ผมพูดเสมอว่าถ้าทุกๆ คนในโลกเป็นคนดี ชีวิตของทุกๆ คนจะโสภาเป็นอย่างมาก และถ้าเป็นคนที่เก่งด้วยจะไปโลด ส่วน icing on the cake คือ เป็นคนดี ที่เก่ง ที่มีความรู้รอบตัวพอสมควร และมีสุขภาพที่ดีด้วย เพราะประเทศไทยต้องการคนดี ที่เก่ง รอบรู้ และที่มีอายุยืนยาวเพื่อที่จะรับใช้ประเทศได้นานๆ
Icing on the cake คือ ทำให้อะไรที่ดีอยู่แล้วดียิ่งขึ้น
ทำไมนักการเมืองต้องเป็นคนดีเหนือสิ่งอื่นใด?
เพราะนักการเมืองหลายๆ คน พูดเก่งมาก พูดจนทุกๆ คนคล้อยตาม โดยที่ผู้ฟังไม่รู้ชัดว่าสิ่งที่พูดนั้นเป็นความจริง มีหลักฐานเชิงประจักษ์หรือไม่ คนนี้ก็พูด “ดี” พูด “เก่ง” อีกคน คนละพรรคก็พูด “ดี” พูด “เก่ง” เหมือนกัน ชาวบ้าน (รวมทั้งผมด้วย) ไม่มีปัญญาที่จะไปติดตามหาข้อมูล จึงไม่รู้ว่าจะเชื่อใครดี โดยเฉพาะถ้าอ้างตัวเลขต่างๆ ฉะนั้นถ้านักการเมืองเป็นคนดี ก็จะพูดความจริงที่จะเชื่อถือได้ คนดีจะเป็นคนมีเหตุผล ฟังเสียงส่วนใหญ่ รับฟังจากทุกๆ คน ไม่โกง ไม่มีคอร์รัปชั่น ถึงแม้ตัวเองไม่คอร์รัปชั่น แต่ก็ต้องห้าม จับ ทำโทษ ผู้ใกล้ชิด ผู้ร่วมงาน ด้วยถ้ามีการคอร์รัปชั่นเกิดขึ้น นักการเมืองที่ดีจะฟังเหตุผลไม่ว่าข้อเสนอนี้จะมาต่างพรรค ถ้าพรรคการเมืองทุกๆ พรรคมีคนดีๆ เวลาพรรคไหนเข้ามาเป็นรัฐบาล โปรแกรม หรืออะไรก็ตาม ที่รัฐบาลชุดก่อนทำไว้ และดี ควรยกย่องว่าโปรแกรมนี้ดี เป็นผลงานของรัฐบาลชุดก่อน และทำต่อ ไม่ใช่เข้ามารื้อหมดทุกอย่างที่รัฐบาลชุดก่อนทำไว้ นักการเมืองต้องฟังเหตุผล ไม่ใช่พอพรรคตรงข้ามพูดก็ค้านเสียแล้ว หรือพรรคอื่นพูดไม่สนใจ แต่ถ้าคนในพรรคเดียวกันพูด จะคิดว่าถูกเสมอ ต้องรู้จักแยกหัวใจออกจากสมอง สมอง คือ ความรู้ถูกรู้ผิด มีเหตุผล ส่วนหัวใจ คือ การอยากได้โน่นนี่ตามความรู้สึก ไม่มีเหตุผล หรือยอมเพียงเพราะเป็นพวกเดียวกันเองเท่านั้น
สรุปคนที่ดี คือ คนที่รู้จักหน้าที่ รู้ผิดชอบชั่วดี ไม่โกงไม่กิน ไม่โกหก ขยัน รับผิดชอบ ไม่หลอกลวง รู้จักพอ ไม่โลภมีวินัย ยอมรับผิด มีความเมตตา ปรานี ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ฯลฯ
แต่ดีอย่างเดียวไม่พอ
ต้องเก่งด้วย ก่อนที่จะเก่งได้จะต้องมีโอกาส โอกาสที่จะได้เรียนจากสถาบันการศึกษาที่มีคุณภาพ แต่ต้องรู้จักวิธีเรียน จับประเด็นเป็น สรุปเป็น รู้จักหัวใจของเรื่องด้วย และจะต้องเก่ง 7 อย่าง คือ เก่งคิด คน งาน เงิน เวลา “ขาย” และฟัง ถ้าเป็นคนดีที่เก่งถือได้ว่ามีคุณสมบัติที่จะเป็นผู้นำได้ หรือพูดให้ทันสมัยคือ เป็นคนไทย 4.0 ได้ (และสำหรับผมพร้อมที่จะเป็นคนไทย 5.0, 6.0 ฯลฯ เพราะจะพัฒนาตนเองเสมอ กับการเปลี่ยนแปลงของโลก)
เก่งคิด คือ ต้องมีวิสัยทัศน์ ต้องคิดหาทางออกใหม่ๆ ต้องหัดคิดนอกกรอบ ถ้าคิดเฉพาะในกรอบ จะคิดได้ไม่ไกล ต้องคิดหาช่องทางที่จะเดินต่อ ไม่ใช่พอเจอทางตันก็หยุด แต่เมื่อคิดนอกกรอบแล้ว ต้องกลับมาดูกฎ ระเบียบ ก่อนว่า เปิดให้เราทำได้หรือไม่ ถ้าระเบียบยังไม่เอื้ออำนวย ต้องหาช่องทางที่จะทำได้โดยไม่ผิดกฎเกณฑ์ ต้องหัดวางแผนให้เก่ง ต้องหาข้อมูลเก่ง ฯลฯ ต้องสรุปข้อมูลเก่ง ในทุกอย่างของชีวิตเราจะต้องวางแผนเก่ง หรือคิดเก่ง เช่น จะเดินทางไปเที่ยวเชียงใหม่ ช่วงสงกรานต์ จะไปอย่างไร ถ้าไปเครื่องบิน ต้องรีบซื้อตั๋ว พักที่ไหน ทานอาหารที่ไหน จะต้องรีบจองตั๋วเครื่องบิน โรงแรมร้านอาหาร หรือจะไปรถยนต์ ต้องพิจารณาเส้นทางให้รอบคอบไปวันไหน ออกกี่โมง เพื่อหนีรถติด ใครขับใครช่วย นอนให้พอ เตรียมอาหาร เครื่องดื่มไว้ในรถ รวมทั้ง comfort 100 รวมทั้งไม่ดื่มน้ำมากก่อนเดินทาง เพราะถึงแม้มีปั๊มน้ำมันตลอดทาง แต่ถ้ารถติดมาก ก็อาจไปไม่ถึงปั๊ม ต้องตรวจยาง เบรก น้ำ เติมน้ำมันให้เต็มถัง ถึงแม้วันธรรมดาเคยไปและกลับได้ แต่ถ้ารถติดมากๆ อาจใช้น้ำมันมากกว่าปกติ ต้องรัดเข็มขัดนิรภัย มีแว่นตากันแดด รถควรมีกล้องถ่ายติดรถข้างหน้า และอาจมีกล้องข้างหลังด้วย ต้องคิดด้วยว่าจะหยุดพักทั้งคนและรถที่ไหน จะได้ไม่เมื่อย ไม่ง่วง ฯลฯ
เก่งคิดแล้วยังจะต้องเก่งคนด้วย ผู้นำ ผู้บริหารประเทศต้องมีทักษะของการเป็นผู้นำ ต้องมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี เข้าได้กับคนทุกระดับ ต้องมีจุดยืนที่พอเหมาะ ให้คนรู้จัก รักเรา แต่ต้องพอดีๆ ไม่ให้เลยเถิดจนคนไม่เกรงใจ ต้องเห็นอกเห็นใจผู้อื่น (ภาษาอังกฤษเรียกว่า considerate หรือ เอาใจเขามาใส่ใจเรา) ต้องมีความสามารถในการดูคนให้ออกในเวลาที่สั้นที่สุด อาจจะเป็นเพียง 5 นาที 10 นาที อย่างเช่นในช่วงการสอบสัมภาษณ์ของแพทย์ที่ตรวจผู้ป่วยรายสั้นในการสอบเป็นผู้เชี่ยวชาญสาขาวิชาอายุรศาสตร์ที่มีเวลาเพียง 8 นาที ในการสัมภาษณ์ผู้ที่เข้าทำงานมักมีเวลามากกว่านี้จึงน่าที่จะดูคนออกได้พอสมควร เราต้องดูคนออก ว่าเขามีความสามารถอะไรบ้างทางไหน เป็นคนที่มีความรู้ ความเชื่อมั่นหรือไม่ เขาเก่งทางไหนเป็นพิเศษ ต้องดูทั้งทางด้าน IQ และ EQ เมื่อดูคนออกแล้วจะต้องหางานให้เขาทำที่เหมาะสม เลือกคนที่ถนัดงานทางด้าน X ให้ทำทางด้าน Xเช่น คัดเลือกให้ได้ว่านักกีฬาที่เกิดมานั้นมีพรสวรรค์ทางด้านวิ่งเร็ว หรือวิ่งทน ถ้าเราเลือกถูก เอาคนที่เกิดมาสำหรับวิ่งเร็ว มาฝึกให้วิ่งเร็วยิ่งขึ้น นักกีฬาคนนี้เมื่อฝึกแล้วจะพัฒนาได้ดีกว่าถ้าเราเอาคนที่เกิดมาเพื่อที่จะวิ่งทนมาฝึกให้วิ่งเร็ว ฯลฯ
นพ.พินิจ กุลละวณิชย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี