ผมเคยเขียนเรื่องโรคมะเร็งในภาพรวมของโลก – ประเทศไทยไปแล้ว พบว่ามะเร็งที่พบบ่อยในบ้านเรา คือ ปอด ต่อมลูกหมาก ลำไส้ใหญ่ ตับ เต้านม ปากมดลูก ฯลฯ วันนี้มีข้อมูลทางมหาวิทยาลัย Harvard: Harvard Women’s Health Watch volume 28, number 12 August 2021 เรื่อง : 7strategies to prevent cancer หรือ 7 วิธีที่จะป้องกันโรคมะเร็ง จึงขอนำมาเล่าสู่กันฟังแบบกว้างๆ ก่อนที่ในโอกาสต่อไปผมจะลงลึกถึงมะเร็งบางอวัยวะ
มะเร็งมีส่วนเกี่ยวข้องกับพันธุกรรม แต่ถึงแม้มีประวัติมะเร็งในครอบครัว เราก็ยังสามารถช่วยตนเองได้พอสมควร ประมาณ 40% ของโรคมะเร็งทั้งหมด สามารถป้องกันได้ด้วยการมีพฤติกรรม (life style) ที่เหมาะสม ตามด้วยการตรวจคัดกรอง (screening) เมื่อถึงเวลา หรือเกณฑ์ที่แพทย์กำหนด 7 วิธีนี้ คือ
1) โภชนาการ ควรพยายามกินพืช ผัก (plant based) เป็นหลัก กินให้น้อยเนื้อแปรรูป (ไส้กรอก กุนเชียง เบคอน แฮม ฯลฯ) เนื้อแดง (วัว หมู แพะ แกะ) และน้ำตาล (น้ำตาลไม่ควรเกิน 6 ช้อนชาต่อวัน) ตัวอย่างของโภชนาการที่ดี คือ Mediterranean Diet และ DASH diet (Dietary Approaches to Stop Hypertension)ทั้ง 2 วิธีเน้นการกินไขมันที่ไม่อิ่มตัว อาหาร whole grains,ผลไม้ ผัก พืช nuts, beans และกินอาหารแปรรูปให้น้อย
2) เครื่องดื่ม ควรดื่มแอลกอฮอล์ให้น้อยที่สุด หรือไม่ดื่มเลยแอลกอฮอล์ทำให้มีความเสี่ยงต่อมะเร็งของหลายอวัยวะ โดยเฉพาะผู้ที่ดื่มมาก แม้แต่ผู้ที่ดื่มเพียง 1-2 หน่วยต่อวันก็ไม่ปลอดภัยการดื่ม modest-moderate (เล็กน้อย ถึงปานกลาง) ก็ทำให้มีความเสี่ยงต่อมะเร็งของ หลอดอาหาร เต้านม ลำไส้ใหญ่ฯ ถ้าจะดื่มไม่ควรดื่มมากกว่า 1-2 หน่วยต่อเดือน ถ้ามากกว่านี้จะมีความเสี่ยง
1 หน่วยแอลกอฮอล์ของสหราชอาณาจักร หรืออังกฤษ คือ 25 ซีซีของวิสกี้ หรือประมาณ 80 ซีซีของไวน์ หรือประมาณ 200 ซีซีของเบียร์ ประเด็นคือ แต่ละหน่วยแอลกอฮอล์ของแต่ละประเทศไม่เท่ากัน เช่น UK 8 กรัม, USA 14 กรัม, ไทย 10 กรัม, ญี่ปุ่น 19.75 กรัม ยุโรปมักอยู่ระหว่าง 8-12 กรัม
วิธีคำนวณ 1 หน่วยแอลกอฮอล์ของอังกฤษ คือ จำนวนซีซีแอลกอฮอล์ที่ดื่ม คูณด้วย Alcohol by Volume (ABV-ที่ข้างขวดจะบอกว่ากี่เปอร์เซ็นต์ ไวน์ 11-14 ดีกรี, เบียร์ 3-6 ดีกรี, วิสกี้ 40 ดีกรี)หารด้วย 1,000 เช่น ดื่มเบียร์ 500 ซีซีที่ 5% = 500 คูณ 5 หาร 1,000 = 2.5 หน่วย หรือ 20 กรัมแอลกอฮอล์ ถ้าจะแปล 20 กรัมเป็นหน่วยของอเมริกาก็เอา 20/14, หรือของญี่ปุ่น : 20/19.75
3) ตรวจคัดกรองหาโรค การตรวจ mammogram ของเต้านมจะช่วยหามะเร็งในระยะเริ่มแรก แต่การตรวจคัดกรองบางชนิด เช่น ของลำไส้ใหญ่ ของปากมดลูก สามารถป้องกันการเกิดมะเร็งได้ เพราะอาจจะตรวจพบ “ว่าที่” มะเร็ง ถ้าให้การรักษาทันทีก็จะไม่เกิดมะเร็ง
ในอเมริกาแนะนำให้ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบ C (Hepatitis C Virus, HCV) เพราะเชื้อนี้มีมากในประเทศนี้ เชื้อนี้สามารถทำให้เป็นโรคตับอักเสบเฉียบพลัน เรื้อรัง ตับแข็ง และมะเร็งของตับได้ สำหรับบ้านเรามีเชื้อไวรัสตับอักเสบ B ด้วย เราจึงควรตรวจหาทั้ง HBV และ HCV ซึ่งในโลกนี้มีคนประมาณ 290 ล้านคนที่มี HBV หรือ HCV แต่ไม่ทราบว่ามี องค์การอนามัยโลกจึงกำหนดให้วันที่ 28 กรกฎาคมของทุกปี เป็นวัน “World Hepatitis Day” เพื่อรณรงค์ให้คนไปตรวจหาเชื้อ ถ้ามีจะได้รีบรักษา องค์การอนามัยโลกและสหประชาชาติประกาศไว้ใน SDG (Sustainable Development Goals การพัฒนาที่ยั่งยืน) ว่าภายในปี 2030 เราจะกำจัดเชื้อไวรัสทั้ง 2 ให้ราบคาบ
4) ดูแลน้ำหนักตัวให้เหมาะสม โรคอ้วนมีความสัมพันธ์กับโรคมะเร็งถึง 13 ชนิด หรือมากกว่า ตามที่องค์การอนามัยโลกแจ้ง ตั้งแต่เต้านม รังไข่ มดลูก ไต ลำไส้ใหญ่ ฯลฯ น้ำหนักตัวที่เหมาะ คือ การดูแลดัชนีมวลกายให้อยู่ไม่เกิน 23 พุงชาย หญิง ไม่ให้เกิน 90,80 ซม.ตามลำดับ วิธีคำนวณดัชนีมวลกาย หรือ Body Mass Index, BMI คือ น้ำหนักตัวเป็นกิโลกรัม หารด้วยความสูงเป็นเมตรกำลังสอง
5) ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายจะช่วยลดน้ำหนัก หรือรักษาน้ำหนักให้คงที่ แล้วยังช่วยลดสภาวะกดดันต่างๆ WHO แนะว่าควรออกกำลังกาย 30-60 นาทีต่อครั้ง 5 ครั้ง/สัปดาห์ (150-300 นาที/สัปดาห์) ถ้าเดินคงต้อง 300 นาที วิ่ง 150 นาที
6) นอนให้พอ ถ้านอนไม่พอ หรือหลับไม่สนิท จะมีความสัมพันธ์กับโรคอ้วนและเบาหวาน ซึ่งจะทั้ง 2 โรคมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง ควรนอนให้พอ 7-8 ชม. และหลับให้ดีการออกกำลังกายอาจช่วยการนอนหลับให้ดีขึ้น
7) หลีกเลี่ยงสภาวะแวดล้อมที่อาจเป็นอันตราย ต้องระวังสารเคมีต่างๆ เช่น พลาสติก ไม่อุ่นอาหารในพลาสติกด้วยไมโครเวฟ และหลีกเลี่ยงอาหารที่หุ้มด้วยพลาสติกในประเทศอเมริกา มีก๊าซราดอน(radon) ที่ไม่มีกลิ่น ไม่มีสีที่ซึมออกมาจากดินและเป็นสาเหตุอันดับ 2 ของการเกิดมะเร็งปอด รองจากบุหรี่
การฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี และ HPV (HumanPapilloma Virus)วัคซีนจะช่วยป้องกันมะเร็งตับ ปากมดลูก ฯลฯ
ทั้งหมดนี้ผมสอนมานานแล้ว แต่ก็ดีใจที่มหาวิทยาลัยที่ดังที่สุดในโลกเห็นด้วยกับผม แต่ของผมยังมีมากกว่านี้คือ มีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย ไม่ใช้ยาเสพติด ไม่สูบบุหรี่ เดินสายกลางในชีวิต ป้องกันความเครียด ตรวจสุขภาพเป็นระยะๆ ทุกปี รวมทั้งตรวจ น้ำตาล ไขมัน ในเลือด ความดันโลหิตฯ
ขอบคุณครับ
นพ.พินิจ กุลละวณิชย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี