(ต่อจากฉบับที่แล้ว)
ในยุทธศาสตร์ที่ ๔ ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม เป้าหมายระยะ ๒๐ ปี มียุทธศาสตร์ ดังนี้
๑.การลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมในทุกมิติ ประกอบด้วย
- ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจฐานราก
- ปฏิรูประบบภาษีและการคุ้มครองผู้บริโภค
- กระจายการถือครองที่ดินและการเข้าถึงทรัพยากร
- เพิ่มผลิตภาพและคุ้มครองแรงงานไทย ให้เป็นแรงงานฝีมือที่มีคุณภาพและความริเริ่มสร้างสรรค์ มีความปลอดภัยในการทำงาน
- สร้างหลักประกันทางสังคมที่ครอบคลุมและเหมาะสมกับคนทุกช่วงวัย ทุกเพศภาวะและทุกกลุ่ม
- ลงทุนทางสังคมแบบมุ่งเป้าเพื่อช่วยเหลือกลุ่มคนยากจนและกลุ่มผู้ด้อยโอกาสโดยตรง
- สร้างความเป็นธรรมในการเข้าถึงบริการสาธารณสุขและการศึกษา โดยเฉพาะสำหรับผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มผู้ด้อยโอกาส
- สร้างความเป็นธรรมในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมอย่างทั่วถึง
๒.กระจายศูนย์กลางความเจริญทางเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี เพิ่มโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามาเป็นกำลังของการพัฒนาประเทศในทุกระดับเพื่อความสมานฉันท์
-พัฒนาศูนย์กลางความเจริญทางเศรษฐกิจ สังคมและเทคโนโลยีในภูมิภาค
- กำหนดแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของแต่ละกลุ่มจังหวัดในมิติต่างๆ
- จัดระบบเมืองที่เอื้อต่อการสร้างชีวิตและสังคมที่มีคุณภาพและปลอดภัยให้สามารถตอบสนองต่อสังคมสูงวัยและแนวโน้มของการขยายตัวของเมืองในอนาคต
- ปรับโครงสร้างและแก้ไขกฎหมายระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อวางระบบและกลไกการบริหารงานในระดับภาค กลุ่มจังหวัด
- สนับสนุนการพัฒนาพื้นที่บนฐานข้อมูลความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรม
- พัฒนากำลังแรงงานในพื้นที่
๓.การเสริมสร้างพลังทางสังคม
- สร้างสังคมเข้มแข็งที่แบ่งปัน ไม่ทอดทิ้งกัน และมีคุณธรรม
- การรองรับสังคมสูงวัยอย่างมีคุณภาพ
- สนับสนุนความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ ภาคประชาสังคมและภาคประชาชน
- ส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศและบทบาทของสตรีในการสร้างสรรค์สังคม
- สนับสนุนการพัฒนาบนฐานทุนทางสังคมและวัฒนธรรม
- สนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อสร้างสรรค์ เพื่อรองรับสังคมยุคดิจิทัล
๔.เพิ่มขีดความสามารถของชุมชนท้องถิ่นในการพัฒนาการพึ่งตนเองและการจัดการตนเองเพื่อสร้างสังคมคุณภาพ
-ส่งเสริมการปรับพฤติกรรมในระดับครัวเรือน ให้มีขีดความสามารถในการจัดการวางแผนชีวิต สุขภาพ ครอบครัวการเงินและอาชีพ
- เสริมสร้างศักยภาพของชุมชนในการพึ่งตนเองและการพึ่งพากันเอง
-สร้างการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่างๆ เพื่อสร้างประชาธิปไตยชุมชน
- สร้างภูมิคุ้มกันทางปัญญาให้กับชุมชน
โดยมีตัวชี้วัดเป้าหมาย ๔ ตัวชี้วัด ดังนี้
ตัวชี้วัดที่ ๑ ความแตกต่างของรายได้และการเข้าถึงบริการภาครัฐระหว่างกลุ่มประชากร
ตัวชี้วัดที่ ๒ ความก้าวหน้าของการพัฒนาคน
ตัวชี้วัดที่ ๓ ความก้าวหน้าในการพัฒนาจังหวัดในการเป็นศูนย์กลางความเจริญทางเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี
ตัวชี้วัดที่ ๔ คุณภาพชีวิตของประชากรสูงอายุ
ประเด็นการพัฒนาด้านแรงงานและการออมในร่างยุทธศาสตร์ชาติที่ ๔ มีดังนี้
๑.การลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมในทุกมิติ
๑.๑ เพิ่มผลิตภาพและคุ้มครองแรงงานไทยให้เป็นแรงงานฝีมือที่มีคุณภาพและความริเริ่มสร้างสรรค์ มีความปลอดภัยในการทำงาน ดังนี้
- ส่งเสริมการปรับทัศนคติของนายจ้างให้มองลูกจ้างว่าสามารถเพิ่มมูลค่าและคุณค่าให้กับธุรกิจได้
-สถานประกอบการจัดโครงสร้างค่าจ้างตามความสามารถและประสบการณ์
- ส่งเสริมกลไก ระบบการออม และแหล่งเงินทุน
-ยกระดับกลไกการดูแลแรงงานไทยให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล
-พัฒนาด้านคุณภาพแรงงาน ทั้งในด้านทักษะฝีมือแรงงานและความสามารถด้านเทคโนโลยี ภาษาและการจัดการ
๑.๒ สร้างหลักประกันทางสังคมที่ครอบคลุมและเหมาะสมกับคนทุกช่วงวัย ทุกเพศภาวะและทุกกลุ่ม ดังนี้
-สร้างสภาพแวดล้อมทางกายภาพและทางสังคมที่เอื้อต่อการดำรงชีวิต
-สร้างการมีส่วนร่วมเป็นพลังในสังคมสำหรับคนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะผู้พิการและผู้สูงวัย
-ส่งเสริมและสร้างแรงจูงใจในการออมและการลงทุนระยะยาว
-ส่งเสริมให้แรงงานทั้งในระบบและนอกระบบเข้าสู่ระบบประกันสังคมอย่างทั่วถึง
ภาพรวมการปฏิรูปประเทศด้านสังคม
การปฏิรูประบบสร้างเสริมชุมชนเข้มแข็ง เน้นการขจัดอุปสรรคในเชิงโครงสร้าง โดย ๑.ชุมชนมีภูมิต้านทานต่อปัจจัยกระทบต่างๆ ๒.ชุมชนและภาคส่วนต่างๆ สามารถพึ่งพาตนเองได้ ได้แก่ จัดการข้อมูล แผน บริหารจัดการกลไกขับเคลื่อนและทุนทางสังคม ๓.ชุมชนมีเศรษฐกิจดี มั่นคง ยั่งยืน
๑.ด้านการจัดการข้อมูลและองค์ความรู้ด้านสังคม ได้แก่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีระบบบริหารข้อมูลและสารสนเทศ เชื่อมโยงบูรณาการข้อมูลรัฐและหน่วยงานอื่นๆ ให้เป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ และ มีระบบฐานข้อมูลด้านภาษีเพื่อเป็นเครื่องมือประกอบการตัดสินใจของรัฐบาลในการช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมาย
๒.การปฏิรูปกลุ่มผู้เสียเปรียบในสังคม ได้แก่ ปฏิรูปเพื่อปลดอุปสรรคในด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา สาธารณสุข การเมือง กฎหมาย วัฒนธรรม ปลดล็อกข้อจำกัดต่างๆ อันเป็นอุปสรรคของกลุ่มผู้เสียเปรียบในสังคม ลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการคุ้มครองทางสังคม กลุ่มแรงงาน คนพิการ และคนไร้สัญชาติสามารถเข้าถึงทรัพยากร แหล่งทุน บริการสาธารณะ และโอกาสในการประกอบอาชีพ
๓.การปฏิรูปการออม สวัสดิการ และการลงทุนเพื่อสังคม ลดความเหลื่อมล้ำเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์และบริการของรัฐ ได้แก่ เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บรายได้ภาครัฐและการออมภาคประชาชน เพื่อแก้ไขปัญหาการมีรายได้ไม่เพียงพอและมีการออมอยู่ในระดับต่ำ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและสถาบันทางสังคมมีส่วนร่วมกับภาครัฐในการจัดบริการทางสังคม
๔.ส่งเสริมการมีส่วนร่วม การเรียนรู้ การรับรู้และการส่งเสริมกิจกรรมทางสังคม สร้างพลังจิตอาสา พลังแผ่นดิน พลังสร้างสรรค์ ได้แก่ ประชาชนมีความเป็นพลเมืองดี มีคุณธรรม ถึงพร้อมด้วยความพอเพียง มีวินัย สุจริต จิตอาสาในสังคมที่เป็นธรรม และไม่ทอดทิ้งกัน สร้างและพัฒนาพื้นที่ศูนย์การเรียนรู้ ทักษะชีวิตและพลังภูมิคุ้มกันต่อสื่อ
การปฏิรูปประเทศด้านสังคมในประเด็นเรื่องการออมมีกิจกรรมการปฏิรูปการออม ดังนี้
๑.การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) โดยการอำนวยความสะดวกกับผู้ฝาก การมีปฏิสัมพันธ์กับการออมชุมชน การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จูงใจให้เกิดการออม และการพิจารณาความเหมาะสมเงินสมทบภาครัฐ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนที่เป็นกลุ่มอาชีพนอกระบบเข้ามาเป็นสมาชิก กอช. เพิ่มขึ้น และสมาชิก กอช. ได้รับสิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่าและเหมาะสม
๒.สร้างระบบให้คนไทยมีบำเหน็จบำนาญหลังพ้นวัยทำงาน โดยการออกกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญในรูปแบบการออมภาคบังคับ และใช้หลักการระดมการออมทั้งผู้รับสวัสดิการสังคม เจ้าของกิจการ (นายจ้าง) และรัฐบาล โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนมีความมั่นคงด้านรายได้เมื่อถึงวัยเกษียณอายุหรือหลังพ้นวัยทำงาน
๓.พัฒนาการออมภาคบังคับ โดยการจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ส่วนหนึ่งคืนให้กับผู้เสียภาษีตามเลขบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อเป็นเงินออมของผู้เสียภาษี จนอายุ ๖๐ ปี โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนมีเงินออมจากการบริโภคสินค้าและบริการของตนเองและประชาชนทุกคนเข้าสู่ระบบภาษี
(อ่านต่อสัปดาห์หน้า)
สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ถนนอู่ทองใน ดุสิต กทม. 10300 email : dek_senate@hotmail.co.th หรือ Facebook: กมธ.พัฒนาสังคมหรือ กลุ่มงานคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคมและกิจการเด็กฯ วุฒิสภา โทร.02-831-9225-6 แฟกซ์ 02-831-9226
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี