วันอังคาร ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
            
								ในบางครั้งความสุขของการท่องเที่ยวไม่ได้ขึ้นอยู่กับ “จุดหมายปลายทาง” ทว่า เรื่องราวและความสวยงามระหว่างทางต่างหาก ที่ทำให้ทุกการเดินทางเติมเต็มไปด้วยสีสันและความประทับใจ ซึ่งหนึ่งในวิธีการเดินทางที่จะเปิดโอกาสให้เราได้สัมผัสกับความงามระหว่างทางได้อย่างเต็มที่ นั่นคือ การเดินทางบน เส้นทางท่องเที่ยวโดยรถไฟ
ไม่เพียงเท่านั้น การท่องเที่ยวโดยรถไฟ ยังเป็นวิธีท่องเที่ยวที่ประหยัด ปลอดภัย และจัดเป็น “การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์” ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลกว่าการเดินทางด้วยรถไฟเป็นวิธีเดินทางระยะไกลที่ยั่งยืนที่สุดวิธีหนึ่ง เพราะรถไฟรุ่นใหม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อผู้โดยสารน้อยกว่าเครื่องบินอย่างเห็นได้ชัด เช่น เที่ยวบินจากลอนดอนไปปารีสปล่อยคาร์บอน ประมาณ 244 กิโลกรัมต่อผู้โดยสารหนึ่งคน ในขณะที่การเดินทางด้วยรถไฟจะปล่อยเพียง 15 กิโลกรัม ซึ่งน้อยกว่าถึง 90% ตามการประมาณการของ Eurostar
และแน่นอนว่าในประเทศไทย เราต่างคุ้นเคยกับการสัญจรเดินทางด้วยรถไฟอยู่แล้ว การท่องเที่ยวโดยรถไฟ จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีการท่องเที่ยวที่หลายคนเลือก ดังนั้น เพื่อยกระดับการเดินทางท่องเที่ยวโดย เส้นทางท่องเที่ยวโดยรถไฟ เชิงสร้างสรรค์ แผนงานกลุ่มท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ หรือ บพข. จึงได้สนับสนุนโครงการวิจัยการ พัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์โดยรถไฟ ในเส้นทางนําร่องทั่วประเทศ ได้แก่ เส้นทางท่องเที่ยวโดยรถไฟ เชิงสร้างสรรค์ สายเหนือ สายอีสาน และสายใต้ เพื่อให้เกิดการกระจายการท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงกับเส้นทางรถไฟไปสู่แหล่งท่องเที่ยวและชุมชนในพื้นที่ เกิดการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในเชิงสร้างสรรค์บนฐานทุนทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่าในพื้นที่ต่างๆทั่วไทย
.jpg)
เพื่อให้เห็นภาพการออกแบบเส้นทางท่องเที่ยวโดยรถไฟเชิงสร้างสรรค์ฯ อาจารย์ทม เกตุวงศา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส) และอาจารย์หัวหน้าโครงการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยรถไฟสายอีสานเพื่อใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์และส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เผยว่า เส้นทางท่องเที่ยวรถไฟ เชิงสร้างสรรค์สายอีสาน ได้ดำเนินการแล้วใน 2 เส้นทาง คือ สายอีสานตอนบน (ขอนแก่น-หนองคาย) และ สายอีสานตอนล่าง (นครราชสีมา-อุบลราชธานี)
“ภาคอีสานกำลังมีรถไฟรางคู่และรถไฟความเร็วสูง เพราะฉะนั้น การเดินทางมาท่องเที่ยวอีสานในอนาคตอันใกล้สามารถเดินทางมาได้ด้วยรถไฟความเร็วสูงจากนั้นมาต่อรถไฟรางคู่ เชื่อมโยงทุกการเดินทางได้ด้วยความสะดวก และ เส้นทางท่องเที่ยวโดยรถไฟนี้ ก็จะพานักท่องเที่ยวเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวตามรางรถไฟ ตามสถานีรถไฟต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว และถ้าในอนาคตเส้นทางการเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถไฟสามารถเชื่อมโยงระหว่างประเทศได้ ย่อมดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างประเทศให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้เพิ่มมากขึ้น โดย “รถไฟสายอีสาน” มีโจทย์ท้าทายที่สำคัญคือการเชื่อมโยงกับรถไฟ ลาว-จีน ที่ได้เปิดเดินรถจากสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ ไป เวียงจันทน์ ที่สถานีคำสะหวาด เมื่อปีที่แล้ว” อาจารย์ทม กล่าวและว่า ที่ผ่านมา ทางการรถไฟฯได้พัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวโดยรถไฟอย่างต่อเนื่อง แต่จะเป็นเส้นทางท่องเที่ยวสายสั้น แบบ 1 day trip และยังไม่มีการพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวโดยรถไฟในเส้นทางสายยาว เพราะในการทำเส้นทางท่องเที่ยวโดยรถไฟสายยาวจำเป็นต้องลงทุนสูงและต้องมีระบบการบริหารจัดการที่ชัดเจน ดังนั้น โครงการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยรถไฟเพื่อใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์และส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในเส้นทาง สายเหนือ สายอีสาน และสายใต้ ที่ได้รับทุนจาก บพข. นี้จึงเป็นโครงการวิจัยสำคัญที่จะช่วยในการพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวโดยรถไฟสายยาวอย่างมีประสิทธิภาพ
.jpg)
สำหรับโครงการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยรถไฟสายอีสานฯ ได้เริ่มต้นทำในเส้นทางนำร่องสายเหนือที่ จ.ลำปาง โดย มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง (มรภ.ลป) ต่อมาทางแผนงานกลุ่มท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ บพข. ก็มีแนวทางในการขยายผลต้นแบบเส้นทางนำร่องในสายเหนือไปยังภูมิภาคอื่น โดยเฉพาะภาคอีสานและภาคใต้ ซึ่ง มมส ได้เคยทำโครงการสร้าง BCG Happy Model ประสบความสำเร็จ ทาง บพข. จึงมองว่าในโครงการดังกล่าว มมส จะสามารถออกแบบเส้นทางท่องเที่ยวโดยรถไฟ เชิงสร้างสรรค์ได้ จึงร่วมกันทำงานในโครงการฯนี้ โดยมี มรภ.ลป เป็นพี่เลี้ยง
“แต่อย่างไรก็ตาม ในการออกแบบเส้นทางท่องเที่ยวโดยรถไฟสายอีสานนี้ เราจำเป็นต้องไปประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นของทาง การรถไฟฯ ก่อน ว่าแนวทางและทิศทางในการพัฒนารถไฟเพื่อการท่องเที่ยวเป็นอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะ “รถไฟสายอีสาน” ที่มีโจทย์ท้าทายที่สำคัญคือการเชื่อมโยงกับรถไฟ ลาว-จีน ซึ่งเมื่อได้ไปพูดคุยถึงแนวทางและทิศทางการพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวโดยรถไฟในเชิงสร้างสรรค์กับ การรถไฟฯ แล้ว ก็ได้ข้อสรุปที่นำสู่การพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวโดยรถไฟสายอีสานในรอบปฐมฤกษ์ เพื่อแสดงให้เห็นว่าเส้นทางนั้นสามารถจัดได้จริง”
อาจารย์หัวหน้าโครงการฯ กล่าวต่อไปว่า อีกหนึ่งโจทย์จากการรถไฟฯ คือ ต้องการให้สถานีรถไฟนั้นเป็นพื้นที่ที่สนับสนุนสินค้าและผลิตภัณฑ์ของชุมชนโดยในบางจุด ทางทีมงานก็จะจัดกิจกรรมให้ชาวบ้านนำสินค้ามาขายให้กับนักท่องเที่ยว อย่าง ตลาด 5 นาที ที่กลุ่มแม่ค้าจะนำผลผลิตการเกษตรจากบ้านห้วยราช จ.บุรีรัมย์ ขึ้นรถไฟเพื่อมาขายที่หน้าสถานีรถไฟบุรีรัมย์ หรือ การเปิดพื้นที่ให้ชาวชุมชนมาขายสินค้า ผลิตภัณฑ์ เวลามีการจัดเส้นทางท่องเที่ยวโดยรถไฟในชุมชน
.jpg)
“และล่าสุด หลังจากการจัดเส้นทางปฐมฤกษ์เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทางทีมงานได้เก็บข้อมูลการจัดกิจกรรมนี้มาประเมินผล เพื่อใช้ในการปรับปรุงทุกกิจกรรมในเส้นทางเดินทางท่องเที่ยวโดยรถไฟเชิงสร้างสรรค์สายอีสาน ซึ่งต่อมาเราได้ MOU กับทาง การรถไฟฯ และนำสู่การทำ Action Plan เพื่อเสนอกับทางบอร์ดท่องเที่ยวของทางการรถไฟฯ และมีการทำ Business Plan ในรูปแบบของ Ecosystem Partnerships โดยภาคีหรือพาร์ทเนอร์ในการจัดการท่องเที่ยวโดยรถไฟสายอีสาน แยกเป็นหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ การรถไฟฯ หน่วยงานที่รับผิดชอบแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ มหาวิทยาลัยในแต่ละจังหวัด และภาคธุรกิจเอกชนที่ร่วมมือจัดการท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด ได้แก่ บริษัททัวร์ ร้านอาหาร โรงแรม ผู้ประกอบการขายของที่ระลึก เป็นต้น”
โดยหลังจาก Action Plan ได้รับการอนุมัติ จะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน ในการดำเนินการประสานกับแต่ละฝ่ายใน การรถไฟฯ และคาดว่าจะเปิดเส้นทางท่องเที่ยวโดยรถไฟสายอีสานในเชิงพาณิชย์ได้ในเดือนมกราคม 2569 ที่จะถึงนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี