คำถามที่ผู้เลี้ยงสัตว์จำนวนมากสงสัยเกี่ยวกับเรื่อง “ยาที่ใช้ในสัตว์” กับ “ยาของคน” ว่า “เหมือนหรือต่างกันอย่างไร” รวมถึง “มีคุณภาพดีเหมือนยาคนหรือไม่” นั้น เป็นคำถามที่ได้ยินบ่อยมาก
วันนี้ผมก็มีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องยาในสัตว์เลี้ยง จากอาจารย์ น.สพ.ดร.เจนภพ สว่างเมฆ แห่งภาควิชาเภสัชวิทยา คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาเล่าสู่กันฟังครับ
ยาที่ใช้สำหรับสัตว์ เหมือนหรือต่างกับยาที่ใช้ในคนหรือไม่?
ขออนุญาตแบ่งเป็น 2 ประเด็น คือ
1) ประเด็นแรก เรื่องคุณภาพของตัวยา
ในส่วนนี้ ขอให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงมั่นใจได้เลยครับว่า ยาสำหรับสัตว์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฏหมาย จากหน่วยงานที่รับผิดชอบ (คือสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข หรือ กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์) ซึ่งเป็นยาที่มีคุณภาพเท่าเทียมกับยาที่ใช้ในคน ทั้งในด้านสูตรยา กรรมวิธีการผลิต และการควบคุมคุณภาพ
หน่วยงานที่รับผิดชอบเหล่านี้ มีบุคคลากรและผู้เชี่ยวชาญทั้งจากภายในและภายนอกมาร่วมในการพิจารณา ในการออกใบอนุญาตสำหรับการขึ้นทะเบียนยาสำหรับสัตว์ ซึ่งจะมีการพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อให้มั่นใจได้ว่ายาสำหรับสัตว์เหล่านั้นมีคุณภาพและได้มาตรฐานตามหลักเกณฑ์สากล
นอกจากนี้แหล่งผลิตยา ทั้งในส่วนของยาที่นำเข้ามาจากต่างประเทศหรือยาที่ผลิตในประเทศต้องผ่านการตรวจประเมินและรับรองมาตรฐานตามหลักเกณฑ์ good manufacturing practice (GMP)
สำหรับการประเมินด้านการกำหนดข้อบ่งใช้หรือสรรพคุณของตัวยานั้นจะมีผู้เชี่ยวชาญในการตรวจประเมินเอกสารทางวิชาการและเอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้องอย่างรัดกุม เพื่อให้มั่นใจได้ว่าข้อบ่งใช้หรือสรรพคุณของยาสำหรับสัตว์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฏหมายนั้นมีความถูกต้องตามหลักวิชาการ ทั้งในด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยของตัวยา
2) ประเด็นที่สอง เรื่องการสั่งจ่ายยาและการใช้ยาสำหรับสัตว์
ในส่วนนี้ ต้องขอทำความเข้าใจกับเจ้าของสัตว์เลี้ยงทุกท่านก่อนว่า ในกรณีที่สัตว์เลี้ยงเจ็บป่วยหรือมีความจำเป็นในการใช้ยา ขอให้ท่านเจ้าของสัตว์นำสัตว์เลี้ยงไปพบสัตวแพทย์เพื่อทำการตรวจร่างกายและวินิจฉัยโรคหรือความผิดปกติที่เกิดขึ้นทันที เพื่อที่สัตวแพทย์จะได้ทำการวางแผนการรักษาได้อย่างครอบคลุมและทันท่วงที
ขอเน้นย้ำว่า เจ้าของสัตว์ไม่ควรซื้อยาหรือนำยามาให้สัตว์เลี้ยงโดยไม่ได้รับการปรึกษาหรือการตรวจวินิจฉัย จากสัตวแพทย์ เนื่องจากการกระทำดังกล่าวอาจพบปัญหาเกี่ยวกับเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาในสัตว์ได้
ปัญหาดังกล่าวในบางครั้ง อาจมีความรุนแรงถึงกับทำให้สัตว์เกิดภาวะความเจ็บป่วยที่รุนแรง เรื้อรัง และในบางกรณีอาจทำให้สัตว์ถึงกับเสียชีวิตได้
นอกจากนี้ยังต้องมีความรอบคอบและระมัดระวังที่จะไม่ใช้ยาซึ่งไม่ได้ขึ้นทะเบียนตามกฏหมายหรือที่เรียกกันติดปากว่า “ยาเถื่อน” “ยาปลอม” “ยาลอกเลียนแบบ” หรือ "ยาผีบอก" โดยยาเหล่านี้เป็นยาที่ไม่มีคุณภาพ และอาจมีสารอันตรายหรือสารออกฤทธิ์ที่เป็นพิษต่อร่างกายสัตว์เจือปนอยู่
อย่าลืมนะครับ สุนัขและแมวไม่ใช่คนตัวเล็ก เราเองก็คงจะไม่กล้าเสี่ยงที่จะเอายาที่ใช้ในสัตว์เลี้ยงมากินเองใช่ไหมครับ และความคิดที่จะเอายาของเด็กไปให้สุนัขและแมว ก็เป็นเรื่องที่ไม่ควร เพราะอาจเกิดอันตรายถึงชีวิตได้ ดังนั้น “ก่อนที่จะให้ยาสัตว์เลี้ยงของเราทางที่ดีแล้วควรขอคำแนะนำและปรึกษาจากสัตวแพทย์” น่าจะเป็นทางออกที่ปลอดภัยที่สุดครับ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ฝ่ายประชาสัมพันธ์และส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี