ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 เป็นภาวะที่คนไทยคงต้องเผชิญกันไปอีกหลายปี เนื่องจากผลของการขยายตัวของชุมชนเมืองทำให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เกิดจากควันเสียของรถยนต์และฝุ่นจากการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ต่างๆ หรือในต่างจังหวัดที่ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กมักจะเกิดจากการเผาสิ่งต่างๆ อย่างขาดความรับผิดชอบ ทำให้เราต้องเผชิญกับปัญหาปริมาณฝุ่นละอองที่สูงเกินค่ามาตรฐานหลายที่ในช่วงเวลาที่ผ่านมาซึ่งปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนทั่วไปโดยเมื่อเปรียบเทียบอัตราการตายของ ประชากรจากสาเหตุต่างๆ ทั่วโลกพบว่าสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศนั้นเป็นสาเหตุการตายที่สูงกว่าการตายจากโรคเอดส์มาลาเรียและวัณโรครวมกันเสียอีก
สำหรับปัญหาสุขภาพที่มีความสัมพันธ์กับการได้รับฝุ่นมลพิษในปริมาณมากที่มีหลักฐานสนับสนุนมากที่สุด ได้แก่ การทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดมากที่สุด ทั้งนี้ การได้รับฝุ่นพิษในอากาศในปริมาณสูงสัมพันธ์กับการเกิดโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันถึง 5% ของคนไข้ในกลุ่มนี้ การป้องกันตัวเองเบื้องต้นจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ได้แก่ 1.การสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นและใช้เครื่องกรองอากาศภายในบ้าน 2.การลดการสัมผัสฝุ่นพิษเช่น ลดการออกไปสัมผัสฝุ่นตามท้องถนนในช่วงเร่งด่วน 3.การออกกำลังกาย ทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพเพื่อให้สุขภาพของเราแข็งแรง สามารถสู้ภัยฝุ่นได้
การออกกำลังกายในภาวะที่มีมลพิษทางอากาศควรทำอย่างไร ?
เราทราบดีว่าการออกกำลังกายนั้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เช่น ช่วยลดโอกาสการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ช่วยควบคุมน้ำหนัก ควบคุมความดันโลหิต ไขมัน รวมทั้งยังช่วยลดโอกาสการเกิดมะเร็งบางชนิด อย่างไรก็ตามการออกกำลังกายท่ามกลางฝุ่นละอองขนาดเล็กนั้นพบว่าสามารถทำให้เกิดโรคได้และโดยเฉพาะเมื่อออกกำลังกายเราจะสูดอากาศพิษเข้าไปมากกว่าภาวะปกติซึ่งเป็นผลจากการหายใจที่เร็วและแรงขึ้นขณะออกกำลังกาย โดยพบว่าหากเราออกกำลังกายต่อเนื่องในสภาวะที่อากาศมีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 นานเกิน 15 นาที โทษที่เกิดจากการสูดฝุ่นละอองดังกล่าวเข้าไปจะมากกว่าประโยชน์ที่ได้รับจากการออกกำลังกายและถ้าออกกำลังกายในภาวะดังกล่าวนานเกิน 75 นาทีขึ้นไปปริมาณฝุ่นละอองจะส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวได้ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักๆ ภายนอกในช่วงที่มีฝุ่นปริมาณมาก
วิธีปฏิบัติตัว หากต้องการออกกำลังกายในภาวะที่อาจจะมีปัญหาเรื่องฝุ่นละอองในอากาศ?
1.เช็คสภาพอากาศภายนอกก่อนออกกำลังกาย ในปัจจุบันมีช่องทางที่เราจะสามารถทราบภาวะฝุ่นละอองในอากาศได้ง่ายๆ หลายช่องทาง เช่น เว็บไซต์ของกรมควบคุมมลพิษ http://air4thai.pcd.go.th/webV2/ หรือ เว็บไซต์ https://www.airvisual.com และแอพพลิเคชั่น Air4Thai, หรือแอพพลิเคชั่น AirVisual, Air Quality Forecast เป็นต้น
2.ทำตามข้อแนะนำการปฏิบัติตัวตามปริมาณของฝุ่นที่มีในอากาศขณะนั้น เช่น ถ้า Air Quality Index (AQI) เท่ากับ 101-150 กลุ่มผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษควร จำกัดเวลาที่ต้องทำกิจกรรมเหนื่อยปานกลางหรือกิจกรรมหนักภายนอก เพิ่มเวลาพักระหว่างทำกิจกรรมต่างๆ เป็นต้น 3.ใส่หน้ากากป้องกันที่เหมาะสมในกรณีที่จำเป็นต้องออกกำลังกายภายนอกหรือทำกิจกรรมต่างๆ ภายนอกในวันที่อากาศไม่ค่อยดีอย่างไรก็ตาม หน้ากากที่ใช้ก็ไม่ควรจะทำให้หายใจลำบากมากเช่น ใส่แล้วต้องหายใจทางปากแทนเพราะการหายใจทางปากมีโอกาสทำให้ฝุ่นมลพิษลงไปในทางเดินหายใจส่วนล่างมากกว่าการหายใจผ่านจมูก และนอกจากหน้ากากที่มีประสิทธิภาพแล้ว การเลือกขนาดของหน้ากากให้เหมาะสมกับขนาดใบหน้าเพื่อช่วยให้กระชับพอดีก็มีความสำคัญมากไม่น้อยไปกว่าเรื่องของประสิทธิภาพการกรอง 4.สุดท้ายหากออกกำลังกายภายนอกไม่ได้จริงๆ ไม่ใช่การกลับไปนอน แต่เลือกการออกกำลังกายในร่มที่สามารถทำได้ก่อน เช่น วิ่งหรือปั่นจักรยานในยิม เป็นต้น
เพียงเท่านี้เราก็จะสามารถได้ประโยชน์ของการออกกำลังกายโดยที่ไม่เสี่ยงกับมลภาวะที่เกิดขึ้น และอย่าลืมที่จะลดการสร้างมลภาวะโดยเริ่มจากสิ่งที่เราสามารถทำได้ เช่น ลดการ สร้างขยะ ลดการเผากลางแจ้ง เพิ่มการเดินเพื่อลดการใช้รถยนต์ถ้าทำได้ เป็นต้น เพื่อเราจะได้มีสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับการออกกำลังกายต่อไป
พญ.วิภาวี ฉินเจนประดิษฐ์
แพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์ฟื้นฟูหัวใจ และปอด
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี