แพทยสภาจับมือเครือข่ายแนะแนวทาง
ป้องกันปัญหาฝุ่นละออง PM2.5
เตือนประชาชนตรวจสอบพื้นที่
และปรับตัวในระยะฉุกเฉินให้เหมาะสม
l แพทยสภาแนะหลีกเลี่ยงเข้าพื้นที่สีแดง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ป้องกันตัวเองจากฝุ่นละออง
l ร่วมมือสร้างเครือข่ายเสนอแผนป้องกันระยะสั้นและระยะยาวเพื่อสุขภาพคนไทย
17 มกราคม 2562 กระทรวงสาธารณสุข, แพทยสภาจัด งานเสวนาเรื่อง “ฝุ่นละออง PM 2.5 กับปัญหาสุขภาพและแนวทางแก้ไข” แนะหลีกเลี่ยงประชาชนเข้าพื้นที่สีแดง ปรับเวลาในการเข้าพื้นที่ให้น้อยที่สุด โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง คือเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยภูมิแพ้หอบหืดทางเดินหายใจ ฯลฯ และป้องกันตัวเองจากฝุ่นละออง การแก้ไขระยะยาว คือ ทุกฝ่ายในเครือข่ายร่วมมือและกำหนดมาตรการจริงจังเพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองลง และสนับสนุนมาตรการระยะยาว เช่น การปลูกต้นไม้ในเมือง
ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา, นายกแพทยสภา กล่าวถึง ความจำเป็นเร่งด่วนที่ประชาชนควรปฏิบัติตัวในช่วงที่มีปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 สังคมในตอนนี้เกิดการตื่นตัวจนถึงขั้นตื่นตระหนก “จริงๆ แล้วกระบวนการป้องกันตัวเองสามารถทำได้มากกว่าการใช้หน้ากาก เน้นสิ่งที่ต้องทำในวันนี้ก่อน ซึ่งต้องอาศัยข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆ และแนวทางในการศึกษา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขในระยะยาวได้ ลดปัญหาที่จะกระทบสุขภาพของประชาชน”
นพ.สุขุม กาญจนพิมาย, ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกล่าวถึงบทบาทของกระทรวงสาธารณสุขต่อปัญหาสุขภาพฝุ่นละออง PM 2.5 ว่า “กระทรวงสาธารณสุขได้จัดตั้งหน่วยงานศูนย์ปฏิบัติการแพทย์สาธารณสุข EOC ขึ้น คอยประสานงานกับกรมอนามัย กรมการแพทย์ ฯลฯ จัดเตรียมข้อมูลเผยแพร่ และมีระบบเฝ้าระวังและเตือนภัย โดยรวบรวมข้อมูลอัพเดตตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อจัดทำชุดข้อมูลเผยแพร่การป้องกันและดูแลสุขภาพเบื้องต้นแก่ประชาชน ในส่วนของปฏิบัติการเชิงรุก ได้ประสานเครือข่าย จัดทีมแพทย์เคลื่อนที่เข้าสู่ชุมชนในพื้นที่เสี่ยง และสั่งการให้โรงพยาบาลในเขต กทม. และสังกัดกระทรวงเตรียมพร้อมรองรับและบริการประชาชน”
ทั้งนี้ นพ.ดนัย ธีวันดา, รองอธิบดีกรมอนามัย ชี้แจงเรื่องข้อมูลพื้นฐานของฝุ่นละออง PM 2.5 ที่ประชาชนควรรู้ว่า “มลพิษทางอากาศ ถือเป็นสาเหตุการตายระดับต้นๆ ของกลุ่มที่เสียชีวิตด้วยโรคทางเดินหายใจ สถานการณ์ความเสี่ยงของฝุ่นละอองขนาดเล็กในขณะนี้มีผลกระทบต่อประชาชนโดยตรง จากการที่สภาวะอากาศนิ่ง ลมสงบ ทำให้ฝุ่นละอองขังตัวอยู่ในพื้นที่ และแหล่งกำเนิดของการเผาไหม้น้ำมันเชื้อเพลิงจากการจราจรติดขัด และเผาชีวมวลต่างๆ ที่ทำให้เกิดปริมาณฝุ่นละออง ขณะนี้ เรามีสถานีวัดปริมาณฝุ่นละอองพบว่า จังหวัดกรุงเทพมหานครและสระบุรี มีปริมาณที่มาก และพบว่าตั้งแต่
เดือนสิงหาคม 2561-มกราคม 2562 ผู้ป่วยทางเดินหายใจในกทม.และปริมณฑล มีปริมาณเพิ่มขึ้น อาทิ หอบหืด ทางเดินหายใจอื่นๆ หลอดลมอุดกั้นเรื้อรัง หัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ฯลฯทางกรมอนามัยเองได้ประกาศค่าเฝ้าระวังพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพประชาชนออกเผยแพร่ให้สังคมได้รับรู้และป้องกันตัวได้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี