เป็นคำถามที่ถามกันบ่อยๆ เวลาคนเราจะแต่งงานกัน
คำตอบก็แตกต่างกันไปตามพื้นฐานและบุคลิกภาพของผู้ตอบ ซึ่งไม่เหมือนกัน
เหตุผลในการที่คนแต่งงานกันก็มีหลายอย่าง บางคนบอกว่ารักกันมาก อยากมีลูก อยากมีคนดูแลยามแก่ อยากให้อีกฝ่ายช่วยเหลือทางด้านสินทรัพย์....ฯลฯ
แต่ถ้าหากให้ตอบย่อๆ ว่า แต่งงานกันแล้วหวังว่าจะได้อะไรบ้าง
คำตอบน่าจะเป็น 3 อย่างดังนี้ คือ
1. ความสุข โดยมีความรักเป็นองค์ประกอบหลัก ได้เพื่อนคู่คิด แม้จะลำบากบ้างก็ทนได้ รู้สึกว่าตัวเองมีค่า ได้อยู่กับคนที่มีคุณค่าและมีอนาคตที่จะดูแลกันต่อไป
คนส่วนใหญ่สมัยนี้ มองแค่จะมีเซ็กซ์ที่ถูกใจเวลาแต่งงานแต่เซ็กซ์ให้ได้แค่ความสนุกไม่ใช่ความสุขหรอก สักพักก็หมดสนุก ทำให้คนผิดหวังกันมากขึ้น
2.ความเจริญ การที่เราตั้งใจจะอยู่กับใครสักคนนานๆ แบบเป็นครอบครัว เราน่าจะมีความเจริญหรือเกิดความเจริญในชีวิตของทั้งคู่ซึ่งสิ่งนั้นมาจากลักษณะนิสัยของคู่สมรสทั้งคู่ซึ่งสำคัญมาก บางคนหน้าตาดีแต่นิสัยไม่ดี อนาคตก็ไม่ดี อยู่ด้วยแล้วไม่มีความเจริญ
3.ความมั่นคง มีคู่ใจคอยดูแลกันได้ยามเจ็บป่วย หรืออยู่แล้วมีความมั่นคงทางหลักทรัพย์ ความรัก ความซื่อสัตย์ ความตั้งใจดีด้วยกัน ทำให้เกิดความมั่นคงทางกาย ทางจิตใจและอนาคตได้
เมื่อแต่งงานกันไปนานๆ แล้ว คู่สามีภรรยาจะเหมือนเพื่อนสนิทที่รู้ใจกัน
แต่การจะเป็นเพื่อนสนิทที่ดีๆ กันได้นั้น ต้องมีลักษณะของการเกรงใจและให้เกียรติ และรู้สึกภูมิใจซึ่งกันและกันเสมอ
เมื่อไรที่รู้สึกว่าใกล้ชิดสนิทแล้วคิดว่าเป็นของตาย หมดความเกรงใจให้เกียรติกัน ไม่ภูมิใจกัน ก็จะอยู่ด้วยกันลำบาก เลิกร้างกันไปแทบทุกราย
มีคำกล่าวเปรียบเทียบที่คอยเตือนให้สามีภรรยาต่างยกย่องซึ่งกันและกัน กล่าวไว้ว่า
“ภรรยาที่ดี เปรียบเหมือน มงกุฎเพชรของสามี
สามีที่ดี เปรียบเหมือน ศีรษะของภรรยา”
นั่นคือ สามีจะต้องให้เกียรติภรรยามากๆ และภรรยาก็ต้องทำตัวให้ดี มีค่า เหมือนเป็นมงกุฎเพชรของสามี
และสามีก็จะเป็นผู้นำ เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี ต้องมีวิสัยทัศน์ที่ดี เฉลียวฉลาด หนักแน่น เปรียบเหมือนผู้นำหรือศีรษะของภรรยา โดยภรรยาก็ต้องพร้อมจะถ่อมตนยอมคล้อยตามได้
ถ้าไม่รู้บทบาทและความสำคัญของกันและกัน ต่างไม่ให้เกียรติกัน ต่างไม่ทำหน้าที่ให้เหมาะสมกับเกียรตินั้นก็ไปไม่รอดแน่ๆ
และขอแนะนำว่าอย่าไปคาดหวังผลเต็ม 100% จากคนรักหรือการแต่งงาน ว่าจะได้อย่างที่ใจนึกเอาไว้
เพราะด้วยความเป็นปุถุชนธรรมดา ทุกคนย่อมมีข้อบกพร่อง
อย่าลืมนึกถึงการอภัยซึ่งกันและกันและความไม่รู้ (อวิชชา) ของทั้งสองฝ่าย ซึ่งต้องค่อยๆ ใฝ่หา ใฝ่รู้ และพัฒนาตัวเองให้มีคุณภาพสู่ความเป็นสากลมากขึ้น ซึ่งจะอยู่กันได้อย่างปกติสุขมากขึ้น
ถ้าแต่งงานแล้วไม่ได้ในสิ่งที่ควรจะได้ทั้ง 3 อย่างนี้ พัฒนาแล้วก็ไม่ได้ผล เกิดความทุกข์ตามมา คนส่วนมากก็จะยุติบทบาทของการแต่งงาน กลายเป็นเลิกร้างกันไป ซึ่งสาเหตุใหญ่มาจากความคาดหวังที่มากไป หรือคุณสมบัติที่ด้อยไปของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือทั้งสองฝ่ายด้วย
จึงต้องมีการปรับตัวให้มีคุณสมบัติเข้ากับความเป็นสากลนิยมอยู่เสมอๆ ทั้งสองฝ่าย
ไม่เช่นนั้นคนจะหย่าร้างกันมากขึ้นๆ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี