วันพฤหัสบดี ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
โรคสมองขาดเลือด ภาวะฉุกเฉินที่ต้องรีบรักษาก่อนเสี่ยงอัมพาต

โรคสมองขาดเลือด ภาวะฉุกเฉินที่ต้องรีบรักษาก่อนเสี่ยงอัมพาต

วันพฤหัสบดี ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 07.10 น.
Tag : โรคสมองขาดเลือด เสี่ยงอัมพาต
  •  

โรคหลอดเลือดสมองขาดเลือดหรือภาวะสมองขาดเลือด (Ischemic Stroke) คือ ภาวะที่การไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงสมองถูกขัดขวางหรืออุดตัน ทำให้เนื้อสมองไม่ได้รับออกซิเจนและสารอาหารอย่างเพียงพอ ส่งผลให้เซลล์สมองเริ่มตายภายในไม่กี่นาที เป็นหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตและความพิการถาวรที่พบบ่อย หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

นพ. วงศ์กนก ก่อวัฒนมงคล อายุรแพทย์โรคสมองและระบบประสาท ชำนาญการด้านโรคหลอดเลือดสมองโรงพยาบาลเวชธานี อินเตอร์เนชันแนล 

 


นพ. วงศ์กนก ก่อวัฒนมงคล อายุรแพทย์โรคสมองและระบบประสาท ชำนาญการด้านโรคหลอดเลือดสมองโรงพยาบาลเวชธานี อินเตอร์เนชันแนล  ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคหลอดเลือดสมองขาดเลือดหรือภาวะสมองขาดเลือด (Ischemic Stroke) พร้อมวิธีป้องกันและดูแลตัวเองห่างไกลจากโรค

สาเหตุของภาวะสมองขาดเลือด

ภาวะนี้เกิดขึ้นจากการอุดตันของหลอดเลือดสมองหรือหลอดเลือดที่ส่งเลือดไปเลี้ยงสมอง ซึ่งอาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น ลิ่มเลือด (Blood Clot) เกิดขึ้นในหลอดเลือดสมองโดยตรง หรือหลุดมาจากหัวใจและไปอุดตันหลอดเลือดสมอง ไขมันเกาะผนังหลอดเลือด (Atherosclerosis) ทำให้หลอดเลือดตีบแคบ ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ (Atrial Fibrillation) เพิ่มโอกาสเกิดลิ่มเลือดในหัวใจ โรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป หรือขาดการออกกำลังกาย

อาการของภาวะสมองขาดเลือด

อาการมักเกิดขึ้นทันทีและต้องรีบไปโรงพยาบาลโดยด่วน โดยสามารถจดจำได้ง่ายด้วยหลัก BEFAST ดังนี้ B (Balance)  :: สูญเสียการทรงตัว รู้สึกเวียนศีรษะหรือเดินเซอย่างกะทันหัน E  (Eyes)  :: ปัญหาในการมองเห็น เช่น ภาพซ้อน มองไม่ชัด หรือตามัว ในตาข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง F (Face drooping) : หน้าบิดเบี้ยว ยิ้มไม่เท่ากัน A (Arm weakness) : แขนหรือขาอ่อนแรงข้างใดข้างหนึ่ง S (Speech difficulty) : พูดไม่ชัด พูดไม่ได้ หรือไม่เข้าใจคำพูด T (Time to call) : หากพบอาการเหล่านี้ ให้รีบโทรเรียกรถพยาบาลทันที อาการอื่นที่อาจพบได้ เช่น เวียนศีรษะอย่างรุนแรง มองเห็นภาพซ้อน เดินเซ หรือหมดสติ

การวินิจฉัยภาวะสมองขาดเลือด

แพทย์จะใช้การตรวจหลายวิธีเพื่อหาสาเหตุและตำแหน่งการอุดตัน เช่น ตรวจร่างกายและระบบประสาทเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) หรือเอกซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) ตรวจหลอดเลือดสมอง (MRA, CTA) ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) เพื่อหาภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ตรวจเลือดเพื่อประเมินปัจจัยเสี่ยง

การรักษาภาวะสมองขาดเลือด

การรักษาต้องทำอย่างเร่งด่วนภายในเวลาที่กำหนดเพื่อช่วยลดความเสียหายของสมอง โดยให้ยาละลายลิ่มเลือด (rt-PA) ภายใน 4.5 ชั่วโมงหลังเกิดอาการ ให้ยาป้องกันการเกิดลิ่มเลือดซ้ำ เช่น ยาต้านเกล็ดเลือด หรือยาละลายลิ่มเลือด การรักษาประคับประคอง เช่น ควบคุมความดันโลหิต น้ำตาลในเลือด และการทำกายภาพฟื้นฟู รวมทั้งเทคโนโลยีการลากลิ่มเลือด (Thrombectomy) ด้วย Biplane DSA

การรักษาหลอดเลือดสมองอุดตันด้วยการ ลากลิ่มเลือด (Thrombectomy) เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดลิ่มเลือดที่อุดตันในเส้นเลือดสมอง กระบวนการนี้จะดำเนินการโดยแพทย์ผู้ชำนาญการด้านระบบประสาทและหลอดเลือดสมอง ซึ่งแพทย์จะสอดสายสวน (Catheter) ขนาดเล็กเข้าไปทางหลอดเลือดที่ขาหนีบ เพื่อนำลิ่มเลือดออกจากหลอดเลือดที่อุดตันในสมอง ซึ่งการใช้ Biplane Digital Subtraction Angiography (Biplane DSA) ทำให้แพทย์เห็นภาพหลอดเลือดสมองและลิ่มเลือดได้อย่างชัดเจนจากหลายมุมมองพร้อมกัน ช่วยเพิ่มความแม่นยำและลดความเสี่ยงของหัตถการ

โรงพยาบาลเวชธานี มีทีมแพทย์ชำนาญการด้านระบบประสาทและหลอดเลือดสมองที่พร้อมให้การรักษาผู้ป่วยด้วยเทคนิคการลากลิ่มเลือดผ่าน Biplane DSA โดยเทคโนโลยีที่ทันสมัยนี้จะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการรักษาและลดความเสี่ยงจากการทำหัตถการ ทำให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างครบวงจร

ข้อดีของการรักษาด้วยเทคนิคการลากลิ่มเลือดผ่าน Biplane DSA มีดังนี้   ลดความเสียหายต่อสมองและเพิ่มโอกาสฟื้นตัว ลดความเสี่ยงการทำลายเนื้อเยื่อสมองเพิ่มเติม ลดเวลาในการรักษา เพิ่มโอกาสรอดชีวิต เหมาะกับผู้ป่วยที่มาถึงโรงพยาบาลภายใน24ชั่วโมงหลังเริ่มมีอาการ

 

การป้องกันภาวะสมองขาดเลือด

ควบคุมความดันโลหิต น้ำตาล และไขมันในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ลดเค็ม ลดไขมันอิ่มตัว ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เลิกสูบบุหรี่และจำกัดการดื่มแอลกอฮอล์ ตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อค้นหาปัจจัยเสี่ยงแต่เนิ่น ๆ

ภาวะสมองขาดเลือด เป็นโรคที่ต้องแข่งกับเวลา การรู้เท่าทันอาการและรีบเข้ารับการรักษา จะช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตและลดความพิการในระยะยาว โดยปัจจุบันมีเทคโนโลยี Biplane DSA ที่ช่วยให้การรักษามีความแม่นยำและปลอดภัยมากขึ้น

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

เปิดความจริง! ครูหื่นชำเราเด็ก 14 ค่ายลูกเสือกาญจน์ที่แท้เป็นครูโรงเรียนดังใน กทม.

'อินเดีย'เริ่มโปรยสารเคมีกระตุ้นฝน สู้วิกฤตฝุ่นพิษ

หล่มสักสแกนสนั่น! ‘คนละครึ่งพลัส’ ชาวบ้านทยอยใช้สิทธิ์-ซื้ออาหารอย่างต่อเนื่อง

รัฐบาลเตือนร้านค้า-ผู้ได้รับสิทธิ‘คนละครึ่งพลัส’ ห้ามใช้ผิดวัตถุประสงค์

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved