ผมได้เขียนถึงคุณสมบัติของคนไทยที่ผมอยากให้ทุกๆ คนมีมาแล้วหลายครั้งหลายครา และช่วงล่าสุดได้เขียนอย่างค่อนข้างละเอียดเกี่ยวกับความดี ความเก่ง ความรอบรู้ และการที่จะมีสุขภาพดี โดยทุกครั้งผมจะย้ำว่าความดีต้องมาก่อนความเก่ง
และผมได้เขียนถึงความเก่งว่าจะต้องมีเก่ง 7 อย่าง คือ เก่งคิด เก่งคน เก่งงาน เก่งเงิน เก่งเวลา เก่ง “ขาย” และเก่งฟังและได้เขียนอย่างละเอียดไปจนถึงเก่งเงินไปแล้ว วันนี้จึงจะมาขอขยายความเกี่ยวกับการเก่งเวลา
ในชีวิตเราๆ จะต้องทำอะไรหลายอย่างมาก เช่น คุณหมอทั้งหลายที่กำลังเป็นแพทย์ประจำบ้าน สาขาอายุรศาสตร์ จะต้องเรียนหนักมาก เพราะการเรียนสาขานี้จะต้องเรียนอนุสาขาต่างๆ ของวิชาอายุรศาสตร์ถึงประมาณ 20 อนุสาขา โดยใช้เวลาเพียง 3 ปี ตัวอย่างของอนุสาขาต่างๆ ของสาขาอายุรศาสตร์ คือ อนุสาขาโรคหัวใจ อนุสาขาโรคต่อมไร้ท่อ อนุสาขาไต ระบบทางเดินอาหาร เลือด ปอด มะเร็ง ไขข้อ และภูมิคุ้มกัน สูงอายุ โภชนาการ ฯลฯ แต่ถึงแม้จะต้องเรียน ทำงาน หนักอย่างไร ผมก็ไม่อยากให้ลูกศิษย์เอาแต่เรียนเท่านั้น คุณหมอต่างๆ เหล่านี้จะต้องทำงาน(ดูแลผู้ป่วย) อ่านหนังสือเรียน วารสาร ซึ่งมีเยอะมาก จะต้องนอนให้พอ (7 ชั่วโมงดีที่สุด แต่คุณหมอพวกนี้คงนอนได้น้อยกว่านี้) ต้องมีเวลาที่จะกินอาหาร มีเวลาที่จะออกกำลังกาย (30 นาที) มีเวลาสำหรับตนเอง สำหรับสถาบัน สำหรับครอบครัว คุณพ่อคุณแม่ สำหรับการอ่านหนังสืออ่านเล่น(ภาษาอังกฤษก่อนในช่วงของชีวิตตรงนี้) สำหรับงานอดิเรกด้วย ฯลฯ
ฉะนั้นการแบ่งเวลา บริหารเวลา จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ใครที่รู้จักบริหารเวลาได้ดี จะมีโอกาสประสบความสำเร็จในชีวิตได้ดีกว่าผู้ที่ไม่รู้จักการบริหารเวลา ผู้ที่แบ่งเวลาเก่งจะต้องรู้ลำดับความสำคัญของสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวันด้วย เช่น ต้องรู้ว่าจะต้องทำอะไรที่สำคัญก่อน เวลาทำอะไรอย่าให้มีของรอบตัวมายุ่งเกี่ยวกับการทำงาน จะต้องมีสมาธิที่ดี เช่น ไม่ดูทีวี ฟังวิทยุ ปิดโทรศัพท์มือถือ ฯลฯ
ถ้าคุณหมอเอาแต่เรียนอย่างเดียว นอนไม่พอ กินไม่พอ ร่างกายก็จะไม่อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่จะทำงานหรืออ่านหนังสือได้ดีเท่าที่ควร เช่น ดูหนังสือจนดึกหรือเช้าเกินไป นอนเที่ยงคืน ตีหนึ่งทุกวัน ตื่น 6 โมงเช้าทุกวัน ร่างกายจะไม่สมบูรณ์ วันรุ่งขึ้นแทนที่จะทำงานได้ดี แต่สมองกลับมึนงงไปทั้งวัน ฉะนั้นการที่เราทำงาน อ่านหนังสือจนดึกเกินไป จนไปกินเวลาของการนอนในระยะยาวแล้ว สู้เราหยุดทำงาน อ่านหนังสือ เพื่อนอนเวลา 23.00 น. ไม่ได้ เพราะถ้านอนพอ สมองจะดีกว่า จะทำงาน เรียนได้ดีกว่าผู้ที่อดนอน ฯลฯ เพียงแต่เราต้องทำงาน อ่านหนังสืออย่างสม่ำเสมอทุกๆ วัน
ถ้าเราเอาแต่เรียน โดยไม่แบ่งเวลาให้เป็น ไม่มีเวลาออกกำลังกาย โดยที่เราไม่รู้ตัว ร่างกายเราจะเริ่มมีพยาธิสภาพของโรค กล่าวคือตั้งแต่หลังเราเกิด หลอดเลือดทั่วร่างกายเราจะเริ่มต้นตีบทีละเล็กละน้อย โดยที่ไม่มีอาการ และเมื่อหลอดเลือดตีบมากๆ เมื่ออายุเพียง 40 ปีเศษๆ อาจมีอาการของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบและอุดตันขึ้นมา ซึ่งถึงตอนนั้นก็อาจเสียชีวิต หรือไม่ก็ต้องเจ็บตัว เสียงบประมาณในการรักษาตนเอง หลักการของผมจึงอาศัยการบริหารจัดการเวลาให้ดี และทำทุกๆ อย่างที่สำคัญ เช่น ในกรณีของสุขภาพ คือ ต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการสร้างเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค ซึ่งถ้าไม่เริ่มตั้งแต่ยังเยาว์วัย อาจมีโรคที่ควรจะป้องกันได้เกิดขึ้นเมื่ออายุ 40-50 ปีแค่นั้นเอง องค์การอนามัยโลกแจ้งว่า 70% ของการเสียชีวิตของชาวโลกมาจากโรคที่ไม่ติดต่อ (non communicable diseases) ซึ่งก็คือโรคเรื้อรัง ที่มาจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของตัวเราเอง หรืออาจพูดได้ว่าเป็นโรคที่น่าจะป้องกันหรือลดความเสี่ยงได้นั่นเอง ถ้าเรามีพฤติกรรมที่เหมาะสม
เนื่องจากผมชอบให้ลูกศิษย์ผมทั้งดี ทั้งเก่ง ทั้งรอบรู้ และมีสุขภาพที่ดี และการเรียน การทำงาน ก็หนัก จึงต้องแบ่งเวลาให้เก่ง และต้องเรียนให้เป็นด้วย จะได้เรียน ทำงาน อย่างมีประสิทธิภาพ งานหรืออะไรที่ไม่สำคัญต้องทำทีหลัง หรืออย่าไปเสียเวลากับมันเลย เช่น การเล่นไลน์ face book ฯลฯ แต่ต้องมีเวลาอ่านหนังสือพิมพ์ หรือหนังสืออ่านเล่นที่เป็นภาษาอังกฤษ ทุกๆ วันอย่างน้อย 15 นาที เพราะภาษาอังกฤษสำคัญมาก และคุณหมอเหล่านี้ (โดยเฉพาะถ้าใครจะมาเรียนทางโรคระบบทางเดินอาหารที่หน่วยผม ผมจะส่งไป elective ที่อเมริกาทุกคนในปีที่ 2) จะต้องไปนอกทุกคน จึงจะต้องสะสมบารมีทางด้านภาษาอังกฤษแต่เนิ่นๆ ทั้งนี้เพราะการมี “บารมี” จะเร่งไม่ได้ จะต้องค่อยเป็นค่อยไป ไม่ว่าจะเป็นบารมีทางด้านไหนๆ
นพ.พินิจ กุลละวณิชย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี