วันก่อนผมได้มีโอกาสไปเที่ยวสวนผลไม้ที่ระยอง ชื่อสวนสุภัทราแลนด์ ซึ่งจัดให้ประชาชนเข้าไปรับประทานอาหารกลางวันแบบบุฟเฟ่ต์ได้ ในราคาหัวละประมาณ 550 บาท และยังได้นั่งรถของสวนขับพาเที่ยวชมสวน ซึ่งหลักๆ ก็มีทุเรียน แต่มีผลไม้อย่างอื่นด้วยหลากหลายชนิด เช่น มังคุด เงาะ ชมพู่ มะพร้าว ฯลฯ บนเนื้อที่ตั้ง 800 ไร่ อาหารบุฟเฟ่ต์ที่สวนก็มีส้มตำ ข้าวเหนียว ไก่ หมูปิ้งเป็นชิ้น ฯลฯ ซึ่งก็อร่อยดี หลังจากรับประทานอาหารเสร็จก็ขึ้นรถทัวร์ของสวนไปดูสวน ก็ได้แต่นั่งชมจากรถ มีบางจุดที่หยุดให้ถ่ายรูป แต่ไม่ได้รับประทานผลไม้จากต้นโดยตรง
ประเด็นที่ผมอยากจะเขียน คือ มีจุดหนึ่งที่เขาให้เราดูการเก็บ ทำน้ำผึ้ง ด้วยความสนใจและไม่รู้ ผมจึงถามเจ้าหน้าที่สวนว่าน้ำผึ้งจากธรรมชาติมีน้ำตาลอะไร ทุกๆ คนก็ตอบว่าไม่มี ผมก็พยายามถามอีกว่า ไม่ได้หมายความว่าทางสวนใส่น้ำตาลอะไร แต่น้ำผึ้งที่มาจากธรรมชาติมีน้ำตาลอะไร คำตอบจากทุกๆ คนก็เหมือนกัน
คือ ไม่มี
ผมจึงต้องถามลุง google ดู จึงขอนำข้อมูลมาเล่าให้ท่านผู้อ่านบ้างนะครับ เพราะเพื่อนๆ หลายคนยังไม่รู้จักน้ำผึ้งดีพอ หลายคนนึกว่าน้ำผึ้งไม่มีน้ำตาล หรือไม่มีน้ำตาลที่ให้พลังงาน น้ำผึ้งมีประโยชน์ต่อร่างกายต่างๆ นานา ฯลฯ 100 กรัมของน้ำผึ้งจะให้พลังงาน 304 กิโลแคลอรี่ (น้ำมะพร้าวที่ผมเขียนไปหยกๆ 100 กรัม มีพลังงาน 19 กิโลแคลอรี่ เท่านั้น) มีน้ำ 17% มีแป้ง 82% น้ำผึ้ง มีไขมัน ใยอาหาร และโปรตีนในปริมาณที่น้อยมาก
น้ำผึ้งมีน้ำตาล fructose ประมาณ 38% glucose ประมาณ 32% น้ำตาลที่เหลือเป็น maltose, sucrose เพียงเล็กน้อย น้ำผึ้งมี glycaemic index สูงมาก หมายความว่าระดับน้ำตาลในเลือดจะขึ้นสูงเร็วมากหลังรับประทาน น้ำผึ้งมีความหวานเท่ากับ sucrose หรือ granulated sugar ถ้าขวดน้ำผึ้งปิดสนิทสามารถเก็บน้ำผึ้งได้เป็นพันๆ ปี เชื้อโรคไม่สามารถเจริญเติบโตได้ในน้ำผึ้งที่ปิดขวดสนิท แต่ถ้าเปิดทิ้งไว้จะเสียได้ง่าย น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ (15 ซีซี) จะมีพลังงานประมาณ 46 กิโลแคลอรี่ ผึ้ง 1 รัง จะสามารถผลิตน้ำผึ้งได้ประมาณ 29 กิโลกรัมต่อปี ทั่วโลกในปี ค.ศ.2017 มีการผลิตน้ำผึ้งถึง 1.9 ล้านตัน โดยประเทศจีนสามารถผลิตได้ถึง 29% ของปริมาณนี้ ตามด้วย ตุรกี, อิหร่าน, อเมริกา และยูเครน ฯลฯ
ฉะนั้น จากข้อมูลดังกล่าว จะเห็นได้ว่าน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ ให้พลังงานถึง 46 กิโลแคลอรี่ ซึ่งหมายความว่า ถ้ารับประทานมากๆ ก็อ้วนได้ รวมทั้ง ถ้ารับประทานมากๆ บ่อยๆ ก็จะมีความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน ข้อดีของน้ำผึ้ง คือ เก็บไว้ได้นานๆ เป็นปีๆ หรือ ร้อยปี ถ้าปิดขวดให้สนิท แต่ถ้าเปิดขวดไว้ น้ำผึ้งจะเสียภายในไม่ช้า
ฉะนั้น ถ้าท่านผู้อ่านชอบรับประทานน้ำผึ้งแทนน้ำตาลธรรมดา เช่น ใช้รับประทานกับขนมปังแทนแยม หรือทำเครื่องดื่มโดยผสมน้ำผึ้งกับน้ำและมะนาว ก็เชิญทำรับประทานได้ แต่ต้องไม่มากเกินไป เพราะมีน้ำตาล ซึ่งจะทำให้อ้วนได้
ประเด็นที่สำคัญที่ควรจำไว้ตลอดเวลา ทุกคนอย่างในชีวิต ขอให้เดินสายกลาง ถ้าชอบอะไรที่ไม่ค่อยดีนัก ถ้ารับประทานมาก เช่น หมูหัน หนังสัตว์ มันสัตว์ ฯลฯ ควรรับประทานน้อยหน่อย (ออกกำลังกายด้วย)ถ้าไม่ชอบและเป็นสิ่งที่อาจให้โทษ งดการไปรับประทานไปเลยครับ
นพ.พินิจ กุลละวณิชย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี