การเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ หรือ climate change เป็นภัยคุกคามที่สำคัญที่สุดต่อชาวโลกในศตวรรษนี้ (สหประชาชาติ) และ WHO (องค์การอนามัยโลก) ยังบอกว่า climate change และ air pollution (มลพิษทางอากาศ) ยังเป็นภัยคุกคาม 1 ใน 10 ของปี ค.ศ.2019 ภัยคุกคามที่สอง คือ โรคที่ไม่ติดต่อ หรือ non communicable diseases, NCDs, สาม ความเสี่ยงต่อการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ทั่วโลก (pandemic) สี่ พื้นที่ๆ มีสภาพอ่อนแอและมีความเสี่ยงเช่นพื้นที่มีปัญหาเรื่องความแห้งแล้งและปัญหาความไม่สงบ (fragile and vulnerable settings, such as regions affected by drought and conflict) ห้า การดื้อของเชื้อโรคต่างๆ ต่อยา (antimicrobial resistance) หก ความเสี่ยงต่อโรคอีโบลา และเชื้อโรคต่างๆ เจ็ด ความอ่อนแอของการบริการสาธารณสุขเบื้องต้น (primary health care) แปด vaccine hesitancy (anti vaxxing) หรือการที่มีผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการฉีดวัคซีนป้องกันโรค ทำให้มีโรคระบาดเกิดขึ้นจากโรคที่ควรจะป้องกันได้ เก้า โรคไข้เลือดออก สิบ เชื้อ HIV/AIDs
โลกกำลังเผชิญความท้าทายที่หลากหลาย เช่น จากการระบาดของโรคต่างๆ ที่ป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน เช่น โรคหัด (measles), โรคคอตีบ (diphtheria) เชื้อโรคต่างๆ ที่ดื้อต่อยา โรคอ้วนและการไม่ออกกำลังกายที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ (3.2 ล้านคนของชาวโลกเสียชีวิตจากการไม่ออกกำลังกาย หรือออกกำลังกายไม่พอ) ทั้งนี้ปัจจุบันนี้ (2019) มีชาวโลกอยู่ 7.7 พันล้านคน
องค์การอนามัยโลก (WHO) จึงมีแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี หรือ The 13th General Programme of Work โดยมีเป้าหมายพุ่งไปที่ 3 เป้าหมาย แต่ละเป้าหมายมีประชาชน 1 พันล้านคนเป็นเป้า คือ ทำให้ประชาชนอีก 1 พันล้านคน มีโอกาสเข้าถึงหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (Universal Health Coverage-UHC หรือ UC) สอง มีการป้องกันไม่ให้ประชาชนชาวโลกอีกพันล้านคนมีภาวะฉุกเฉินทางสุขภาพ และสาม ทำให้มีประชาชนอีกพันล้านคนมีโอกาสเข้าถึงการมีสุขภาพที่ดี
สำหรับภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงและมลพิษทางอากาศ องค์การอนามัยโลกแจ้งว่า 9 คนใน 10 คน (91%) ของประชาชนโลกสูดอากาศที่เป็นพิษทุกวัน ในปี 2019 WHO มีความเห็นว่า มลภาวะที่เป็นพิษ เป็นปัจจัยของสภาพแวดล้อมที่มีผลต่อสุขภาพมากที่สุด สารพิษเล็กๆ ที่อยู่ในอากาศ สามารถเข้าไปถึงข้างในสุดของระบบหายใจและหลอดเลือดได้ ทำให้เป็นโรคปอด หัวใจ สมอง ได้ เช่น 43% ของการเสียชีวิตของโรคปอดมาจากสารพิษในอากาศ 29% ของมะเร็งปอดมาจากสารพิษในอากาศ 25% ของโรคหลอดเลือดหัวใจ 24% ของโรคหลอดเลือดสมอง โดยรวมสารพิษในอากาศทำให้ประชาชนโลกเสียชีวิตในแต่ละปีถึง 7 ล้านคน 90% ของการเสียชีวิตเหล่านี้อยู่ในประเทศที่มีรายได้ต่ำถึงปานกลาง โดยสารพิษต่างๆ เหล่านี้มาจากอุตสาหกรรม การคมนาคม และการเกษตร รวมทั้งการใช้เตาหุงอาหารและเชื้อเพลิงที่ไม่สะอาดภายในบ้านในการหุงอาหาร
สาเหตุหรือที่มาของอากาศเป็นพิษมาจากการเผาผลาญของเชื้อเพลิงที่มาจาก fossil เช่น ถ่านหิน น้ำมัน แก๊ส ฯลฯ ซึ่งเป็นสาเหตุเดียวกันที่ทำให้เกิดสภาวะโลกร้อน และทำให้มี climate change หรือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ คาดว่าระหว่างปี ค.ศ. 2030-2050 การเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศจะทำให้มีประชาชนเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีกปีละถึง 250,000 คน จากภาวะขาดอาหาร (malnutrition) มาลาเรีย ท้องเสียและจาก heat stress ฯลฯ
เชื้อเพลิงฟอสซิล หรือ fossil fuels คือ เชื้อเพลิงที่ได้มาจากซากพืช สัตว์ ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ ที่ทับถมสะสมมาเป็นล้านๆ ปี ตัวอย่างของเชื้อเพลิง fossil คือ ถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ ซึ่งมี carbon เป็นองค์ประกอบหลัก นอกจาก 3 เชื้อเพลิงนี้ ในปี ค.ศ.1980 ยังพบว่า orimulsion เป็นเชื้อเพลิง fossil อันดับที่ 4 ซึ่งได้มาจาก bitumen
เชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นเชื้อเพลิงที่ไม่ยั่งยืน ในแต่ละปีจะมีการเผาผลาญ fossil fuels และปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ออกมาปีละ 21.3 พันล้านตันของ CO2 ซึ่งธรรมชาติสามารถกำจัด CO2 ได้เพียงครึ่งเดียว ทำให้ในแต่ละปีมีการสะสม CO2ถึง 10.65 พันล้านตันของ CO2 นี่เป็นสาเหตุหนึ่งของการทำให้เกิดภาวะโลกร้อน (global warming) ซึ่งทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ หรือ climate change นั่นเอง
สาเหตุที่ทำให้เกิด climate change จะทำให้เกิด air pollution ด้วย ทุกๆ คน ทุกๆ ภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชน ต้องร่วมแรงร่วมใจกันป้องกัน ลด ภาวะโลกร้อน และอากาศเป็นพิษ เช่น ลดการใช้พลังงานที่มาจากการเผาผลาญถ่านหิน น้ำมัน ฯลฯ และด้วยการปลูกต้นไม้เพื่อดูดซึม CO2 และปล่อย O2 ออกมา
นพ.พินิจ กุลละวณิชย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี