เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เราได้คุยกันถึงสถานการณ์ที่บ่งว่าสุนัขและแมวกำลังอยู่ในสภาวะฉุกเฉิน และได้รู้จักตัวอย่างของสภาวะฉุกเฉินไปบ้างแล้ว สัปดาห์นี้ เรามาเรียนรู้ถึงการป้องกันและรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้กันต่อครับ
@หากเราไม่อยากให้สัตว์เลี้ยงป่วยและเข้าข่ายภาวะฉุกเฉิน เราควรปฏิบัติอย่างไร
เเน่นอนว่าไม่มีเจ้าของสัตว์ท่านใดอยากที่จะพาสัตว์เลี้ยงมาห้องฉุกเฉิน ดังนั้นการหลีกเลี่ยงเเละป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดกับสัตว์เลี้ยงของคุณคือสิ่งที่สำคัญที่สุดด้วยการ ปฏิบัติตัวเบื้องต้นดังนี้
1.ดูเเลสัตว์เลี้ยงของคุณให้อยู่ในความควบคุมตลอดเวลา เพราะเมื่อออกไปนอกบ้านแล้ว เราจะไม่ทราบเลยว่าจะเกิดเหตุใดกับเค้าบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการประสบอุบัติเหตุจากถูกยานพาหนะเฉี่ยวชนการกินสารพิษ การถูกสุนัขอื่นกัด
2.หากสัตว์เลี้ยงของคุณป่วยมีโรคประจำตัวอยู่เเล้ว มีความจำเป็นต้องพาไปพบสัตวเเพทย์ตามนัดหมายที่กำหนด รวมถึงต้องปฏิบัติตัวเเละป้อนยาตามคำเเนะนำของสัตวเเพทย์อย่างเคร่งครัด
@เหตุใดจึงห้ามป้อนยาลดไข้ในกลุ่มพาราเซตามอลกับแมว
เพราะแมวมีระดับของเอ็นไซม์ UDP-glucoronosyltransferase(UGT) ที่ต่ำกว่าในคนและสุนัข ซึ่งเอ็นไซม์นี้มีผลต่อการเมตาบอลิสมของยาพาราเซตามอล ตัวยาจึงไม่สามารถถูกขับออกจากร่างกายได้และทำให้เกิดการเป็นพิษขึ้น เช่น การขนส่งของออกซิเจนในเลือดลดลง เซลล์ตับถูกทำลาย ซึ่งอาการผิดปกติจะเกิดขึ้นภายใน 1-2 ชั่วโมงหลังจากได้รับยา เช่น หน้าบวม หายใจลำบาก เยื่อเมือกเป็นสีแดงคล้ำจนถึงสีม่วง อาเจียน และมีอาการชัก จนทำให้เสียชีวิตได้
@คุณสมบัติของแมวที่จะเป็นแมวผู้ให้เลือดเป็นอย่างไร
ปัจจุบันมีปัญหาเรื่องน้องแมวที่ประสบอุบัติเหตุ หรือมีสภาพที่ต้องการรับเลือดทดแทนจำนวนมาก ดังนั้นหากแมวของท่านมีสุภาพแข็งแรง จึงแนะนำเป็นอย่างยิ่งว่าควรบริจาคเลือดเพื่อเป็นเลือดสำรองให้กับแมวป่วยรายอื่นๆ ซึ่งแมวที่จะมาเป็นผู้ให้นั้น ควรมีลักษณะดังนี้
-มีอายุ 1-7 ปี
-มีน้ำหนักมากกว่า 4 กิโลกรัม
-ผ่านการทำวัคซีนครบประจำทุกปี และเลี้ยงในระบบปิด
-มีสุขภาพดีไม่มีโรคประจำตัว
-มีผลเลือดทั่วไปอยู่ในเกณฑ์ปกติ
-ไม่เป็นโรคติดเชื้อ เช่น โรคลิวคีเมีย และโรคเอดส์แมว
@โรคหัดในแมว กับโรคหัดในสุนัขเหมือนกันหรือไม่ มีความรุนแรงต่างกันอย่างไร
ทั้งโรคหัดแมวและโรคหัดสุนัขนั้น แม้จะมีชื่อเหมือนกัน แต่เป็นโรคที่มีความแตกต่างกัน เนื่องจากโรคทั้งสองเกิดจากเชื้อไวรัสคนละชนิด และมีอาการที่แสดงออกไม่เหมือนกันด้วย โดยในแมวจะก่อให้เกิดอาการอาเจียน ท้องเสียอย่างรุนแรง มีการเสียน้ำ และเสียชีวิตได้ในไม่กี่วัน
ส่วนโรคหัดในสุนัข จะมีอาการแสดงออกในหลายๆ ระบบของร่างกาย เช่น 1.ระบบทางเดินหายใจ มีอาการปอดอักเสบติดเชื้อ2.ระบบประสาท มีอาการชัก 3.ระบบปกร่างกาย อาการนูนแข็งของแผ่นเท้าหรือจมูก 4.ระบบทางเดินอาหาร มีอาการท้องเสีย จนเสียชีวิตได้ ซึ่งสามารถตรวจวินิจฉัยแยกโรคได้ด้วยชุดตรวจและ PCR
@ภาวะน้ำท่วมปอด กับ ภาวะมีน้ำในช่องอก แตกต่างกันอย่างไร
A : ภาวะน้ำท่วมปอดคือภาวะที่มีน้ำอยู่เนื้อปอด เปรียบเสมือนฟองน้ำที่ซับน้ำไว้ ไม่สามารถเจาะระบายได้ ซึ่งแตกต่างจากภาวะมีน้ำในช่องอก โดยภาวะมีน้ำช่องอก น้ำจะอยู่ในช่องว่างระหว่างเนื้อปอดและผนังช่องอก จึงสามารถเจาะระบายได้
@หากสัตว์เลี้ยงถูกสัตว์มีพิษกัด เช่น งู ควรขันชะเนาะหรือไม่
ไม่ควรขันชะเนาะในสัตว์เลี้ยงที่ถูกสัตว์มีพิษกัดเนื่องจากจะทำให้อวัยวะส่วนปลายขาดเลือดไปเลี้ยง มีโอกาสเสี่ยงทำให้อวัยวะส่วนปลายเสียหายได้
ควรทำความสะอาดบริเวณบาดแผลด้วยน้ำสะอาด ให้สัตว์อยู่นิ่งๆ แล้วรีบนำสัตว์เลี้ยงมาพบสัตวแพทย์ให้เร็วที่สุด หากเป็นไปได้ให้นำสัตว์มีพิษนั้นๆ หรือจดจำลักษณะของสัตว์มีพิษนั้นๆ มาแจ้งคุณหมอด้วย
@ภายหลังจากฉีดวัคซีน เจ้าของจะสังเกตอาการแพ้วัคซีนอย่างไรได้บ้าง
อาการแพ้วัคซีน จัดเป็นอาการฉุกเฉินที่ควรได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที แต่อย่างไรก็ตาม สัตว์เลี้ยงแต่ละตัวไม่ได้มีอาการแพ้วัคซีนที่เหมือนกัน เพราะในสัตว์บางตัวสามารถแสดงอาการได้หลากหลายรูปแบบ โดยตัวอย่างอาการที่ไม่รุนแรง เช่น หน้าบวม ลมพิษผื่นขึ้น บางตัวอาจแสดงอาการที่รุนแรงมากขึ้น เช่น คลื่นไส้อาเจียน หายใจลำบาก และบางรายรุนแรงถึงขั้นเข้าสู่สภาวะช็อกได้
โดยทั้งนี้ทั้งนั้นไม่จำเป็นว่าสัตว์จะต้องแสดงอาการทุกอย่างที่กล่าวมาให้เห็น อาจเกิดเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างร่วมกัน ซึ่งโดยส่วนมากแล้ว สัตวแพทย์จะให้นั่งที่โรงพยาบาลหลังฉีดวัคซีนระยะหนึ่ง เพื่อสังเกตอาการแพ้อยู่แล้ว แต่อาการแพ้สามารถเกิดได้ทันที หรือแม้กระทั่งหลังฉีดวัคซีน 2 ชั่วโมง ดังนั้นเจ้าของควรต้องทราบอาการแพ้วัคซีนไว้ด้วยเพื่อที่จะรักษาได้อย่างทันท่วงที
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จากแผนกฉุกเฉิน โรงพยาบาลสัตว์เล็กจุฬาฯ และโครงการ Smart Vet Smart Society
หมอโอห์ม
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร. ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี