“..คนข้ามเพศคืออะไร ตุ๊ด กะเทย ทอม ดี้เป็นอย่างไร ทำไมต้องแปลงเพศผ่าตัดเจ็บตัวเสียเงิน มันได้ผลหรือ แล้วใช้งานได้จริงหรือไม่ กะเทยแปลงเพศน่ะพอรู้แต่ผู้หญิงผ่าตัดให้เป็นผู้ชายมีด้วยหรือเขาทำไปทำไม?....” คำถามเหล่านี้เป็นคำถามที่เราได้ยินกันมาเป็นระยะๆ เวลามีข่าวหรือบทความในสื่อต่างๆ แต่จะมีใครสักกี่คนที่มีความรู้ ความเข้าใจแท้ๆ ว่า ในโลกนี้มีคนที่มีปัญหาและทนทุกข์ทรมานในเรื่องการระบุอัตลักษณ์ของตัวเอง และต้องการหาทางออกอย่างเต็มกำลัง แต่ทางออกของคนไข้เหล่านี้จะไปทางไหน และ ณ ปัจจุบันนี้การเดินทางอันยาวไกลของการรักษาคนไข้กลุ่มนี้ไปถึงไหนกันแล้ว บทความนี้อาจจะมีคำตอบและทำให้สังคมได้รับทราบมีความรู้เพิ่มเติมกับภาวะนี้และสามารถยอมรับสภาพที่มีอยู่จริงของคนข้ามเพศ ที่อาจจะยืน เดินหรือนั่งทำงานของข้างๆ เราอยู่ทุกวัน และในโลกใบนี้ได้อย่างถูกต้องและสามารถอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขมากขึ้น
ก่อนที่จะเข้าสู่เรื่องการผ่าตัดแปลงเพศนั้น ขอปูพื้นความรู้โดยรวมของภาวะคนข้ามเพศเพื่อความสมบูรณ์ในบทความนี้ก่อน เพื่อจะได้มีมุมมองของภาวะนี้อย่างถูกต้อง จะได้เข้าใจคนไข้กลุ่มนี้ในมุมมองที่ถูกต้องเสียที
อะไรคือคนข้ามเพศคำว่าคนข้ามเพศนั้นเพิ่งจะเป็นที่รู้จักกันในสังคมไทยในช่วงระยะเวลาราวๆ 5-10 ปีมานี้ เป็นคำถูกเรียกบุคคลหรือผู้ป่วยที่มีภาวะที่มีความขัดแย้งทางการรับรู้เพศและสภาพทางร่างกาย ในทางการแพทย์ เคยเรียกภาวะนี้ว่า Gender identity disorder ซึ่งปัจจุบันถูกเปลี่ยนมาใช้คำเรียกใหม่ว่า Gender dysphoria ทั้งนี้เนื่องจากเป็นที่ยอมรับโดยสถาบันทางด้านจิตเวชทั่วโลก ว่าการจะวินิจฉัยภาวะนี้ เป็นความผิดปกติ(Disorder) นั้นไม่น่าจะถูกต้อง เนื่องจาก บุคคลกลุ่มนี้ไม่ได้มีความผิดปกติทางจิตแต่อย่างไรแต่เป็นบุคคลที่อยู่ภายใต้ความเครียด ความไม่สบายใจและความกังวลเนื่องจาก ภาวะการรับรู้ยอมรับเพศของตนเอง และความเป็นจริงของร่างกายมิได้เป็นไปในทางที่สอดคล้องกันจึงใช้คำว่า Dysphoria ซึ่งหมายความถึงความเป็นสุขในร่างที่ตนเป็นอยู่ ขอยกคำกล่าวของ Harry Benjamin ซึ่งจัดเป็น Sexologist ซึ่งทำงานทางด้าน Gender dysphoria ว่า SEX นั้น แตกต่างจาก GENDER ในแง่ “Sex is what you see but gender is what you feel และ harmony between the two isessential for human happiness” ซึ่งเป็นคำกล่าวที่แสดงให้เห็นชัดว่า ผู้ป่วยกลุ่มนี้จะไม่มีวันใช้ชีวิตอยู่อย่างเป็นสุขได้ถ้าหากสภาพทางร่างกายที่ผู้ป่วยมีและจิตใจ มีความขัดแย้งกันดังนั้นผู้ที่เป็น GD จึงพยายามเสาะหาทางที่จะหลุดพ้นจากสภาพทุกข์ทรมานนี้ให้ได้เพื่อชีวิตที่สมบูรณ์และสามารถกลับมาเป็นคนคุณภาพของสังคมได้อย่างเต็มภาคภูมิ
เรียบเรียงโดย นพ.สุกิจ วรธำรง
ผู้เชี่ยวชาญสาขาศัลยศาสตร์ตกแต่ง
ราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งประเทศไทย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี