ปิดฉาก ‘Women’s Pavilion ณ Expo 2025’ โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น  เหลือไว้เพียงอุดมการณ์แห่งการสนับสนุนและส่งเสริมผู้หญิงอย่างต่อเนื่อง

ปิดฉาก ‘Women’s Pavilion ณ Expo 2025’ โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น เหลือไว้เพียงอุดมการณ์แห่งการสนับสนุนและส่งเสริมผู้หญิงอย่างต่อเนื่อง

วันจันทร์ ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.
Tag :

ตลอด 6 เดือนแห่งการสร้างสรรค์ช่วงเวลาที่น่าจดจำและจุดประกายความคิด ตลอดจนบทสนทนาที่นำไปสู่ความเป็นไปได้ต่างๆ ณ Women’s Pavilion ส่วนหนึ่งของ Expo 2025 โอซาก้า ภูมิภาคคันไซ ประเทศญี่ปุ่น ได้ปิดฉากลงอย่างเป็นทางการในวันที่ 13 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา พาวิลเลียนแห่งนี้ได้เป็นหมุดหมายสำคัญของผู้ที่ต้องการยืนหยัดเป็นพลังในการสนับสนุนผู้หญิง สะท้อน และหลอมรวมความเป็นอันหนึ่งอันเดียวของโลก เชื่อมโยงกับผู้เข้าชมผ่านเส้นทางชีวิตที่จัดแสดง

 


พาวิลเลียนถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดยสถาปนิกชื่อดัง ยูโกะ นากายามะ (Yuko Nagayama) และทำให้มีชีวิตขึ้นด้วยมุมมองศิลปะของ เอส เดฟลิน (Es Devlin) Women’s Pavilion แห่งนี้ เป็นผลงานที่สะท้อนเอกลักษณ์เฉพาะจากความร่วมมือระหว่างสำนักงานคณะรัฐมนตรี กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น กับคาร์เทียร์ และคณะกรรมการผู้จัดงาน World Expo ประจำปี 2025 โอซาก้า ภูมิภาคคันไซ ประเทศญี่ปุ่น

ต่อยอดจากอุดมการณ์ที่ได้เปิดตัวเป็นครั้งแรกไปในงาน Expo 2020 ณ ดูไบ พาวิลเลียนของผู้หญิงแห่งนี้ ได้ตอกย้ำการเป็นพื้นที่เอกเทศ เพื่อการถูกมองเห็น เพื่อการได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่ง และเพื่อการเชื่อมโยง เฉลิมฉลองให้กับพลังของผู้หญิงในการนำพาและสร้างสรรค์อนาคตที่ดียิ่งขึ้นในวันพรุ่งนี้

พิธีปิดฉากอย่างเป็นทางการ ได้จัดขึ้นในวันที่ 2 ตุลาคม ที่ผ่านมา ณ WA Space พื้นที่สำหรับการสร้างบทสนทนา ความร่วมมือ และการแลกเปลี่ยนไอเดียระหว่างผู้นำทางความคิดในสาขาต่างๆ ภายใน Women’s Pavilion ในพิธีได้มีการรวบรวมตัวแทนที่หลากหลายจากคอมมูนิตี้ทั่วโลก ซึ่งเป็นตัวแทนเสียงของกลุ่มคนต่างๆ ในการเฉลิมฉลองเป็นครั้งสุดท้ายให้กับ Women’s Pavilion ซึ่งได้สะท้อนเสียงและส่งต่อสารอันทรงพลังตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา พิธีเริ่มต้นด้วยวิดีโอข้อความจาก คริสตีน ลาการ์ด (Christine Lagarde) ประธานธนาคารกลางยุโรป ต่อด้วยคีย์โน้ตจาก ซีริลล์ วิญเญอรอง (Cyrille Vigneron) ประธานกรรมการด้านวัฒนธรรมและสาธารณกุศลของคาร์เทียร์ สารจาก ดิมิทรี เคอร์เคนซ์ (Dimitri Kerkentze) เลขาธิการใหญ่ แห่งหน่วยงานการจัดงานเอ็กซ์โปนานาชาติ (Bureau International des Expositions) และ ฮิโรยุกิ อิชิเกะ (Hiroyuki Ishige) เลขาธิการใหญ่ของคณะจัดงานญี่ปุ่น เวิลด์ เอ็กซ์โป 2025 ผู้ที่ร่วมพูดทั้งหมดได้กล่าวเน้นย้ำถึงความสำคัญของการสนับสนุนและส่งเสริมผู้หญิงในทุกๆ สาขา โดยเฉพาะบทบาทในการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ รวมไปถึงความร่วมมือกันเพื่อรังสรรค์แพลตฟอร์มที่จะพูดถึงประเด็นนี้อย่าง Women’s Pavilion ขึ้น เพื่อช่วยยกระดับการก้าวสู้อนาคตที่เสมอภาค

เอส เดฟลิน ได้สะท้อนถึงบทบาทของ Women’s Pavilion ไว้อย่างซาบซึ้งว่า พาวิลเลียนแห่งนี้เปรียบเสมือนลำโพง กระบอกเสียงในการส่งต่อเรื่องราวของความเป็นอันหนึ่งอันเดียว, ความเคารพ, ความกล้าหาญและความเห็นอกเห็นใจ ผ่านเสียงของผู้หญิงหลายๆ คนทั่วโลก ขณะที่ นักเขียน ยายาโกะ อูชิดะ (Yayako Uchida) และลูกสาวของเธอ ไคอาระ (Kyara) กล่าวถึงแก่นของ WA Space พื้นที่ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ให้แต่ละบุคคลได้มาส่งต่อเรื่องราว ริเริ่มบทสนทนา อันนำไปสู่จินตนาการร่วม และเมื่ออาทิตย์อัสดง พิธีการก็ได้ย้ายจากภายในอาคาร มายังพื้นที่เปิดโล่งด้านนอก เพื่อ “Tomoni Walk” หรือ การเดินร่วมกันเคียงข้างแกรนด์ ริง (Grand Ring) แขกแต่ละท่าน ต่างถือโคม แทนความหมายการขอพรเพื่ออนาคตที่สว่างไสวยิ่งขึ้น ค่ำคืนแห่งพิธีปิด จบท้ายด้วยงานเลี้ยงค็อกเทล ที่มีเครื่องดนตรีพื้นเมืองของญี่ปุ่นร่วมขับกล่อม เคล้าไปกับประติมากรรมรูปกบโดยศิลปินท้องที่ ฟูจิโกะ นากายามะ การแสดงจินตลีลาที่น่าหลงใหลโดย ยูโกะ ฮิราอิ และการแสดงดนตรีปิดท้าย โดยนักดนตรีชาวญี่ปุ่น แอนนา ซาโต ร่วมด้วยนักร้องเด็ก ในบทเพลง “Ai no Iro” ซึ่งประพันธ์ขึ้นเพื่อ Women’s Pavilion โดยเฉพาะ

เดินทางจากพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 13 เมษายน 2568 Women’s Pavilion ได้ยึดคำขวัญ “อยู่ร่วมกัน ออกแบบร่วมกัน เพื่ออนาคต” (Living Together, Designing Together, For the Future) พาวิลเลียนแห่งนี้หยัดยืนเป็นสัญลักษณ์แห่งการเปลี่ยนผ่านและส่งต่อพลังงานให้กับผู้หญิงที่ล้วนมีศักยภาพในการสร้างสรรค์โลกที่เสมอภาพและส่งเสริมความเท่าเทียม Women’s Pavilion ได้เป็นแพลตฟอร์มระดับโลกสำหรับการพูดคุยและนำไปสู่การดำเนินการเพื่อเปลี่ยนแปลง พร้อมตอกย้ำถึงบทบาทสำคัญของผู้หญิงในการขับเคลื่อนความก้าวหน้าในสังคมต่างๆ

ตลอดระยะเวลา 6 เดือน Women’s Pavilion ได้ต้อนรับผู้เข้าชมจากทั่วโลกมากกว่า 400,000 คน รวมตัวแทนและกลุ่มผู้นำทางความคิด 150 ชาติ ได้แก่ เจ้าหญิงฮิซาโกะ ทาคามาโดะ, โยชิทากะ อิโต รัฐมนตรีผู้ดูแลการจัดงาน World Expo 2025,  จุนโกะ มิฮาระ รัฐมนตรีผู้ดูแลนโยบายรัฐที่เกี่ยวข้องกับเด็ก การวัดผลอัตราการเกิดที่ลดลง สนับสนุนและส่งเสริมเยาวชน รวมถึงความเท่าเทียมทางเพศ, ประธานธิบดีไอซ์แลนด์ ฮัลลา โมทัสดอตติร์, เคอร์ซี มาดิ ผู้ช่วยเลขาธิการใหญ่ สหประชาชาติ และรองผู้อำนวยการบริหาร ฝ่ายบริหารจัดการทรัพยากร ความยั่งยืนและความร่วมมือระหว่างองค์กรของ UN Women และเจ้าหญิงโซฟี ดัสเชสแห่งเอดินบะระ เป็นต้น พาวิลเลียนแห่งนี้ ได้เป็นแหล่งบ่มเพาะไอเดียใหม่ๆ และความคิดริเริ่มต่างๆ ส่งเสริมการเชื่อมโยงระหว่างวัฒนธรรมที่แตกต่างหลากหลาย เริ่มบทสนทนาอันทรงคุณค่า ที่จะนำไปสู่ความร่วมมือใหม่ๆ สิ่งที่พาวิลเลียนแห่งนี้ได้ทิ้งไว้ ไม่ใช่เพียงเรื่องราวให้พูดถึง แต่คือคอมมูนิตี้ระดับโลก ที่จะช่วยเสริมสร้างและสานต่อการวิวัฒน์ไปอีกนานหลังการปิดตัวของพาวิลเลียน

ตลอดเวลาที่ผ่านมา WA space ได้จัดการพูดคุยและการดำเนินการมากมาย มากกว่า 200 เซซชัน พื้นที่แห่งนี้ได้ต้อนรับผู้เข้าร่วมสนทนาจากทั่วโลกมากกว่า 19,000 คน พื้นที่อันมีชีวิตแห่งนี้ ได้นำพาผู้นำ ผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง และ ผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลกมากกว่า 1,000 คน มาร่วมถกในประเด็นปัญหาที่โลกกำลังเผชิญในขณะนี้ ด้วยวิถีของการพูดคุยที่สร้างสรรค์และก้าวล้ำ ภายใต้ 6 ประเด็นหลัก อันประกอบด้วย ธรรมชาติของความเป็นแม่ (Mother Nature), ธุรกิจและเทคโนโลยี (Business & Technology), การศึกษาและนโยบาย (Education & Policy), ศิลปะและวัฒนธรรม (Arts & Culture), สาธารณกุศล (Philanthropy) และ บทบาทหน้าที่และอัตลักษณ์ความเป็นตัวตน (Roles & Identities) โปรแกรมของการสนทนาเหล่านี้ ได้สำรวจปัจจัยที่ซ้อนทับอันส่งผลต่ออนาคตที่เราต่างมองเห็นร่วมกัน ด้วยจิตวิญญาณของการเป็นพื้นที่แห่งการแลกเปลี่ยนระดับโลก WA Space ได้สร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ที่มาเยี่ยมชม ให้ได้กลับไปสะท้อนถึงศักยภาพภายในตนเอง นำไปสู่การเปลึ่ยนแปลงในเชิงบวก สนับสนุนให้ทุกๆ คน ได้ยึดถือสิ่งนี้เป็นดั่งภารกิจที่จะต้องกลับไปสานต่อ

“ด้วยการเชื่อมโยงมุมมองที่หลากหลายจากต่างวัฒนธรรมและรุ่น Women’s Pavilion ได้ริเริ่มบทสนทนาใหม่ ที่จะต้องกลับสะท้อนและสานต่อหลังจากเอ็กซ์โป ที่แห่งนี้ได้ฉายแสงให้กับอนาคตที่ทุกคนจะได้มีส่วนร่วมเพื่อความเยี่ยมยอดที่ดียิ่งขึ้นไปกว่าเดิม โลกที่โอกาสและศักดิ์ศรีเข้าถึงทุกคน ที่ที่ซึ่งความร่วมมือ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน มรดกนี้ทรงพลังและควรค่าแก่การบำรุงรักษา ซึ่งผมเองมั่นใจว่ามันจะส่งต่อและสร้างแรงบันดาลใจไปอีกนาน” ดิมิทรี เอส. เคอร์เคนซ์ เลขาธิการใหญ่ แห่งหน่วยงานการจัดงานเอ็กซ์โปนานาชาติ (BIE) กล่าว

“ฉันเชื่อว่าการสะท้อนตนเองอย่างลึกซึ้ง และการดำเนินการอย่างเด็ดเดี่ยวของคนแต่ละคนนั้น จะสามารถสร้างแรงกระเพื่อม ที่เมื่อมาร่วมกันจะทำให้เกิดโมเมนตัมที่ใหญ่ยิ่งขึ้น ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงร่วมกัน ด้วยความสามารถที่จะปรับเปลี่ยนสังคม และด้วยความเชื่อมั่นในคุณค่าของตนเอง การร่วมมือกับผู้ที่มีอุดมการณ์คล้ายกัน การก้าวไปข้างหน้าทีละก้าว ฉันคาดหวังการขยายไปสู่ขอบเขตใหม่ๆ ร่วมกัน” จูน มิยาชิ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คาร์เทียร์ ญี่ปุ่น กล่าว

“การส่งเสริมผู้หญิงและสนับสนุนให้เกิดความเท่าเทียมทางเพศเป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง เราต้องทำนุและบำรุง Women’s Pavilion เป็นเหมือนข้อพิสูจน์ทางความคิดที่ว่า การสนับสนุนและส่งเสริมผู้หญิง เป็นส่วนหนึ่งของมนุษยนิยมและความเป็นสากล” ประธานกรรมการด้านวัฒนธรรมและสาธารณกุศลของคาร์เทียร์ กล่าว

พิธีปิด Women’s Pavilion อย่างเป็นทางการ ไม่ใช่แค่ช่วงเวลาแห่งการสะท้อนถึงสิ่งที่ผ่านมา แต่ยังเป็นการเน้นย้ำถึงเจตนารมณ์ของคาร์เทียร์ ในการยืนหยัดต่อพันธะสัญญาที่มีมาอย่างยาวนานาในการสนับสนุนและส่งเสริมผู้หญิง เป็นการเร่งเร้าเพื่อนำไปสู่การดำเนินการ สารที่เต็มไปด้วยความหวังจากผู้คนที่ได้เดินเข้ามาที่พาวิลเลียนแห่งนี้

ยูโกะ นากายามะ
ยูโกะ นากายามะ
จูน มิยาชิ
จูน มิยาชิ
ซีริลล์ วิญเญอรอง
ซีริลล์ วิญเญอรอง
ดิมิทรี เคอร์เคนซ์
ดิมิทรี เคอร์เคนซ์

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top