การบาดเจ็บจากการชนบนถนนเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1ของวัยรุ่นและเยาวชนไทยอายุ 15-24 ปี ประเทศไทยมีอัตราการเสียชีวิตจากการชนบนถนนของวัยรุ่นและเยาวชนสูงเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มประเทศอาเซียนและสูงเป็นสองเท่าของอัตราเฉลี่ยทั่วโลก
แต่ละวันมีวัยรุ่นและเยาวชนเสียชีวิต 13 คน บาดเจ็บ 800 คน บาดเจ็บสาหัส 150 คน และกลายเป็นผู้พิการ 7 คน
ผู้เสียชีวิตมากกว่า 4 ใน 5 เป็นผู้ชาย และ 1 ใน 4 ของผู้เสียชีวิตดื่มแอลกอฮอล์
วัยรุ่นและเยาวชนที่เสียชีวิต มากกว่า 4 ใน 5 เป็นผู้ใช้จักรยานยนต์ และ 9 ใน 10 ที่เสียชีวิตจากจักรยานยนต์ไม่ได้สวมหมวกนิรภัย
วิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดการบาดเจ็บและการเสียชีวิตจากการชนบนถนนของวัยรุ่นและเยาวชน คือ
หนึ่ง ความเร็ว กำหนดและบังคับใช้กฎหมายจำกัดความเร็ว ใช้มาตรการปรับปรุงถนนเพื่อชะลอการจราจร จำกัดการขับขี่เมื่อดื่มแอลกอฮอล์ รณรงค์สร้างความตระหนักเรื่องการลดความเร็ว
สอง หมวกนิรภัย กำหนดและบังคับใช้กฎหมายการสวมหมวกนิรภัยอย่างถูกต้อง แจกหมวกนิรภัยให้แก่นักเรียน กำหนดมาตรฐานหมวกนิรภัย รณรงค์สร้างความตระหนักเรื่องการสวมหมวกนิรภัย
สาม แอลกอฮอล์ มีกฎหมายจำกัดแอลกอฮอล์สูงสุดในกระแสเลือดของผู้ขับขี่วัยรุ่นในปริมาณที่ต่ำกว่าผู้ใหญ่ บังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง โดยการสุ่มตรวจลมหายใจ ตรวจสอบอาการเมา จำกัดวัน เวลา และสถานที่ที่สามารถจำหน่ายแอลกอฮอล์ให้แก่ผู้ขับขี่วัยรุ่น มีกฎหมายกำหนดอายุขั้นต่ำผู้ดื่มแอลกอฮอล์ จัดทำโครงการเพื่อนเมาเราขับให้ (designated driver programme) สื่อสารรณรงค์เพื่อปรับปรุงทัศนคติของวัยรุ่น
สี่ เข็มขัดนิรภัย กำหนดและบังคับใช้กฎหมายคาดเข็มขัดนิรภัย กำหนดให้ยานพาหนะมีเข็มขัดนิรภัยที่เหมาะสม รณรงค์สร้างความตระหนักเรื่องการใช้เข็มขัดนิรภัย
ห้า การเพิ่มการมองเห็นสำหรับผู้ใช้รถจักรยานยนต์ เปิดไฟหน้าในเวลากลางวัน สวมเสื้อผ้าสีสะท้อนแสงหรือสีสว่าง สวมเสื้อผ้าและหมวกนิรภัยสีอ่อน มีอุปกรณ์สะท้อนแสงที่ด้านหลังรถ
หก ข้อจำกัดสำหรับผู้ขับขี่วัยรุ่นหรือมือใหม่ จำกัดการออกใบอนุญาตใบขับขี่ เช่น ใช้ระบบใบขับขี่แบบเป็นลำดับขั้น มีมาตรการลดแรงจูงใจหากละเมิดกฎหมาย เช่น ตัดคะแนนความประพฤติ
เนื่องจากขณะนี้ใกล้ช่วงที่พวกเราจะหยุดเนื่องจากเทศกาลปีใหม่หลายวัน จึงอยากเชิญชวนให้พวกเราทุกๆ คนวางแผนการไปเที่ยวให้ดีที่สุด ป่านนี้ทุกท่านคงมีแผนที่จะเดินทางไปโน่นมานี่กันหมดแล้ว โดยเฉพาะท่านที่จะต้องเดินทางไกล เช่น โดยเครื่องบิน ท่านคงได้จองเที่ยวบิน โรงแรม ที่พัก ร้านอาหารไว้หมดเรียบร้อยแล้ว ถ้าท่านยังไม่ได้จอง ป่านนี้เที่ยวบิน โรงแรม ร้านอาหารต่างๆ คงเต็มหมดแล้ว ท่านที่มีบ้านที่ต่างจังหวัด ถึงแม้ไม่ต้องจองที่พัก แต่ก็ต้องเตรียมตัวในเรื่องของการเดินทาง ว่าจะไปโดยรถไฟ รถเมล์ หรือรถส่วนตัวอย่างไร ท่านที่จะไปรถสาธารณะคงจองเรียบร้อยแล้ว ท่านที่จะขับรถไปเอง ต้องวางแผนไว้ว่าจะออกเดินทางวันไหนเวลาเท่าไหร่ ต้องเตรียมใจ กาย เกี่ยวกับการที่จะมีรถติดเช่น จากการเดินทางปกติใช้เวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง อาจจะต้องใช้เวลาเป็น 6 ชั่วโมง ฉะนั้นอาจต้องออกก่อนวันหยุดหน่อย(ถ้าเป็นไปได้) ออกเช้าหน่อย รวมทั้งเตรียมอาหาร น้ำ comfort 100ไว้ในรถให้ครบถ้วน ท่านที่จะขับรถต้องนอนให้เพียงพอไม่ดื่มแอลกอฮอล์ภายใน 12 ชั่วโมง กินอาหารพอประมาณไม่ดื่มน้ำหรือเครื่องดื่มอื่นมาก ก่อนเดินทาง การดื่มน้ำตอนนี้ กว่าไตจะทำงานกำจัดน้ำที่เกินหมดอาจใช้เวลา 6 ชั่วโมง ทั้งนี้แล้วแต่ว่าเราขาดน้ำหรือไม่ตอนดื่ม ฉะนั้นอาจดื่มน้ำน้อยในช่วงประมาณ 3 ชั่วโมงก่อนเดินทาง จะได้ไม่ปวดปัสสาวะเร็วเกินไปนัก ต้องรัดเข็มขัดนิรภัย ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับหรือผู้โดยสารทั้งด้านหน้าและหลัง ต้องสวมหมวกนิรภัยไม่ว่าจะเป็นผู้ขับหรือผู้โดยสาร หมวกนิรภัย เข็มขัด ต้องได้มาตรฐาน หมวกต้องคาดสายรัด ต้องไม่ขับรถเร็วกว่าที่กฎหมายกำหนด ต้องทิ้งระยะให้ห่างจากรถคันหน้าอย่างพอเพียง ถ้าขับตามหลังรถคันหน้าเวลากลางคืน หรือสวนกับรถที่มาจากทางตรงข้าม ต้องไม่เปิดไฟสูงต้องไม่ใช้โทรศัพท์มือถือ ไม่ว่าจะถือหรือไม่ถือโทรศัพท์ ต้องไม่ดื่มแอลกอฮอล์และขับรถ ถ้าง่วงไม่ว่าจะจากการอดนอนหรือกินยาที่ทำให้ง่วง ต้องไม่ขับรถ
ขอให้ทุกท่านเดินทางไปกลับในการเที่ยวฉลองปีใหม่นี้อย่างสนุกสนาน ปลอดภัย สำหรับตัวท่านเอง ครอบครัว และเพื่อนๆ ที่ร่วมใช้ท้องถนนกับท่านด้วยครับ
สนุกครับ แต่อย่างปลอดภัย ด้วยความปรารถนาดี
นพ.พินิจ กุลละวณิชย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี