(ต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว)
๕.ผลการประเมิน
๑) งบประมาณ หน่วยงานภาครัฐส่วนใหญ่สามารถใช้งบประมาณประจำที่มีอยู่แต่เดิมได้ดี ไม่มีปัญหา เนื่องจากเป็นเป้าหมายและภารกิจที่เตรียมการเอาไว้แล้ว มีการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. ที่เหมาะสม เพียงพอ
๒) บุคลากร สามารถใช้บุคลากรเดิมได้ แต่บางหน่วยงานพบว่ามีภารกิจอื่นที่เร่งด่วนกว่าที่ต้องดำเนินการมีการประชุมให้ความรู้เพื่อเตรียมการเจ้าหน้าที่ในการดำเนินการเรื่องที่เกี่ยวข้อง
๓) กฎ ระเบียบ มีนโยบายสนับสนุน จากการตั้งกระทู้ถามในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. มีกฎ ระเบียบเดิม และสามารถออกหนังสือคำสั่งไปยังหน่วยงานย่อยได้ บางหน่วยงานสามารถอ้างอิงบันทึกข้อตกลง เพื่อสั่งการไปยังหน่วยงานย่อย ซึ่งเป็นผลพลอยได้ต่อเนื่อง จากการมี บันทึกข้อตกลงดังกล่าว
๔) ผลสำเร็จ
(๑) เกิดแผนงานรณรงค์ในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกที่ช่วงชิงพื้นที่สื่อได้มาก ทั้งสื่อมวลชนและสื่อสังคมออนไลน์
(๒) เกิดกิจกรรม แผนปฏิบัติการในระดับพื้นที่ จังหวัด และโรงเรียนทั่วประเทศ
(๓) เกิดการทำงานร่วมกันและได้ร่วมระดมสมองในการแก้ไขปัญหา ในระดับเจ้าหน้าที่ส่วนปฏิบัติงานภาคสนาม และคณะทำงาน
(๔) มีหน่วยงานกลางที่ร่วมกันระหว่างภาคประชาสังคมและหน่วยงานภาครัฐหนุนเสริมการดำเนินการของคณะทำงาน
(๕) เกิดการบูรณาการข้ามมิติร่วมกันในบางส่วน เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการบูรณาการทำงานกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)ส่งเสริมด้านการป้องกัน นอกเหนือจากภารกิจหลักที่ทำด้านการปราบปราม
(๖) มีการแจ้งเบาะแส และมีการจับกุมผู้กระทำความผิด
๕) ปัญหา/อุปสรรค
(๑) ขาดสื่อที่ใช้เผยแพร่ รณรงค์ และข้อมูลสถานการณ์ที่ใหม่ๆ สำคัญ และมีแง่มุมแตกต่างไปจากเดิมรวมถึงขาดข้อความหลักในการเผยแพร่ข้อมูล และรณรงค์ร่วมกัน
(๒) ขาดการเตรียมการด้านงบประมาณในการผลิตสื่อ
(๓) ขาดการเก็บสถิติที่ชัดเจน (อ้างอิงจากสำนักโพลล์สถาบันการศึกษา ๓ แห่ง)
(๔) กฎหมายที่ปฏิบัติ บังคับใช้ ยังมีความล้าหลัง รวมทั้งความชัดเจนในข้อกฎหมายให้สามารถดำเนินการเพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และคุ้มครองเด็กและเยาวชนได้
(๕) ขาดการบูรณาการข้ามมิติทั้ง ๔ และยังขาดการประสานการทำงานเชื่อมโยงกันระหว่างหน่วยงานที่เพียงพอและมีประสิทธิภาพ
๖) บุคลากร
(๑) เจ้าหน้าที่ยังขาดความรู้ ความเข้าใจในกระบวนการ และบริบทที่เปลี่ยนแปลงไปของปัญหาการพนันในรูปแบบใหม่ๆ
(๒) ภารกิจของเจ้าหน้าที่มีหลายด้านที่ต้องดำเนินการ และยังขาดงบประมาณสนับสนุนการทำงานด้านการพนันที่เพียงพอ
(๓) ควรมีการดึงศักยภาพของส่วนอื่นๆ มาขับเคลื่อนร่วมกันมากกว่านี้ เช่น สื่อที่ภาคประชาสังคมได้รวบรวม และผลิตไว้ก่อนหน้านี้ในการรณรงค์เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการพนันมาอย่างต่อเนื่อง
๗) การมีส่วนร่วม
(๑) เกิดโครงการ หรือแผนกิจกรรมใน ๔ มิติในระดับจังหวัด และระดับพื้นที่
(๒) เกิดการมีส่วนร่วมกับประชาชนในระดับจังหวัด และระดับพื้นที่
(๓) เกิดการมีส่วนร่วมจากกลุ่มคนรุ่นใหม่มากยิ่งขึ้น
(๔) เกิดกระแสในสื่อสาธารณะ และสื่อสังคมออนไลน์ หรือ Social media
๖.ข้อเสนอแนะ
(๑) ควรนำผลการดำเนินงานร่วมกันของคณะทำงานชุดนี้ ขับเคลื่อนต่อในระดับหน่วยงาน
(๒) ควรมีการจัดสรรบุคลากร เครื่องมือในการปฏิบัติงาน งบประมาณ และการมอบหมายภารกิจที่หน่วยงานให้ความสำคัญในระดับนโยบาย
(๓) สร้างความเชื่อมโยงในการบูรณาการข้ามมิติร่วมกัน เพื่อให้แต่ละองค์กรมีข้อมูลในการทำงานให้ครบทุกมิติ ทั้งด้านการป้องกัน การป้องปราม การปราบปราม และการเยียวยาแก้ไข
(๔) ควรขับเคลื่อนไปสู่องค์กรระดับชาติ เช่นการตั้งเป็น “คณะกรรมการลดผลกระทบจากการพนันแห่งชาติ” เป็นต้น
(๕) ควรมีการจัดทำแผนการทำงานร่วมกัน รวมทั้งวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน อุปสรรค และโอกาส ของแต่ละหน่วยงาน
(๖) ควรผลักดันการรณรงค์เรื่องนี้ให้เป็นวาระทางสังคมประจำทุกเทศกาลการแข่งขัน เหมือนกรณี รณรงค์การหยุดเหล้าตามเทศกาล
(๗) ควรเชิญชวนสื่อ และองค์กรวิชาชีพสื่อมามีส่วนร่วมและเป็นพันธมิตรมีบทบาทมากในการสื่อสารกับสังคม “สื่อเป็นอย่างไรสังคมเป็นอย่างนั้น”
(๘) ควรมีการสนับสนุนองค์ความรู้ด้านต่างๆ และเครื่องมือที่ใช้ในการสื่อสาร ที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย และทันเหตุการณ์
(๙) ผลักดันหลักสูตรเท่าทันการพนันในสถาบันการศึกษา สำหรับครูและนักเรียน
๗.ความยั่งยืนในการจัดการปัญหาการพนันในประเทศไทย ควรจัดตั้ง “คณะทำงานศึกษาการลดผลกระทบจากการพนันอย่างต่อเนื่อง” เพื่อยกร่างกลไกการป้องกันและลดผลกระทบจาการพนันออนไลน์ และรูปแบบการพนันอื่นๆ เช่น อีสปอร์ต หรือ พนันออนไลน์ กาสิโนออนไลน์ โดยมีข้อเสนอว่าควรจัดตั้ง คณะทำงาน ซึ่งควรประกอบด้วย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ นักวิชาการด้านกฎหมาย องค์กรวิชาชีพสื่อ ภาคประชาสังคม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ โดยภารกิจสำคัญของคณะทำงาน ประกอบด้วย ๒ ส่วน
คือ (๑) กำหนดยุทธศาสตร์การจัดการกับปัญหาการพนัน และ (๒) ออกแบบรูปแบบโครงสร้างภารหน้าที่ของคณะกรรมการลดผลกระทบจากปัญหาการพนันระดับชาติ ที่จะอยู่ต่อไปอย่างมั่นคงถาวร ซึ่งภารกิจหน้าที่ขององค์กรระดับชาติ “คณะกรรมการลดผลกระทบจากการพนันแห่งชาติ” คือ (๑) สร้างองค์ความรู้ (๒) กำหนดมาตรการด้านการป้องกัน (๓) กำหนดมาตรการด้านเฝ้าระวัง(๔) กำหนดมาตรการด้านการเยียวยา (๕) ติดตามประเมินผล (๖) จัดตั้งกองทุนเพื่อสนับสนุน การป้องกัน ปกป้องคุ้มครอง และช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ ที่มีความเป็นอิสระและโปร่งใส
สรุป หัวใจสำคัญของการทำงานในวันนี้ที่ต้องให้ความสำคัญ คือ การปกป้องคุ้มครองเด็กจากปัจจัยเสี่ยง ที่เรียกว่า “การพนัน”
อ่านต่อสัปดาห์หน้า
สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ถนนอู่ทองใน ดุสิต กทม. 10300 email : dek_senate@hotmail.co.th หรือ Facebook: กมธ.พัฒนาสังคม
หรือ กลุ่มงานคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคมและกิจการเด็กฯ วุฒิสภา โทร.02-831-9225-6 แฟกซ์ 02-831-9226
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี