รามาธิบดี สืบสานพระราชปณิธาน ‘สมเด็จพระพันปีหลวง’ เพื่อเข้าถึงการรักษาอย่างเท่าเทียม

รามาธิบดี สืบสานพระราชปณิธาน ‘สมเด็จพระพันปีหลวง’ เพื่อเข้าถึงการรักษาอย่างเท่าเทียม

วันเสาร์ ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

ด้วยสายพระเมตตาอันแผ่ไพศาล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงห่วงใยสุขภาพของพสกนิกรในพื้นที่ห่างไกลทั่วประเทศ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยแพทย์พระราชทานออกให้บริการตรวจรักษาและดูแลผู้ป่วยถึงถิ่น เพื่อบรรเทาความเจ็บป่วยและเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เข้าถึงบริการทางการแพทย์อย่างเท่าเทียม ทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงพระราชปณิธานอันแน่วแน่ในการมอบ “สุขภาพที่ดี” แก่ประชาชนทุกหมู่เหล่า อันเป็นพระราชกรณียกิจด้านสาธารณสุข และการแพทย์ที่ทรงบำเพ็ญด้วยพระราชหฤทัยเปี่ยมด้วยความห่วงใยต่อราษฎรโดยแท้จริง


 

“อาคารศูนย์การแพทย์สิริกิติ์” สัญลักษณ์แห่งพระเมตตา เพื่อสุขภาพที่ยั่งยืนของปวงชนชาวไทย

“อาคารศูนย์การแพทย์สิริกิติ์” คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล จัดสร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นมหากุศลแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ   5 รอบ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม พุทธศักราช 2535 โดยได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้อัญเชิญพระนามาภิไธยเป็น “อาคารสิริกิติ์” และได้รับโครงการนี้ไว้ในพระบรมราชินูปถัมภ์

ด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรและ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์อาคาร เมื่อวันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม พุทธศักราช 2533

และเมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จฯ แทนพระองค์ ทรงประกอบพระราชพิธีเปิดอาคาร เมื่อวันที่ 19  สิงหาคม พุทธศักราช 2539

อาคารศูนย์การแพทย์สิริกิติ์ เป็นอาคารสูง 9 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอยกว่า 20,000 ตารางเมตร รองรับการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคซับซ้อน และเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ และฝึกอบรมวิทยาการทางการแพทย์ที่ก้าวหน้า ทั้งในประเทศและภูมิภาคเอเชีย ภายในอาคารมีห้องผ่าตัดโรคซับซ้อนที่เชื่อมต่อระบบถ่ายทอดสดเพื่อการเรียนการสอนแพทย์ ห้องอภิบาลผู้ป่วยหนัก ตลอดเวลากว่า 6 ทศวรรษ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีได้ดำเนินพันธกิจด้านการรักษาพยาบาล การเรียนการสอน และการวิจัยอย่างต่อเนื่อง อาคารศูนย์การแพทย์สิริกิติ์ จึงเปรียบเสมือน “ศูนย์กลางแห่งความหวัง” ของผู้ป่วยที่ต้องการการดูแลเฉพาะทาง ด้วยความเป็นเลิศด้านการรักษาโรคหัวใจและการปลูกถ่ายอวัยวะ เพื่อเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 60 พรรษา

 

ศูนย์กลางแห่งความเป็นเลิศทางการแพทย์ เพื่อคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทย

อาคารศูนย์การแพทย์สิริกิติ์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นศูนย์การแพทย์ชั้นนำของประเทศที่มุ่งยกระดับมาตรฐานการรักษาพยาบาลของไทยให้ทัดเทียมระดับนานาชาติ โดยเป็นศูนย์ความเป็นเลิศด้าน โรคหัวใจ หลอดเลือด และเมแทบอลิซึม (Cardio Vascular Metabolic Center - CVMC) ศูนย์กลางด้านการรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือดที่ซับซ้อน ครอบคลุมตั้งแต่การตรวจวินิจฉัย การรักษา ไปจนถึงการดูแลต่อเนื่องหลังการผ่าตัด มีการบูรณาการความร่วมมือของทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขา พร้อมส่งเสริมงานวิจัยเพื่อพัฒนาวิธีการรักษาใหม่ ๆ ในกลุ่มโรคหัวใจ หลอดเลือด และเมแทบอลิซึม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยให้ดียิ่งขึ้น รวมถึง ศูนย์ปลูกถ่ายอวัยวะ (Organ Transplantation Center) ศูนย์ที่มีความพร้อมสมบูรณ์แบบและได้มาตรฐานระดับสากล ครอบคลุมการปลูกถ่ายอวัยวะสำคัญ ได้แก่ ตับ ไต ไขกระดูก และเซลล์ต้นกำเนิด ด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและเทคโนโลยีการแพทย์ที่ทันสมัย สามารถรองรับการปลูกถ่ายอวัยวะได้หลากหลายประเภทและจำนวนมากในแต่ละปี พร้อมทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการฝึกอบรมบุคลากรทางการแพทย์ การถ่ายทอดองค์ความรู้ และการพัฒนางานวิจัย เพื่อขยายโอกาสให้ผู้ป่วยทั่วประเทศได้รับการรักษาอย่างมีมาตรฐานและเท่าเทียม

รามาธิบดี สานต่อพระมหากรุณาธิคุณ สร้างชีวิตใหม่แก่ผู้ป่วย  79 ราย

ประเทศไทยมีผู้ป่วยเป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของเม็ดเลือด รวมถึงโรคทางพันธุกรรมและโรคมะเร็ง เช่น มะเร็งในเม็ดเลือด และมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะโรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย การปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตจึงเป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิผลที่สุด แต่ขั้นตอนมีความซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายสูง ทำให้ผู้ป่วยยากไร้จำนวนมากไม่สามารถเข้าถึงการรักษาได้ ด้วยพระเมตตาแห่ง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงห่วงใยสุขภาพของพสกนิกรผู้ด้อยโอกาส คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล จึงได้จัดตั้ง “โครงการเปลี่ยนถ่ายไขกระดูกเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา บรมราชินีนาถ” ขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2647 ได้รักษาผู้ป่วย รวมทั้งสิ้น 79 ราย ที่เป็นคนไข้ในพระราชูปถัมภ์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

“แม่คือผู้ให้กำเนิด แต่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง คือผู้ให้ชีวิต” คุณแม่ของนางสาวปิยวรรณ มะกาว (พลอย) อดีตผู้ป่วยโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องตั้งแต่กำเนิด กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เปี่ยมด้วยความปลื้มปิติว่า  “พลอยได้รับพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นจากโครงการเปลี่ยนถ่ายไขกระดูกเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา พระบรมราชินีนาถ ซึ่งดำเนินงานภายใต้พระราชานุเคราะห์ จนสามารถเปลี่ยนถ่ายไขกระดูกจากพี่ชายได้สำเร็จ และกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข ตลอดระยะเวลากว่า 19 ปีที่ผ่านมา  พลอยเติบโตเป็นสาวร่าเริง ปัจจุบันอายุ 21 ปี กำลังศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตสงขลา แม้ในปัจจุบันยังต้องเดินทางมาตรวจสุขภาพประจำปีที่โรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อเฝ้าติดตามสุขภาพโดยรวมอย่างต่อเนื่อง น้องพลอยกล่าวด้วยความซาบซึ้งใจว่า “หนูขอขอบพระคุณพระพันปีหลวง ที่ทรงให้ชีวิตให้หนูได้มีวันนี้”

น้องพลอย - นางสาวปิยวรรณ มะกาว

 

อาคารศูนย์การแพทย์สิริกิติ์ จึงเป็น “ศูนย์กลางแห่งความหวัง” ด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงห่วงใยสุขภาพของพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า พระเมตตาดังกล่าวเป็นแรงบันดาลใจให้รามาธิบดีมุ่งมั่น สืบสานพระราชปณิธาน ผ่านโครงการเปลี่ยนถ่ายไขกระดูกเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา พระบรมราชินีนาถ และโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง มูลนิธิรามาธิบดีฯ จึงขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสืบสานพระราชปณิธานแห่งสมเด็จพระพันปีหลวง เพื่อต่อชีวิต ต่อความหวัง ด้วยพลังแห่งการให้ ไม่สิ้นสุด

มูลนิธิรามาธิบดีฯ “คำว่าให้ ไม่สิ้นสุด” ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการให้ได้ที่  ที่ FB มูลนิธิรามาธิบดีฯ       LINE @RamaFoundation       IG @RamaFoundation       www.ramafoundation.or.th

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top