ปี พ.ศ.2561 ก็ได้ผ่านไปแล้ว ผมและทุกๆ คนก็มีอายุเพิ่มขึ้นอีก 1 ปี ในปี พ.ศ.2561 เป็นอย่างไรบ้าง สำหรับผม ทางด้านการงาน การเงิน และสุขภาพ ซึ่งทั้ง 3 ประเด็นนี้เป็นปัญหาของผู้สูงอายุ คือมีการศึกษาน้อย ไม่ออม ไม่ลงทุน หรือน้อย และสุขภาพไม่ดี
ทางด้านการงาน ผมอยู่ในตำแหน่งผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทย งานที่จะทำแล้วแต่ท่านเลขาธิการจะมอบหมาย แต่ในฐานะที่ผมเคยเป็นผู้อำนวยการสำนักงานยุวกาชาด เคยเป็นผู้ช่วยเลขาธิการฝ่ายยุวกาชาด และในฐานะที่ห้องทำงานผมอยู่ในสำนักงานยุวกาชาด ใครๆ เลยนึกว่าผมมีหน้าที่ดูแลสำนักงานยุวกาชาด แต่โดยเนื้อแท้ตำแหน่งผู้ช่วยเลขาธิการของผมไม่มีระบุหน้าที่ แต่ปีที่ผ่านไปผมได้รับการมอบหมายจากท่านเลขาธิการสภากาชาดไทย ให้ไปประชุมกับกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ในเรื่องนโยบายการบริการโลหิตแห่งชาติ เล่มที่ 4 (ก่อนหน้านี้มีในปี พ.ศ.2532, 2538 และ 2553)ซึ่งเป็นงานที่สำคัญต่อระบบสาธารณสุขของประเทศเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งผมได้ไปประชุมมา 3-4 ครั้ง ได้มีโอกาสพบเพื่อนเก่าและสร้างเพื่อนใหม่มากมาย
ทางด้านงานอื่นๆ ที่สภากาชาดไทย ก็มีหลายๆ งานที่ท่านเลขาธิการมอบหมาย สำนักงานยุวกาชาดได้เชิญผมไปเป็นประธานเปิดการสัมมนารวมทั้งบรรยายเรื่องการสร้างจิตอาสาให้เป็นอาสายุวกาชาดที่มีคุณภาพในจังหวัดต่างๆ เช่น นนทบุรี ปทุมธานี ชลบุรี จันทบุรี ระยอง ปราจีนบุรี เพชรบุรี ฉะเชิงเทรา ฯลฯ ซึ่งทำให้ผมได้มีโอกาสพบท่านนายกเหล่ากาชาด (ภรรยาท่านผู้ว่าฯ) ของหลายจังหวัด ผมได้มีโอกาสไปบรรยายให้กระทรวงการต่างประเทศ 3 ครั้ง หลักสูตร มส.ทุกปี (หลักสูตรการบริหารจัดการด้านความมั่นคงขั้นสูงของสมาคมวิทยาป้องกันราชอาณาจักร) กรมกิจการผู้สูงอายุ 3 ครั้ง ในหัวข้อต่างๆ ที่เกี่ยวกับผู้สูงอายุ อาทิ การเรียน การทำงาน การออม การลงทุน และการดูแลสร้างเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค ซึ่งต้องดูแลตั้งแต่เกิด หรือก่อนเกิดด้วยซ้ำไป
ณ ที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ผมไม่ได้เป็น สนช. แต่ผมได้รับเชิญให้เป็นกรรมการประสานงานการบูรณาการการกู้ชีพฉุกเฉินที่มีท่านรองประธาน สนช. ท่านที่หนึ่ง สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย
เป็นประธาน ในความเห็นของผม กรรมการชุดนี้มีความสำคัญมาก และมีประโยชน์ต่อความเป็นอยู่ของประชาชนชาวไทยเป็นอย่างมาก มีทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการในคณะกรรมการชุดนี้ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ได้รับเชิญให้ร่วมประชุมด้วยอีกเป็นจำนวนมาก อาทิ หน่วยงานทุกหน่วยของตำรวจทั่วประเทศ กรมการขนส่งทางบก มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งและอื่นๆ กรมโยธาธิการ ศูนย์นเรนทร ศูนย์เอราวัณ กรุงเทพมหานคร ฯลฯ เราดูแลตั้งแต่รถพยาบาลที่ไปถึงที่เกิดเหตุ หรือโรงพยาบาลช้า เพราะรถติด การกู้ชีพฉุกเฉิน CPR (Cardiopulmonary Resuscitation) และการใช้เครื่องมือ AED (Automated External Defibrillator หรือเครื่องกระตุกหัวใจด้วยไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ) การสร้างตึกที่เหมาะสมในการเข็นรถนั่งของผู้สูงอายุ หรือเข็นเตียงพยาบาล ฯลฯ เราพยายามแนะให้รถยนต์มีกล้องถ่ายวีดีโอหน้ารถ ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ เราได้ให้รางวัลผู้ที่ส่งคลิปดีๆ มาให้เรา ซึ่งคลิปต่างๆ นี้บ่งบอกถึงผู้ที่กระทำความดีและไม่ดีบนท้องถนน โดยถ้ารถคันใดทำไม่ดีเราจะส่งคลิปไปให้ตำรวจดำเนินการ ส่วนคลิปที่ดีเราก็จะให้รางวัล เราได้รณรงค์ให้รถยนต์ทุกๆ คัน พยายามเปิดทางให้รถพยาบาลผ่านไปอย่างรวดเร็ว
เราต้องการให้ประชาชนชาวไทยทุกๆ คนมีความรู้เกี่ยวกับการทำปฐมพยาบาลเบื้องต้น การทำ CPR การใช้เครื่อง AED โดยผมได้เป็นผู้เสนอในการประชุมครั้งแรกว่าขอให้มีแผนที่จะทำให้คนทั้งประเทศรู้จักการปฐมพยาบาลเบื้องต้น รู้จักวิธีการทำ CPR และใช้เครื่อง AED โดยเริ่มต้นที่ผู้ที่จะสอบใบขับขี่ โดยกรมขนส่งทางบกได้รับไป และได้เพิ่มการอบรมจาก 4 ชั่วโมง เป็น 5 ชั่วโมง ก่อนที่จะสอบใบขับขี่ และอีกหน่อยคงจะมีภาคปฏิบัติด้วย ตอนนี้บ้านเรารู้เรื่องๆ CPR และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับเครื่อง AED เป็นอย่างดี เราพยายามให้มีการติดตั้งเครื่อง AED ในที่ที่มีประชาชนอยู่มากๆ โดยขอให้ห้างร้านติดตั้งและดูแลเอง
ผมยังได้เสนออีกประเด็นหนึ่งคือ ขอให้กระทรวงศึกษาธิการสอนเด็กในโรงเรียนเกี่ยวกับการปฐมพยาบาลเบื้องต้น การทำ CPR-AED เพราะถ้าเราไม่ทำที่โรงเรียน ไม่ว่าจะมีกี่หน่วยงานทำเรื่องนี้แค่ไหนก็จะไม่ครอบคลุมทั้งประเทศ แต่ถ้าเราค่อยๆ สอนเรื่องนี้ในโรงเรียน สอนครูให้สอนเด็ก ค่อยเป็นค่อยไป อีกหน่อยทุกๆ คนจะผ่านการฝึกอบรมนี้
นอกจากนั้นผมยังได้รับเลือกให้เป็นอนุกรรมาธิการเกี่ยวกับผู้สูงอายุของ 2 กรรมาธิการ หนึ่ง คือ สาธารณสุข และอีกอันขึ้นอยู่กับกรรมาธิการการสังคม กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ด้อยโอกาส สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งและผมเป็นคนเดียวที่อยู่ในทั้ง 2 คณะ คือ 1) คณะอนุกรรมาธิการกิจการผู้สูงวัยของคณะกรรมาธิการสังคม กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ด้อยโอกาส และ 2) คณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาด้านการดูแลรักษาพยาบาลผู้สูงอายุแบบครบวงจรของคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข ทำให้ผมได้ความรู้มากมายเกี่ยวกับสถานการณ์ผู้สูงอายุ เพราะคณะอนุกรรมาธิการทั้ง 2 คณะ มีอนุกรรมาธิการที่ทรงคุณวุฒิทางด้านผู้สูงอายุมากมาย คณะได้ไปดูงาทั้งในและต่างประเทศ (ญี่ปุ่น, อุซเบกิสถาน) และในฐานะที่เป็นที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการสาธารณสุขได้เดินทางไปศึกษาดูงานที่อังกฤษ (ไปนอกต้องออกงบประมาณเองทั้งนั้น แต่ก็ถือว่าเป็นเกียรติและได้ความรู้ พบผู้เชี่ยวชาญมากมาย)
นพ.พินิจ กุลละวณิชย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี