เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เราได้พูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องยาและวิธีใช้ในสัตว์เลี้ยงว่ายาก่อนอาหาร หลังอาหาร หรือพร้อมอาหาร มีความแตกต่างในชนิดและวิธีใช้กันอย่างไร สัปดาห์นี้ก็ยังไม่พ้นเรื่องยาอีกเช่นกัน ผมขอนำข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องการให้ยาในรูปแบบต่างๆ แก่สัตว์เลี้ยงมาฝากกันครับ
ยาที่ใช้สำหรับสัตว์นั้น ในปัจจุบันพบว่า มีหลากหลายรูปแบบที่มีการนำมาใช้ในการป้องกัน รักษาโรคหรือความผิดปกติในสัตว์เลี้ยง ซึ่งเจ้าของสัตว์ควรให้ยาแก่สัตว์เลี้ยงตามคำแนะนำของสัตวแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อประสิทธิภาพในการรักษาที่ดีที่สุด และเป็นการป้องกันเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาที่อาจเกิดขึ้นครับ
รูปแบบยาที่เป็นที่นิยมและพบได้บ่อย ได้แก่
1) ยากินชนิดเม็ดหรือแคปซูล
ยาชนิดนี้เจ้าของสัตว์ต้องเป็นผู้ป้อนยาแก่ตัวสัตว์ โดยสามารถทำได้โดยการจับสัตว์เลี้ยงให้เงยหน้าขึ้นพอประมาณ พร้อมทั้งใช้มืออีกข้างเปิดปากของสัตว์เลี้ยง วางยาไว้ที่โคนลิ้นของสัตว์ และปิดปากอย่างรวดเร็ว ทำการลูบบริเวณลำคอเพื่อกระตุ้นให้สัตว์กลืนเม็ดยา โดยเจ้าของสัตว์อาจป้อนน้ำหรือให้สัตว์ดื่มน้ำภายหลังจากการป้อนยา เพื่อป้องกันไม่ให้เม็ดยาหรือแคปซูลยาติดค้างในหลอดอาหาร
ในปัจจุบันมียาในรูปแบบยากินชนิดเม็ดเคี้ยว (chewable tablet) ซึ่งมีการแต่งกลิ่นและรสให้มีความน่ากิน โดยยากินในรูปแบบนี้สามารถให้โดยวิธีป้อนให้สัตว์เคี้ยว หรือให้สัตว์กินเม็ดยาเองได้โดยตรงครับ
2) ยากินชนิดน้ำ
ยาชนิดนี้ต้องอาศัยอุปกรณ์ในการป้อนยา ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้กระบอกฉีดยา (syringe) ในขนาดที่เหมาะสมต่อตัวสัตว์และปริมาตรยาที่ต้องให้ และก่อนให้ยาทุกครั้งควรเขย่าขวดยาให้ยาเข้ากันเสียก่อน และใช้กระบอกฉีดยาดูดตัวยาในปริมาตรที่สัตวแพทย์ระบุไว้ในฉลากยา
การป้อนให้แก่สัตว์เลี้ยงทำได้โดย จับให้สัตว์นั่งหรือยืน เงยหน้าเล็กน้อยค่อยๆ สอดปลายกระบอกฉีดยาเข้าด้านข้างปาก (ที่ร่องระหว่างฟันกรามของสุนัขและแมว) หรือกระพุ้งแก้มของสัตว์เลี้ยงอย่างนุ่มนวล ค่อยๆ ดันตัวยาอย่างช้าๆ เพื่อให้สัตว์ค่อยๆ กลืนยา ระหว่างนั้นควรใช้มือลูบคอเพื่อกระตุ้นให้สัตว์กลืนยาเป็นระยะ
ไม่ควรดันตัวยาเร็วเกินไปหรือสอดกระบอกฉีดยาลงในลำคอของสัตว์โดยตรง เนื่องจากอาจทำให้สัตว์สำลักและมีตัวยาหลุดเข้าไปในหลอดลมซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาในระบบทางเดินหายใจตามมาได้
3) ยาหยอดตาและยาป้ายตา
การหยอดตานั้นจะหยอดครั้งละ 1-2 หยด โดยประคองใบหน้าของสัตว์เลี้ยงให้เงยขึ้นพอประมาณและหยอดยาบริเวณหัวตาของสัตว์เลี้ยงด้วยความนุ่มนวล ในการป้ายตานั้นจะป้ายจากหัวตาไปทางหางตาหรือป้ายในบริเวณเปลือกตาล่างด้านในก็ได้
โดยต้องระมัดระวังไม่ให้ปลายหลอดยาหยอดตาหรือยาป้ายตาสัมผัสกับมือเจ้าของสัตว์ หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของสัตว์ เนื่องจากอาจทำให้เกิดการปนเปื้อนของเชื้อโรคหรือสิ่งสกปรกในหลอดยา หรืออาจทำให้เกิดการติดเชื้อแทรกซ้อนเข้าสู่ดวงตาในครั้งต่อไปได้
4) ยาหยอดหู
ในการใช้ยาหยอดหูสำหรับสัตว์เลี้ยงนั้น ควรทำความสะอาดช่องหูก่อนการให้ยา โดยใช้สำลีพันปลายไม้ที่มีขนาดสำลีใหญ่กว่าในคน เพราะจะไม่ทำให้สัตว์เจ็บเวลาเช็ด
ใช้มือข้างหนึ่งจับใบหูข้างที่ต้องการหยอดยาขึ้น ใช้มืออีกข้างหยอดยาลงไปในช่องหูตามจำนวนหยดหรือตามขนาดที่สัตวแพทย์แนะนำ จากนั้นให้จับใบหูค้างไว้ก่อน (เพราะเมื่อมียาหรือน้ำเข้าหูแล้ว ตามสัญชาตญาณ สัตว์พยายามสะบัดเพื่อไล่เอาสิ่งแปลกปลอมมันออก) ทำการนวดคลึงเบาๆที่บริเวณโคนหูเพื่อให้ตัวยากระจายอย่างทั่วถึง
หลังการใช้ยาแล้ว ควรทำความสะอาดปลายหลอดยาหยอดหู เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกที่อาจติดค้างก่อนเก็บทุกครั้งครับ
5) ยาป้องกันและกำจัดปรสิตภายนอกชนิดหยดบนผิวหนัง (spot on)
ปัจจุบันมียากำจัดเห็บ หมัด และปรสิตภายนอก ชนิดหยดที่ใช้หยดบนผิวหนัง ในหลายชื่อการค้าและตัวยาออกฤทธิ์ที่แตกต่างกันหลายชนิดโดยทั่วไปการใช้ยาในรูปแบบนี้จะแนะนำให้หยดบนผิวหนังบริเวณหลังคอเหนือหัวไหล่ หรือระหว่างหัวไหล่ทั้งสองข้าง
โดยในช่วงระยะเวลา 2-4 ชั่วโมงภายหลังจากการหยดยา เจ้าของสัตว์ไม่ควรสัมผัสบริเวณที่หยดยาและไม่ควรให้สัตว์สัมผัสหรือคลุกคลีกับสัตว์เลี้ยงตัวอื่นเพื่อป้องกันการสัมผัสยาโดยไม่ได้ตั้งใจ รวมถึงต้องคอยสังเกตว่าสัตว์ไม่เอาตัวไปถูกับผนังบ้านหรือพื้น เพราะจะเป็นการเช็ดยาออก
สำหรับตัวยาออกฤทธิ์บางชนิด อาจจะมีข้อกำหนดเรื่องการงดอาบน้ำในช่วงระยะเวลาก่อนและหลังการหยดยา ซึ่งเจ้าของสัตว์ควรปฏิบัติตามที่สัตวแพทย์แนะนำ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพของตัวยาสูงสุด
นอกจากนั้น ควรใช้ยาเป็นประจำและสม่ำเสมอตามที่สัตวแพทย์แนะนำ และไม่ควรแบ่งยาเนื่องจากปริมาณยาที่สัตว์เลี้ยงได้รับอาจไม่เพียงพอ
ต่อการออกฤทธิ์ด้วยครับ
ผมหวังว่า ท่านที่ได้อ่านเรื่องนี้แล้ว คงจะหายสงสัยและทราบวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องในการให้ยาแต่ละชนิดกันแล้วนะครับ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ฝ่ายประชาสัมพันธ์และส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี