คณะกรรมาธิการการสังคม เด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุคนพิการ และผู้ด้อยโอกาส สภานิติบัญญัติ ได้ให้ความสนใจและพิจารณาติดตามการดำเนินงานของกองทุนด้านสังคม รวมถึงปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับชุมชน ทั้งนี้เพื่อสร้างความเข้มแข็งของสังคมโดยรวมพิจารณาศึกษาแนวทางการบูรณาการกองทุนสวัสดิการชุมชนแบบองค์รวม โดยเชิญ ประธาน และกรรมการกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลท่างาม อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรีเข้าร่วมประชุม
กองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลท่างาม อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี เป็นกองทุนที่ได้รับรางวัลองค์กรสวัสดิการชุมชน : ผู้สรรค์สร้างความมั่นคงของมนุษย์ ตามแนวคิดของ ศาสตราจารย์ ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ด้านการประกอบอาชีพพัฒนาระบบเศรษฐกิจ และการแก้ไขปัญหาหนี้สิน ประจำปี ๒๕๖๑
ที่มาของกองทุน
เนื่องจาก “ตำบลท่างาม” มีลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่มอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ประชากรส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพรับจ้าง และอาชีพเกษตรกรรม แต่มักประสบปัญหาอุทกภัยอย่างต่อเนื่องนำมาซึ่งความเสียหายแก่พื้นที่เกษตรกรรม นอกจากนี้ ยังเกิดความล้มเหลวในการบริหารจัดการวิสาหกิจชุมชน ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ และการประกอบอาชีพตลอดจนเกิดปัญหาหนี้สินที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น คนในชุมชนจึงได้ร่วมกันคิดเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดย“พลิกวิกฤติ ให้เป็นทุน” สู่การสร้างสรรค์จัดการตนเองของตำบลท่างาม และได้ร่วมกันก่อตั้ง “กองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลท่างาม” ขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๑ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างหลักประกันความมั่นคงในรูปแบบการสวัสดิการขั้นพื้นฐานและช่วยเหลือประชาชนที่ยังไม่สามารถเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการจากภาครัฐ ทั้งนี้ การจัดตั้งกองทุนได้รับการหนุนเสริมจากเครือข่าย (สวัสดิการ ๓ ขา) ได้แก่ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน และองค์การบริหารส่วนตำบลท่างาม
แนวคิดในการดำเนินงานของกองทุน
เมื่อครั้งเริ่มต้นก่อตั้งกองทุน มีสมาชิกจำนวน ๓๙๗ คน และปัจจุบันมีสมาชิกทั้งหมด ๑,๕๐๑ คน (คิดเป็นร้อยละ ๓๕.๔๘ของประชากรทั้งหมด) แบ่งเป็น เด็กและเยาวชน จำนวน ๑๕๖ คนวัยแรงงานจำนวน ๘๔๒ คน ผู้สูงอายุจำนวน ๔๘๗ คน ผู้ด้อยโอกาสและพิการจำนวน ๑๖ คน โดยแบ่งสมาชิกออกเป็น ๒ ประเภทคือ ๑) สมาชิกทั่วไป (ประเภท ก) อายุระหว่าง ๑-๗๐ ปี และ๒) สมาชิกผู้สูงอายุ (ประเภท ข) อายุ ๗๐ ปีขึ้นไป โดยมีหลักคิด“เสมอภาคแต่ไม่เท่าเทียม” เพื่อขยายฐานของจำนวนสมาชิกและเพิ่มโอกาสให้ทุกคนในตำบลท่างาม สามารถเข้ามาเป็นสมาชิกได้อย่างเสมอภาค โดยไม่จำกัดสิทธิด้านสุขภาพหรือประสบปัญหาทางสังคม และสามารถเข้าร่วมเป็นสมาชิกกองทุนได้ แต่สิทธิสวัสดิการบางรายการอาจไม่เท่าเทียมกัน ขึ้นกับเงื่อนไขตามที่กองทุนกำหนด เช่น ประเภทของสมาชิก และจำนวนปีของการเป็นสมาชิกกองทุน
การพิจารณาแยกประเภทของสมาชิก จะพิจารณาจากอายุของสมาชิกนับตั้งแต่วันที่สมัคร ทั้งนี้ สมาชิกประเภท ขได้เปิดเพื่อรองรับความต้องการของสมาชิกในภายหลัง นอกจากนี้ยังได้มีการบูรณาการการทำงานของกองทุนอื่นเพื่อช่วยเหลือและจัดสวัสดิการสำหรับผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง ซึ่งจะพิจารณาจากการใช้ประโยชน์จากกองทุนตามความเหมาะสม และเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
การดำเนินงานของกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลท่างาม ยึดหลักธรรมาภิบาลมาในการบริหารจัดการกองทุนโดย “ประชาชนเป็นผู้บริหาร ท้องถิ่นเป็นผู้ปฏิบัติ” และมีการจัดทำโครงสร้างคณะกรรมการกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลท่างาม เป็น ๓ ส่วนหลัก คือ
ส่วนที่ ๑ ภาคประชาชน ทำหน้าที่ในการบริหารจัดการกองทุน ประกอบด้วย ประธานกรรมการ รองประธาน คณะกรรมการประจำหมู่บ้าน (๑๑ หมู่บ้าน) ประชาสัมพันธ์ ผู้ช่วยเหรัญญิก ผู้ตรวจสอบ
ส่วนที่ ๒ ส่วนท้องถิ่น โดยใช้ข้าราชการพนักงานส่วนท้องถิ่น ทำหน้าที่ในกองเลขานุการ โดยดำเนินการตามนโยบายและข้อเสนอ มติที่ประชุมของคณะกรรมการซึ่งมีตำแหน่งประกอบด้วย เลขานุการผู้ช่วยเลขานุการ เหรัญญิกนายทะเบียน และการสนับสนุนต่างๆ เช่น อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้สำนักงาน สถานที่
ส่วนที่ ๓ ที่ปรึกษา ทำหน้าที่ในการให้คำปรึกษาข้อเสนอแนะ แนวทางในการขับเคลื่อนงานของกองทุน โดยมีนายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่างาม รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่างาม ผู้ทรงคุณวุฒิ และภาคีเครือข่ายในพื้นที่ตำบลท่างาม ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการบริหารจัดการ เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งของกองทุน
นอกจากนี้ ยังได้นำแนวคิดเรื่อง “สวัสดิการสังคมเพื่อสร้างความยั่งยืน” ของศาสตราจารย์ ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ และแนวคิด “การทำธุรกิจเพื่อสังคม” (Social Enterprise) ของดร.มีชัย วีระไวทยะ
ที่มารายได้ของกองทุน กองทุนมีรายได้มาจากหลายส่วน ซึ่งประกอบด้วย
๑.เงินสมทบของสมาชิกรายปี ปีละ ๓๖๕ บาท (สมทบวันละ ๑ บาท) ปัจจุบันมีจำนวน ๔,๒๐๕,๘๙๕ บาท
๒.เงินสมทบขององค์การบริหารส่วนตำบลท่างาม จำนวน ๑ เท่า ตามจำนวนสมาชิกที่มีอายุครบหนึ่งปีปัจจุบันมีจำนวน ๓,๕๑๗,๕๐๕ บาท
๓.เงินสมทบของรัฐ โดยการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลผ่านทางสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ปัจจุบันมีจำนวน ๑,๑๕๔,๗๔๕ บาท
๔.เงินอื่นๆ จากแหล่งอื่นๆ ได้แก่ รายได้จากการทำธุรกิจเพื่อสังคม รายได้จากการขายขยะรีไซเคิล นอกจากนี้ ยังได้พัฒนานวัตกรรมทางสวัสดิการสังคม โดยพัฒนาการประกอบอาชีพพัฒนาระบบเศรษฐกิจของครัวเรือนและชุมชน และแก้ปัญหาหนี้สิน ด้วยการทำธุรกิจน้ำดื่ม (น้ำดื่มท่างาม) ร้านกาแฟ(ร้านกาแฟ Tar-Ngam coffee) รวมทั้งลงทุนกู้ยืมร่วมกับกองทุนใบหยก ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน ๔๗๙,๖๖๘.๕๙ บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นของกองทุน ๙,๓๕๗,๘๑๓.๕๙ บาท นอกจากนี้ ยังมีเงินฝากอยู่ในธนาคาร ตลอดจนการลงทุนซื้อสลากธนาคารออมสิน และ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ และเงินสดอีก เป็นเงินทั้งสิ้น๓,๖๖๐,๘๑๖.๘๐ บาท ทั้งนี้ รายได้ที่ได้จากการลงทุนจะถูกนำมารวมไว้ที่กองทุนเพื่อนำมาบริหารจัดการต่อไป
แนวทางในการดำเนินงานของกองทุน
นอกจากนำแนวคิดในการออมเงินจากสมาชิกแล้ว กองทุนยังเห็นความสำคัญกับการดำเนินการเพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ในหลากหลายรูปแบบ ดังนี้
๑.การสร้างระบบเศรษฐกิจรายได้ และการมีงานทำการประกอบอาชีพ โดยเชื่อมโยงเครือข่ายการประกอบอาชีพต่อเศรษฐกิจของครัวเรือนและชุมชน และการแก้ปัญหาหนี้สินที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรม ซึ่งก่อให้เกิดกองทุนต่างๆ แยกออกจากระบบกองทุนสวัสดิการเพื่อมาดำเนินการบริหารจัดการธุรกิจการบริหารจัดการเพื่อสวัสดิการต่างๆ โดยมีการจัดตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการต่างๆ คนละชุดในแต่ละกองทุนโดยแสวงหากำไรเพื่อการจัดสวัสดิการตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้ง ภายใต้การกำกับดูแลของกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลท่างาม
ประกอบด้วย
๑) ธุรกิจโรงงานน้ำดื่มกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลท่างาม “น้ำดื่มท่างาม” ก่อให้เกิดการจ้างแรงงานในธุรกิจ โดยมีการจ้างแรงงานผู้สูงอายุจำนวน ๔ คน ในการทำงานในโรงน้ำดื่มอัตราวันละ ๓๐๐ บาทต่อวัน
๒) ธุรกิจร้านกาแฟ ภายใต้ชื่อ “Tar-Ngam coffee” โดยการลงทุนกิจการกาแฟ เครื่องดื่มและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชนของตำบลท่างาม นอกจากนี้ ยังก่อให้เกิดการจ้างแรงงานในร้านกาแฟจำนวน ๒ คนโดยจ่ายค่าตอบแทนทั้งหมดร้อยละ ๒๐ ของยอดกำไรสุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมด
๓) กองทุนใบหยกเพื่อฟื้นฟูผู้ประสบภัยพิบัติ
๔) กองทุนหมุนเวียนเพื่อฟื้นฟูผู้ประสบภัยพิบัติ
๕) กลุ่มออมทรัพย์ของกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลท่างาม และ
๖) กองทุนภัยพิบัติตำบลท่างาม
(อ่านต่อฉบับหน้า)
สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ถนนอู่ทองใน ดุสิต กทม. 10300 email : dek_senate@hotmail.co.th หรือ Facebook: กมธ.พัฒนาสังคมหรือ กลุ่มงานคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคมและกิจการเด็กฯ วุฒิสภา โทร.02-831-9225-6 แฟกซ์ 02-831-9226
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี