ดานอน ประเทศไทย ผนึกกำลัง กรมอนามัย และกรุงเทพมหานคร สนับสนุนโครงการ ‘เด็กฉลาดด้วยธาตุเหล็ก’ ยุติภาวะโลหิตจางเด็กไทย

ดานอน ประเทศไทย ผนึกกำลัง กรมอนามัย และกรุงเทพมหานคร สนับสนุนโครงการ ‘เด็กฉลาดด้วยธาตุเหล็ก’ ยุติภาวะโลหิตจางเด็กไทย

วันพฤหัสบดี ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.
Tag :

ดานอน ประเทศไทย จับมือ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร บุคลากรทางการแพทย์ ตลอดจนพันธมิตรร้านค้าปลีกอย่างซีเจ โลตัส บิ๊กซี และร้านค้าชั้นนำท้องถิ่น เดินหน้าขับเคลื่อนการรณรงค์ป้องกันภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก (Iron Deficiency Anemia  - IDA) ที่พบได้ถึง 1 ใน 3 ของเด็กไทยอายุต่ำกว่า 5 ปี โดยไม่แสดงอาการในระยะแรก จึงนับเป็น ‘ภัยเงียบ’ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการทางสมองอย่างถาวร ทำให้ระดับสติปัญญา (IQ) ลดลงถึง 13% ดังนั้น จึงควรสร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับภาวะ IDA ตลอดจนเน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนของการตรวจคัดกรองภาวะโลหิตจางตั้งแต่เนิ่นๆ รวมถึงการดูแลด้านโภชนาการอย่างเหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดภาวะดังกล่าวในระยะยาว

ดานอนกับบทบาทผู้นำและความร่วมมือระดับชาติ


ดานอน ประเทศไทย เป็นผู้นำจากภาคเอกชนในการรณรงค์ป้องกันภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กอย่างต่อเนื่อง ผ่านการสนับสนุนงานวิจัย การให้ความรู้ด้านโภชนาการแก่บุคลากรทางการแพทย์และผู้ปกครอง ตลอดจนตรวจคัดกรองแบบไม่เจาะเลือดแก่เด็กไทยทั่วประเทศกว่า 68,000 คน

 “ดานอนขอใช้วันขาดธาตุเหล็กโลก (Iron Deficiency Day) เป็นวันสำคัญในการย้ำเตือนถึงความจำเป็นเร่งด่วนของการป้องกันภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กในเด็กปฐมวัย” แดนิช ราห์มัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดานอนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และดานอน ประเทศไทย กล่าว “และดานอนก็ขอเน้นย้ำความสำคัญของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อให้ผู้ปกครองสามารถเข้าถึงความรู้ที่จำเป็น และดูแลโภชนาการที่เหมาะสมในการป้องกันภาวะนี้ได้อย่างยั่งยืน”

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ดานอน ประเทศไทย ได้เร่งขับเคลื่อนการป้องกันภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก โดยมีความร่วมมือที่ได้รับการขยายผลในหลายระดับ

ความร่วมมือระดับชาติ  

ดานอน ประเทศไทย ได้ร่วมมือกับกรมอนามัย เป็นครั้งแรกในปีนี้เพื่อขยายการป้องกันภายใต้แคมเปญ “เด็กฉลาดด้วยธาตุเหล็ก (Smart Kids with Iron)” มุ่งเน้นการตรวจคัดกรองตั้งแต่ระยะเริ่มต้นด้วยเครื่องมือคัดกรองความเสี่ยงภาวะ IDA (อุปกรณ์ตรวจวัดฮีโมโกลบิน โดยเทคโนโลยี Pulse CO-Oximetry แบบไม่ต้องเจาะเลือด) แก่ศูนย์อนามัยที่ 1เชียงใหม่  ศูนย์อนามัยที่ 3 นครสวรรค์ ศูนย์อนามัยที่ 5 ราชบุรี ศูนย์อนามัยที่ 6 ชลบุรี ศูนย์อนามัยที่ 9 นครราชสีมา ศูนย์อนามัยที่ 10 อุบลราชธานี ศูนย์อนามัยที่ 11 นครศรีธรรมราช ศูนย์อนามัยที่ 12 ยะลา และสถาบันพัฒนาสุขภาวะเขตเมือง เพื่อช่วยให้เด็กไทยได้รับการตรวจคัดกรองความเสี่ยงภาวะ IDA ตั้งแต่เนิ่นๆ และได้รับการดูแลด้านโภชนาการที่เหมาะสม

แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า “การดูแลสุขภาพเชิงป้องกันเป็นภารกิจสำคัญของกรมอนามัย ภายใต้โครงการ ‘เด็กฉลาดด้วยธาตุเหล็ก’ ทางกรมอนามัย มุ่งให้เด็กทุกคนได้รับธาตุเหล็กอย่างเพียงพอเพื่อพัฒนาการทางสมองที่เหมาะสม ความร่วมมือกับดานอนในการส่งเสริมโภชนาการ และการตรวจคัดกรองความเสี่ยงภาวะ IDA โดยไม่ต้องเจาะเลือดในพื้นที่นำร่อง ช่วยส่งเสริมการดำเนินงานของเราให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงด้านสุขภาพในระยะยาว และสร้างอนาคตที่สดใสให้แก่เด็กไทย”

ความร่วมมือระดับท้องถิ่น

ขณะเดียวกัน ดานอน ประเทศไทย ยังคงร่วมมือกับกรุงเทพมหานครอย่างต่อเนื่อง เดินหน้าตรวจคัดกรองเด็กเล็กในพื้นที่กรุงเทพฯ ตลอดจนจัดกิจกรรมให้ความรู้ด้านโภชนาการในระดับชุมชนและโรงเรียน ดังที่ล่าสุดเพิ่งจะมีการตรวจคัดกรองเด็กๆ ระดับชั้นปฐมวัยที่โรงเรียนสามเสนนอก เขตดินแดง โดยได้รับความร่วมมือจากทางผู้บริหารโรงเรียน และหลากหลายภาคส่วนจากทางกรุงเทพมหานคร

แพทย์หญิง สุธี สฤษฎิ์ศิริ ผู้อำนวยการกองสร้างเสริมสุขภาพ สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า “กรุงเทพมหานครมุ่งแก้ปัญหาโลหิตจางทุกวัย ตั้งแต่หญิงตั้งครรภ์ เด็กปฐมวัย เด็กวัยเรียน เป็นต้น โดยเฉพาะเด็กเล็ก การคัดกรองมักเกิดความกังวลทั้งกับเด็กและผู้ปกครอง การสนับสนุนจาก ดานอน ทำให้สามารถนำเครื่องมือตรวจแบบไม่ต้องเจาะเลือดมาใช้ เข้าถึงการตรวจคัดกรองได้ง่าย และส่งต่อยืนยันการวินิจฉัยละรักษาได้อย่างรวดเร็ว ควบคู่การให้ความรู้ด้านโภชนาการในครัวเรือนและโรงเรียน เพื่อลดภาวะโลหิตจางในเด็กไทย”

ความร่วมมือจากหลายภาคส่วน

ที่ผ่านมา ดานอน ประเทศไทย หน่วยงานภาครัฐ บุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงพันธมิตรร้านค้าปลีกอย่างซีเจ โลตัส บิ๊กซี และร้านค้าชั้นนำท้องถิ่น ได้ประสานความร่วมมือกันอย่างต่อเนื่องเพื่อปิดช่องว่างด้านการเข้าถึงการตรวจคัดกรอง ความรู้ และโภชนาการที่เหมาะสม

เดือนแห่งการรณรงค์และการลงมือ

ดานอน ประเทศไทย เดินหน้ารณรงค์และเพิ่มความตระหนักรู้ให้แก่สังคมไทย ด้วยการกำหนดให้เดือนพฤศจิกายนเป็น “เดือนแห่งการป้องกันโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก (IDA Month)” เพื่อเป็นช่วงเวลาสำคัญในการรวมพลังพันธมิตรทุกภาคส่วน เพิ่มการสื่อสารให้เกิดความตระหนักรู้ และกระตุ้นการตรวจคัดกรองเชิงรุก โดยดำเนินงานสอดคล้องกับโครงการของกรมอนามัยในระดับประเทศ และกิจกรรมรณรงค์ในพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร ผนึกกำลังร่วมกันปกป้องอนาคตของเด็กไทย นอกจากนี้ ดานอนยังได้ดำเนินกิจกรรมสำคัญในช่วงเดือนนี้  ประกอบด้วย การจัดนิทรรศการให้ความรู้ในการประชุมวิชาการด้านกุมารเวชศาสตร์ในโรงพยาบาลชั้นนำ เพื่อให้ความรู้และแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการป้องกันภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก รวมถึงการส่งเสริมโภชนาการที่เหมาะสมในเด็กปฐมวัย, จัดกิจกรรมให้ความรู้ และตรวจคัดกรองร่วมกับกรุงเทพมหานครที่โรงเรียนสามเสนนอก (ประชาราษฎร์อนุกูล)  และส่งมอบเครื่องมือตรวจคัดกรองความเสี่ยงภาวะโลหิตจาง

จากการขาดธาตุเหล็กโดยไม่ต้องเจาะเลือดให้แก่กรมอนามัยในรูปแบบการยืม เพื่อสนับสนุนการตรวจคัดกรองเพิ่มเติมในจังหวัดนำร่องทั่วประเทศ เพื่อขยายการเข้าถึงเด็กเล็กและครอบครัวจำนวนมากยิ่งขึ้น

ดานอน ประเทศไทย ยังเน้นย้ำบทบาทของผู้ปกครองในการป้องกันภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก โดยตระหนักรู้ถึงผลกระทบด้านสุขภาพจากการขาดธาตุเหล็ก ดูแลโภชนาการประจำวันของลูกให้เหมาะสมตามวัยโดยเลือกอาหารที่มีธาตุเหล็กและวิตามินซีสูงเพื่อช่วยการดูดซึม และหมั่นสังเกตอาการอ่อนเพลีย ซึม เบื่ออาหารอย่างใกล้ชิด รวมถึงเข้ารับการตรวจคัดกรองอย่างน้อย 2 ช่วงวัย ได้แก่ ที่อายุ 9 เดือน (6-12 เดือน) และ ที่อายุ 4 ปี (3-5 ปี)  ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญของพัฒนาการทางร่างกายและสมอง เพื่อประเมินความเสี่ยง ติดตามผลและรับคำปรึกษาจากบุคลากรทางแพทย์อย่างทันท่วงที

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top