วันอังคาร ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2568
หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมคนที่ดูแข็งแรงและใช้ชีวิตปกติ กลับจากเราไปอย่างกะทันหันจากการนอนหลับไปเฉย ๆ จนเกิดความกังวลใจว่าอาจเกี่ยวข้องกับโรคร้ายชนิดใหม่ แต่แท้จริงแล้วภาวะดังกล่าวอาจเกิดจาก “โรคไหลตาย” ภัยเงียบที่ส่งผลกระทบต่อการเต้นของหัวใจ และคร่าชีวิตผู้คนในขณะหลับโดยแทบไม่แสดงสัญญาณเตือนล่วงหน้า ทำให้คนส่วนใหญ่พลาดโอกาสในการป้องกันเพราะไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วตนเองคือกลุ่มเสี่ยง เพื่อคลายความกังวลต่อภัยร้ายนี้
พญ. ฐานิกา วุทธชูศิลป์ อายุรแพทย์ผู้ชำนาญการโรคหัวใจ ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลวิมุต เผยข้อมูลโรคไหลตาย พร้อมแนะนำวิธีดูแลตัวเองเพื่อป้องกันความเสี่ยงได้อย่างง่ายและทำได้จริง
รู้จัก “โรคไหลตาย” ภัยเงียบทางพันธุกรรม
โรคไหลตาย (Sudden Unexplained Nocturnal Death Syndrome: SUNDS) เป็นโรคทางพันธุกรรมชนิดหนึ่งที่ส่งผลให้หัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรง จนเลือดไม่สามารถไหลเวียนไปเลี้ยงร่างกายและสมองได้ทันท่วงที ทำให้หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันและเสียชีวิต โดยโรคนี้มักเกิดขึ้นในขณะนอนหลับ เพราะเป็นช่วงเวลาที่หัวใจเต้นช้าลงตามธรรมชาติ ส่งผลให้การนำเกลือแร่และโซเดียมในเซลล์หัวใจทำงานผิดปกติ จึงไปกระ ตุ้นให้หัวใจห้องล่างซ้ายเต้นผิดจังหวะและหยุดเต้นไปในที่สุด
เช็กลิสต์กลุ่มเสี่ยง พักผ่อนไม่พอ” ต้องระวัง
โรคไหลตายมักเกิดในผู้ที่มีพันธุกรรมผิดปกติที่กระทบการเต้นของหัวใจ และพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง โดยเฉพาะในช่วงวัยทำงานอายุ 20-50 ปี รวมถึงผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเสียชีวิตจากความผิดปกติของหัวใจตั้งแต่อายุน้อย
พญ.ฐานิกา อธิบายเพิ่มเติมว่า “พฤติกรรมบางอย่างก็อาจเป็นปัจจัยกระตุ้นได้ เช่น การทำงานหนัก พักผ่อนไม่เพียงพอ มีไข้สูง ดื่มแอลก อฮอล์ปริมาณมาก ขาดวิตามินบี 1 อย่างรุนแรง รวมถึงการกินอาหารจำพวกแป้งหรือคาร์โบไฮเดรตปริมาณมาก เช่น ข้าวเหนียว ขนมปัง โดยไม่กินผักและผลไม้ ทำให้ร่างกายขาดโพแทสเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญในการควบคุมจังหวะหัวใจ อีกทั้ง ยังเกี่ยวกับการใช้ยาบางชนิด เช่น ยานอนหลับ ยาต้านเศร้า หรือยาสำหรับรักษาโรคหัวใจบางตัวก็อาจเป็นตัวกระตุ้นได้”
ระวัง !! ใจสั่น-เป็นลม หน้ามืด-นอนแล้วหายใจเฮือก
ความน่ากลัวของโรคไหลตาย คือมักไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า แต่ในบางรายอาจมีสัญญาณเตือนที่เราอาจมองข้ามไป เช่น ใจสั่นผิดปกติ เป็นลม หน้ามืด เวียนศีรษะหลังออกกำลังกาย หรือนอนหลับแล้วหายใจเฮือกคล้ายขาดอากาศ ซึ่งถ้าสังเกตเห็นอาการเหล่านี้ยังป้องกันได้ ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงก่อนจะสายเกินไป
หมดสติ-ปลุกไม่ตื่น เสี่ยงไหลตาย ต้องช่วยเหลือทันที
หากคนใกล้ตัวเกิดอาการวูบ หมดสติโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือนอนหลับแล้วปลุกไม่ตื่น อาจเป็นอาการของภาวะหัวใจหยุดเต้นที่นำไปสู่การใหลตาย ให้รีบช่วยเหลือโดยด่วน โดยโทร.แจ้งสายด่วน 1669 ทันที ระหว่างรอรถพยาบาลให้จัดผู้ป่วยนอนราบและเช็กการหายใจ หากพบว่าหยุดหายใจต้องรีบทำ CPR ด้วยการกดหน้าอกอย่างต่อเนื่องในจังหวะ 100 ครั้งต่อนาที จนกว่าบุคลากรทางการแพทย์จะมาถึง หรือผู้ป่วยได้ สติขึ้นมา
ป้องกัน ‘โรคใหลตาย’ เริ่มต้นที่การตรวจคัดกรอง
พญ.ฐานิกา อธิบายว่า "โรคใหลตายแม้จะเกิดขึ้นเฉียบพลันแต่ก็สามารถตรวจพบล่วงหน้าได้ โดยคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อโรคใหลตาย แนะ นำให้เข้ามาตรวจหัวใจ ซึ่งวิธีตรวจมีหลายแบบ อาทิ การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) เพื่อดูความผิดปกติของสัญญาณไฟฟ้า การตรวจสมร รถภาพหัวใจขณะวิ่งบนสายพาน (Exercise Stress Test) เพื่อดูการทำงานของหัวใจขณะออกแรง และการอัลตราซาวด์หัวใจ (Echocardiogram) เพื่อเช็กโครงสร้างหัวใจอย่างละเอียด หากพบว่าเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสูงอาจต้องฝังเครื่องกระตุกหัวใจอัตโนมัติ (ICD) เพื่อปรับจังหวะการเต้นหัวใจเมื่อมีการเต้นผิดปกติ"
“แม้โรคนี้อาจสร้างความกังวลใจให้ใครหลายคน แต่เราก็ป้องกันได้ด้วยการหันมาดูแลตัวเอง หมั่นตรวจเช็กสุขภาพร่างกายและหัวใจเป็นประ จำ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ควรพักผ่อนให้เพียงพอ และให้ความสำคัญกับอาหารการกิน เน้นทานผักและผลไม้ควบคู่ไปกับมื้อแป้ง เพื่อช่วยรักษาสมดุลเกลือแร่ที่มีผลต่อจังหวะการเต้นของหัวใจ เพียงเท่านี้ก็ช่วยลดความเสี่ยงไปได้มาก จะได้เข้านอนได้อย่างสบายใจทุกคืน” พญ. ฐานิกา กล่าวทิ้งท้าย
ผู้ที่มีข้อสงสัย สามารถขอรับคำปรึกษาแพทย์โรงพยาบาลวิมุต โดยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและนัดหมายแพทย์ได้ที่ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด ชั้น 6 โรงพยาบาลวิมุต เวลาทำการ 08:00 – 17:00 น. โทร. 02-079-0042 หรือดาวน์โหลด ViMUT Application เพื่อนัดหมายแพทย์ หรือใช้บริการปรึกษาหมอออนไลน์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี