ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้คุยกันเกี่ยวกับเรื่องโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งเป็นโรคที่อันตรายถึงชีวิต และได้ทราบถึงอาการ การติดต่อการป้องกัน รวมถึงการไขความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับโรคนี้กันไปแล้ว
ซึ่งเราทราบกันดีว่าการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าที่สำคัญและทำได้ง่ายที่สุดคือ “การไม่ให้สัตว์เลี้ยงของเราไปสัมผัสกับสัตว์ที่ไม่ทราบประวัติและมีความเสี่ยงต่อโรค” และ “การทำให้สัตว์ของเรามีภูมิคุ้มกันด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันโรคบ้า” ซึ่งเป็นเรื่องที่เราควรทำเป็นประจำครับ
เมื่อพูดถึงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ผู้เลี้ยงสัตว์ในเขตตัวเมือง เขตชุมชน หรือเขตเมืองหลวง อาจไม่ค่อยประสบปัญหาความยุ่งยากในการพาสัตว์ไปรับวัคซีนเท่าไหร่ เนื่องจากมีโรงพยาบาลสัตว์และคลินิกรักษาสัตว์อยู่ใกล้บ้านมากมาย
แต่ผู้เลี้ยงสัตว์สัตว์ในเขตที่ห่างไกลออกไปอาจมีความลำบากเรื่องการเดินทางเพื่อพาสุนัขหรือแมวไปพบสัตวแพทย์ ดังนั้น “ชมรมต่อต้านพิษสุนัขบ้า” ของ “คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” จึงได้จัดกิจกรรมจิตอาสาเกี่ยวกับ “การรณรงค์ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า” ด้วยการออกหน่วยให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าแก่สุนัขและแมวจรจัดตามชุมชนต่างๆ เป็นประจำ ปีละ 2 ครั้งโดยในช่วงหน้าร้อนปีนี้พวกเราได้ไปจัดที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นเขตที่เคยมีการตรวจพบการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้ามาแล้ว
เมื่อวันที่ 30-31 มีนาคม 2562 คณาจารย์ และนิสิตสัตวแพทย์ จุฬาฯ กว่า 100 คน ได้ร่วมกันออกหน่วยให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้กับสุนัขและแมว ในเขตตำบลหมอนนาง
อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี โดยความร่วมมือของ “เทศบาลตำบลหมอนนาง จังหวัดชลบุรี” ซึ่งนายสัตวแพทย์นพลิศ เสริมศักดิ์ศศิธรนายกเทศมนตรี ได้มอบหมายให้นายอนุรัตน์ จักรเจริญพรชัยรองนายกเทศมนตรีและทีมงาน ให้การดูแลอำนวยความสะดวกเป็นอย่างดีและเราได้ที่พักอันแสนสะดวกสบาย ณ วัดชุมแสงศรีวนาราม จากความเมตตาของ “พระครูกิตติ บุญญวัฒน์ ท่านเจ้าอาวาส ซึ่งเป็นพระผู้ใหญ่ที่เห็นความสำคัญในการศึกษาและสนับสนุนการทำกิจกรรมของนิสิตนักศึกษามาโดยตลอด
การทำงานของนิสิตสัตวแพทย์ในแต่ละวัน แบ่งเป็น 4 หน่วย (รวม 2 วัน 8 หมู่บ้าน) โดยออกให้บริการเดินเท้าฉีดวัคซีนไปตามบ้านต่างๆ จากการนำของอาสาสมัครหมู่บ้านของแต่ละหมู่ ได้แก่ วัดหมอนนาง(หมู่ที่ 9) วัดชุมแสงศรีวนาราม (หมู่ที่ 10) ศาลาประชาคมประชานุสรณ์สว่างเหตุธรรมสถาน (หมู่ที่ 4) ศาลาพระใหญ่ (หมู่ที่ 8)วัดหนองไทร (หมู่ที่ 2) ศาลากลางบ้าน (หมู่ที่ 11) ศาลากลางบ้าน (หมู่ที่ 6)และวัดทุ่งเหียง (หมู่ที่ 4)
โครงการนี้ มี “นางสาวปาณิศา ทัพพสารดำรง” นิสิตชั้นปีที่ 3 เป็นหัวหน้าโครงการ มีผม “ผศ.น.สพ.ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร”เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาชมรมและที่ปรึกษาโครงการ โดยมีคณาจารย์เข้าร่วมหลายท่าน ดังนี้ ผศ.น.สพ.ดร.วุฒิชัย กลมเกลีย, ผศ.สพ.ญ.ดร.เนาวรัตน์ สุธัมนาถพงษ์, รศ.น.สพ.ดร.ไพศาล เทียนไทย, ผศ.น.สพ.ดร.ดำริ ดาราวิโรจน์, ผศ.น.สพ.ดร.ชาญณรงค์ รอดคำ, อ.น.สพ.ดร.ธีรวุฒิเนตรอำพันธ์, ผศ.ดร.นลินี อิ่มบุญตา, รศ.สพ.ญ.ดร.อุตรา จามีกร, อ.น.สพ.วชิรา หุ่นประสิทธิ์, ผศ.น.สพ.ดร.สว่าง เกษแดงสกลวุฒิ และคุณหมอใจดีอีกหลายท่าน ช่วยให้การดูแลนิสิตอย่างใกล้ชิด
การออกหน่วยในช่วงหน้าร้อนที่แสนจะร้อนอบอ้าว แดดแรงจ้าแผ่ความร้อนมาเต็มๆ แต่นิสิตสัตวแพทย์และคณาจารย์ก็ตั้งใจทำงานกันแบบ “ไม่กลัวแดด ไม่กลัวร้อน” กันเลยทีเดียวครับ เพราะเมื่อสิ้นสุดโครงการแล้ว สิ่งที่ทำให้พวกเราหายเหนื่อยและมีความสุขกันอย่างมากคือ เราได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้กับสุนัขและแมวได้ถึงประมาณ 3,500 ตัว ซึ่งได้สร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคที่อันตรายต่อทั้งสัตว์เลี้ยงและคนได้เป็นจำนวนที่น่าพอใจ
ปัญหาเรื่องโรคพิษสุนัขบ้านี้ “สัตวแพทย์” อย่างพวกเรา ก็ได้แต่หวังว่า กิจกรรมจิตอาสาเพื่อสังคมของนิสิตชมรมต่อต้านโรคพิษสุนัขบ้านี้ จะสามารถเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นเล็กๆ ชิ้นหนึ่งที่ประกอบเป็นภาพใหญ่ในการลดปัญหาการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าในชุมชน
ในฐานะที่เป็น “อาจารย์ที่ปรึกษา” ของ “ชมรมต่อต้านพิษสุนัขบ้า คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย”ขอยืนยันว่า กิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมเช่นนี้ จะถูกถ่ายทอดและส่งต่อไปยังนิสิตสัตวแพทย์รุ่นต่อไปอย่างต่อเนื่อง จนกว่าโรคพิษสุนัขบ้าจะหมดไปจากสังคมครับ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ฝ่ายประชาสัมพันธ์และส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี