะตรวจจับและช็อกไฟฟ้าเพื่อรักษาภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะที่เป็นอันตรายถึงชีวิต และระบบติดตามระยะไกล โดย นพ.โชคอนันต์ ไทยถิรโรจน์ แพทย์เฉพาะทางสาขาอายุรศาสตร์โรคหัวใจและหลอดเลือด กล่าวว่า “ภาวะหัวใจล้มเหลวเป็นโรคเรื้อรังที่ต้องการการดูแลแบบองค์รวม ที่นี่เราใช้แนวทางการรักษาตามมาตรฐานสากล (guideline-directed care) โดยเริ่มจากการปรับยาอย่างเป็นระบบ ติดตามอาการและการทำงานของหัวใจอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการให้การศึกษาเรื่องการดูแลตัวเองที่บ้าน ทีมของเรายังสามารถพิจารณาใช้เทคโนโลยีช่วยรักษา ในผู้ป่วยที่มีข้อบ่งชี้ เพื่อป้องกันการเสียชีวิตฉับพลันและเพิ่มคุณภาพชีวิต นอกจากนี้เรานำระบบติดตามระยะไกลและบริการผู้ป่วยนอกแบบสหสาขาเข้ามาใช้ เพื่อลดการกลับเข้าโรงพยาบาลซ้ำและดูแลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่องจากที่บ้าน” พร้อมกล่าวถึงบริการใหม่ AF Virtual Ward ว่า “โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะเป็นโรคที่ต้องติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง เดิมผู้ป่วยมักต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อการดูแลใกล้ชิด แต่ด้วย AF Virtual Ward ผู้ป่วยสามารถอยู่บ้านได้อย่างปลอดภัย โดยมีการเชื่อมต่อข้อมูลสุขภาพกับทีมแพทย์ตลอดเวลา บริการนี้ผู้ป่วยจะได้รับ อุปกรณ์ตรวจวัดสัญญาณชีพและเครื่องตรวจจังหวะการเต้นของหัวใจ ซึ่งส่งข้อมูลถึงแพทย์ทันที ทำให้สามารถปรับการรักษาและให้คำแนะนำได้แบบเรียลไทม์ ทั้งยังช่วย ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน ลดค่าใช้จ่ายและลดระยะเวลาในการมาโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น นอกจากนี้ โรงพยาบาลจุฬา ภรณ์ ยังเป็นแห่งแรกในประเทศไทย ที่นำ AF Virtual Ward มาประยุกต์ใช้จริง ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการยกระดับมาตรฐานการดูแลรักษาโรคหัวใจของประเทศให้ก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ”
ทีมรักษาภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ วินิจฉัยด้วย Electrophysiology study และรักษาด้วยการจี้ไฟฟ้า (RF, Cryoablation) ที่มีอัตราการหายขาดสูง โดย นพ.สนัฐชา อาภาคัพภะกุล แพทย์เฉพาะทางสาขาอายุรศาสตร์โรคหัวใจและหลอดเลือด กล่าวว่า “ภาวะหัวใจเต้นผิดจัง หวะมีหลายรูปแบบ ตั้งแต่ไม่มีอาการจนถึงอาการที่รุนแรงและเสี่ยงต่อชีวิต การตรวจวินิจฉัยด้วย Electrophysiology study (EPS) และการทำแผนที่ไฟฟ้าภายในหัวใจช่วยให้เราระบุตำแหน่งสาเหตุได้อย่างแม่นยำ จากนั้นใช้การจี้ไฟฟ้าหัวใจ (Catheter Ablation) ด้วยพลังงานความร้อน (RF) หรือความเย็น (Cryo) ทำลายจุดที่ก่อปัญหา ซึ่งมีอัตราการหายขาดสูงถึง 80–90% หลังหัตถการ ผู้ป่วยจะถูกติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินผลและปรับการรักษา ทั้งนี้เราจะอธิบายความเสี่ยงและทางเลือกทั้งหมดให้ผู้ป่วยตัดสินใจร่วมด้วยความเข้าใจ”
ทีมรักษาภาวะหัวใจในผู้ป่วยมะเร็ง ดูแลผู้ป่วยร่วมกับทีมมะเร็งอย่างใกล้ชิด เพื่อลดผลกระทบจากยาและการรักษามะเร็งต่อหัวใจ โดย รศ. พญ.ชลธิชา ตั้งกิจ แพทย์เฉพาะทางด้านอายุรศาสตร์โรคหัวใจ การตรวจหัวใจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าหัวใจ กล่าวว่า “การรักษามะเร็งในปัจจุบันได้ประสิทธิภาพสูงขึ้น แต่ยาและการรักษาบางชนิดอาจส่งผลต่อหัวใจ การคัดกรองหัวใจก่อนการให้ยารักษามะเร็งจึงเป็นกุญแจสำคัญ เราจะประเมินการทำงานของหัวใจ ตรวจคลื่นไฟฟ้าและคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจก่อน ระหว่างและหลังการรักษาเพื่อจับสัญญาณความผิดปกติแต่เนิ่น ๆ” และ พญ.ชญานี สำแดงปั้น แพทย์เฉพาะทางด้านอายุรศาสตร์มะเร็งวิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่า “เมื่อพบความเสี่ยงหรือความผิดปกติ ทีมจะแจ้งกับทีมมะเร็งเพื่อปรับแผนการรักษา เช่น ลดความเสี่ยงโดยปรับยาระยะเวลาหรือทางเลือกการรักษา อีกทั้ง ให้การดูแลหัวใจเชิงป้อง กันและการฟื้นฟูเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษามะเร็งต่อเนื่องโดยได้รับการปกป้องหัวใจไปพร้อมกัน”
ทีมรักษาหัวใจในเด็ก ให้บริการตรวจคัดกรอง รักษา และติดตามเด็กที่มีโรคหัวใจแต่กำเนิด โดย พญ.ศรัยอร ธงอินเนตร แพทย์เฉพาะทางกุมารเวชศาสตร์โรคหัวใจ กล่าวว่า “หัวใจเด็กคือหัวใจของอนาคต เราตระหนักว่าโรคหัวใจไม่ได้เป็นแต่ผู้ใหญ่ เด็กที่มีปัญหาด้านโรคหัวใจแต่กำเนิดหรือเกิดภายหลังต้องการการตรวจคัดกรองและติดตามระยะยาว เราใช้การตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง Echocardiogram, อุป กรณ์บันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจ Holter และการทดสอบสมรรถภาพตามความเหมาะสมเพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะกับการเจริญเติบโตของเด็กแต่ละคน” และ พญ.ธมกร ขวัญยืน แพทย์เฉพาะทางกุมารเวชศาสตร์โรคหัวใจ กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับเด็กบางรายสามารถรักษาด้วยหัตถการผ่านสายสวนที่ไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ได้ ขณะที่บางรายต้องการการผ่าตัดร่วมกับทีมผู้เชี่ยวชาญด้านทารกและวิกฤติเด็ก การให้คำแนะนำแก่ผู้ปกครองและการติดตามการเจริญเติบโตเป็นหัวใจสำคัญของการดูแลระยะยาว”
ทีมผ่าตัดรักษาหัวใจ เน้นการผ่าตัดหัวใจแบบแผลเล็ก (minimally invasive) และการผ่าตัดทำทางเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจ เพื่อแก้ไขภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบหรืออุดตัน CABG ร่วมเทคโนโลยีทันสมัย เพื่อลดระยะพักฟื้น โดยแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยศาสตร์หัวใจและทรวงอก นำโดย นพ.สุขสันต์ กนกศิลป์,นพ.พิเชษฐ์ เลิศปันณะพงษ์, นพ.โกเมน เสนงาม และ นพ.ฆนากร แก้วกิติพงษ์ โดยงานนี้ นพ.สุขสันต์ กล่าวว่า “การผ่าตัดหัวใจยุคใหม่มุ่งเน้นความปลอดภัยและการฟื้นตัวเร็ว ที่โรงพยาบาลฯเราให้บริการผ่าตัดหัวใจแบบแผลเล็ก (minimally invasive) สำหรับการซ่อม/เปลี่ยนลิ้นหัวใจ และการทำบายพาสหลอดเลือดหัวใจ (CABG) เมื่อจำเป็น เทคโนโลยีกล้องและเครื่องมือเฉพาะช่วยลดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อ ทำให้ผู้ป่วยเจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว และลดระยะเวลาพักรักษาตัวในโรงพยาบาล หลังผ่าตัดเรามีระบบการฟื้นฟูและติดตามแบบครบวงจรเพื่อให้ผู้ป่วยกลับสู่ชีวิตประจำวันได้อย่างปลอดภัย”
ทีมตรวจสมรรถภาพหัวใจ ให้บริการตรวจด้วยเทคโนโลยีครบวงจร อาทิ ECG, Holter, Echocardiography, CPET เพื่อประเมินความเสี่ยงอย่างละเอียด นพ.ปรัชญา ระหว่างบ้าน แพทย์เฉพาะทางสาขาอายุรศาสตร์โรคหัวใจและหลอดเลือดกล่าวว่า “การตรวจสมรรถภาพและการวินิจฉัยเชิงลึกคือฐานข้อมูลสำคัญของการดูแลหัวใจ เรามีบริการ ECG, Holter,ExerciseStress Test, Echocardiography รวมถึง CT/MRI หัวใจและการทดสอบการเผาผลาญขณะออกกำลังกาย (CPET) ในบางราย เพื่อให้ได้ข้อมูลทั้งโครงสร้างและการทำงานของหัวใจอย่างครบถ้วนผลการตรวจเหล่านี้ช่วยให้ทีมแพทย์ทุกสาขาร่วมกันตัดสินใจการรักษาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพที่สุดสำหรับผู้ป่วยแต่ละคน” และเนื่องในวันหัวใจโลก นพ.ปรัชญาได้ฝากข้อคิดสำคัญว่า “หัวใจของทุกท่านมีเพียงดวงเดียว ดูแลด้วยการออกกำลังกาย พักผ่อนเพียงพอ กินอาหารที่ดี ลดความเครียด และตรวจสุขภาพหัวใจอย่างสม่ำเสมอ เพราะหัวใจแข็งแรง คือคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน”
ทีมฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจ ปอด และหลอดเลือด ฟื้นฟูด้วยโปรแกรมออกกำลังกาย โภชนาการและกาสนับสนุนด้านจิตใจ โดยนักกายภาพ บำบัด เบญญาดา สุธนาวรกุล หัวหน้าหน่วยฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจ หลอดเลือดและปอด กล่าวว่า “การรักษาไม่ได้จบเพียงเมื่อหัตถการเสร็จการฟื้นฟูเป็นขั้นตอนสำคัญที่คืนความแข็งแรงและคุณภาพชีวิตให้ผู้ป่วยโปรแกรมฟื้นฟูของเราประกอบด้วยการออกกำลังกายแบบกำหนดเฉพาะบุคคลที่คำนึงถึงความเสี่ยง การฝึกการหายใจและกายภาพบำบัด การให้คำแนะนำด้านโภชนาการ และการสนับสนุนด้านจิตใจ เรามีการติดตามผลเชิงวัตถุประสงค์ เช่น สมรรถภาพการออกกำลังกาย (VO2) และการลดการกลับเข้าโรงพยาบาล เพื่อวัดผลลัพธ์ที่ชัดเจน”
ภายในงานนอกจากการถ่ายทอดองค์ความรู้ทางการแพทย์จากทีมแพทย์ทั้งหมดแล้ว ยังได้รับการถ่ายทอดประสบการณ์จากผู้ป่วยที่ได้รับการเปลี่ยนลิ้นหัวใจเอออร์ติก (TAVR) พร้อมทั้งพูดคุยกับพระเอกหนุ่ม สมิธ-ภาสวิชญ์ บูรณนัติ ที่มาร่วมทอล์กส่งต่อพลังบวกสร้างพลังใจให้กับผู้ป่วย โดยมี ดีเจเอกกี้–เอกชัย เอื้อสังคมเศรษฐ ร่วมดำเนินรายการเติมเต็มบรรยากาศให้มีความสุข สนุกและอบอุ่นสร้างพลังใจให้กับทุกคนที่มาร่วมงานอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งร่วมรณรงค์ส่งเสริมการดูแลสุขภาพหัวใจคนไทยให้แข็งแรงด้วยการชวนกันลุกขึ้นมาออกกำลังและร่วมเป็นสะพานบุญเชื่อมต่อทุกหัวใจให้แข็งแรงด้วยหัวใจแห่งการให้ ผ่านการร่วมบริจาคสมทบทุนมูลนิธิศรีสวางควัฒน ในพระอุปถัมภ์ฯ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยให้สามารถเข้าถึงการรักษาโรคลิ้นหัวใจผ่านสายสวนได้ที่บัญชี ธนาคารกรุงเทพ เลขที่ 942-300099-2 ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ยังคงเดินหน้าด้วยพันธกิจในการยกระดับคุณภาพการรักษาโรคหัวใจของประเทศไทยสู่มาตรฐานสากล ควบคู่ไปกับการสร้างความตระหนักรู้ด้านการดูแลสุขภาพหัวใจโดยมุ่งหวังให้คนไทยทุกคนมีสุขภาพหัวใจที่แข็งแรงอย่างยั่งยืน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี