เมื่อไม่นานมานี้มีข่าวฮือฮาในกระแสในโซเชียลมีเดีย ที่มีการแชร์ต่อๆ กันว่า พบก้อนฝีหนองในเนื้อหมูขณะเตรียมไปประกอบอาหาร ทำให้หลายคนเกิดความวิตกกังวลกันว่าสิ่งนั้นคือโรคติดต่อหรือไม่? หากเผลอกินเข้าไปแล้วจะเกิดอันตรายไม่? หลายคนถึงกับไม่กล้ากินเนื้อหมูกันไปเลยวันนี้เราจะมาคุยเรื่องนี้กัน รวมถึงเราจะมีวิธีสังเกตและเลือกเนื้อหมูอย่างไรให้ปลอดภัยกันด้วยครับ
@ “ฝีและหนอง” เกิดจากอะไร
ฝีและหนองนั้น เกิดจากการที่ร่างกายเกิดแผล และมีการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อจุลินทรีย์เข้าไปในบาดแผล หลังจากนั้นเกิดปฏิกิริยาภายในร่างกาย โดยเม็ดเลือดขาวจะเข้าไปต่อสู้กับเชื้อโรค จนกระทั่งมีการตายเกิดขึ้นซากของเม็ดเลือดขาวหรือจุลินทรีย์เหล่านั้นก็จะเกิดเป็นหนอง ในขณะเดียวกันก็จะเกิดกลไกการป้องกันตนเองอีกขั้นหนึ่งของร่างกายคือ ร่างกายจะสร้างเนื้อเยื่อเส้นใย (fibrous tissue) เข้ามาห่อหุ้มหนองเหล่านั้น เพื่อจำกัดบริเวณ ไม่ให้เชื้ออันตรายเหล่านั้นกระจายไปยังส่วนต่างๆ ในร่างกาย สุดท้ายจึงกลายเป็น “ถุงฝีหนอง” ที่แทรกอยู่ในกล้ามเนื้อนั่นเอง
@ ก้อนฝีนั้นเกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง
ก้อนฝีหนองที่เกิดขึ้นนั้น มีสาเหตุมาจากการเกิดบาดแผลที่ผิวหนังของสุกรในขั้นตอนการเลี้ยง ซึ่งอาจมีสาเหตุจากหลายปัจจัยด้วยกัน เช่น ความสะอาดของผิวหนังสุกรอุปกรณ์ที่ใช้ในการฉีดยาหรือวัคซีน วิธีการและตำแหน่งที่ฉีดรวมถึงความสะอาดของโรงเรือน เป็นต้น
@ หากสัมผัสหนองนั้นจะมีโรคที่ติดต่อสู่คนหรือไม่
สำหรับความกังวลใจว่าจะติดต่อสู่คนหรือไม่นั้น ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ฝีหนอง “ไม่ใช่โรค”จึงไม่ติดต่อระหว่างสัตว์ด้วยกัน และไม่ติดต่อจากสัตว์สู่คนด้วยแต่หากเผลอรับประทานส่วนนั้นเข้าไปก็อาจส่งผลต่อสุขอนามัยของผู้บริโภค ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาที่ทางเดินอาหารเช่น ท้องเสีย หรือท้องร่วงได้ หากบังเอิญพบฝีหนองในเนื้อหมู(แม้ว่าโอกาสจะต่ำมากก็ตาม) เราสามารถตัดส่วนนั้นทิ้งไปส่วนอื่นก็ยังสามารถนำไปประกอบอาหารได้ เพียงแต่ปรุงให้สุกด้วยความร้อน หรือหากเนื้อหมูชิ้นนั้นมีขนาดไม่ใหญ่นักก็ทิ้งไปทั้งชิ้นเลยจะดีกว่าครับ
@ ในความเป็นจริงแล้วมีโอกาสเกิดฝีหนองในเนื้อหมูได้มากน้อยเพียงใด
โดยปกติแล้ว ในอุตสาหกรรมที่เลี้ยงในเชิงธุรกิจนั้น จะมีมาตรการควบคุมและตรวจสอบอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะเรื่องความสะอาดในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลี้ยงในฟาร์มเลี้ยงสุกร โรงชำแหละที่ได้มาตรฐานที่ผ่านการควบคุมและรับรองโดยกรมปศุสัตว์ มีสัตวแพทย์ช่วยดูแลในขั้นตอนต่างๆ ดังนั้นโอกาสการเกิดปัญหาจึงค่อนข้างต่ำมาก
ส่วนการเลี้ยงเป็นอุตสาหกรรมครัวเรือนนั้น หากผู้เกี่ยวข้อง เช่น ผู้เลี้ยง ผู้ฉีดยาฉีดวัคซีน รวมทั้งเกษตรกร ได้รับการอบรมโดยสัตวแพทย์เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในกระบวนการเลี้ยงจนถึงการดูแลรักษาเบื้องต้นอย่างถูกต้อง ก็จะช่วยป้องกันการเกิดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเหล่านี้ได้มากครับ
@ มีวิธีการเลือกซื้อเนื้อสุกรอย่างไร?
ผู้บริโภคควรเลือกซื้อเนื้อหมูจากแหล่งขายที่ได้มาตรฐาน น่าเชื่อถือ ต้องสังเกตความสดของเนื้อหมูซึ่งลักษณะของเนื้อหมูที่ดีต้องมีสีชมพูเรื่อๆ ออกสีแดงตามธรรมชาติ ไม่มีกลิ่นเหม็น มีความมันเงา ไม่แห้งกระด้าง แต่ต้องไม่มีเมือกเหนียวคลุม รวมถึงไม่มีเม็ดสีขาวใสคล้ายเม็ดสาคู ซึ่งเป็นลักษณะของตัวอ่อนของพยาธิตืดแทรกในเนื้อและที่สำคัญควรเก็บรักษาในที่เย็นด้วยอุณหภูมิที่เหมาะสมทันทีหลังจากซื้อ การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์“ปศุสัตว์ OK” ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ทำให้เราอุ่นใจได้ว่าเป็นเนื้อสัตว์ที่มีคุณภาพดี ผ่านกระบวนการชำแหละที่ได้มาตรฐานโดยกรมปศุสัตว์ ที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้หากพบปัญหาใดๆ ครับ
หมอโอห์ม
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ และ ฝ่ายประชาสัมพันธ์
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี