ย้อนหลังไปในปี 2018 แฟนคลับละคร My Fair Princess (1999) หรือ “องค์หญิงกำมะลอ” ในประเทศไทยน่าจะยังจำได้ดีกับข่าวการหายตัวไปของ“ฟ่าน ปิงปิง” ซูเปอร์สตาร์ชื่อดังระดับโลกของจีน หลังจากเธอถูกกล่าวหาว่าพยายามเลี่ยงภาษีด้วยการทำสัญญา2 ฉบับ ในการรับงานภาพยนตร์เรื่องหนึ่งซึ่งสัญญาฉบับที่มีค่าตอบแทนน้อยกว่าถูกใช้เพื่อแจ้งรายรับต่อหน่วยงานด้านภาษีของจีน ซึ่งแม้ว่าเธอจะออกมาปฏิเสธ และจ้างทนายความให้มาต่อสู้ทางกฎหมาย แต่การหายตัวไปกว่า 3 เดือนก็สร้างผลกระทบต่อเธอมหาศาล ทั้งภาพลักษณ์ในทางลบที่คนทั่วไปมองว่าขาดความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของพลเมืองซึ่งทางแฟนคลับของเธอก็ออกมาตอบโต้แทนว่า ก่อนหน้านี้ ฟ่าน ปิงปิง ก็ได้มอบอะไรให้แก่สังคมมากมาย โดยเฉพาะการบริจาคเงินจำนวนมากให้แก่หน่วยงานบรรเทาสาธารณภัยอยู่เสมอ การเอาเรื่องกล่าวหาดังกล่าวมาด้อยค่าเธอมันไม่สมเหตุสมผล รวมไปถึงการถอนตัวของโฆษณาต่างๆ ที่เคยสนับสนุนเธอทั้งในประเทศ และระดับโลก เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้ทางการจีนไม่พอใจ จนทำให้ความสะดวกทางการค้าอาจได้รับความติดขัด
เมื่อเวลาผ่านไป การหายตัวไปของ ฟ่าน ปิงปิง ก็ได้รับการเฉลยจากสื่อออนไลน์แห่งหนึ่งของจีน ว่าเธอถูกหน่วยงานสรรพากรของจีนควบคุมตัวไว้ แต่ไม่ใช่ในคุกตามที่มีข่าวลือ แต่เป็นโรงแรมแห่งหนึ่ง เพื่อทำการสืบสวนสอบสวนการเลี่ยงภาษีที่ถูกกล่าวหา
“...ช่วงที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สรรพากรได้สอบสวนฉันและตรวจสอบบริษัทของฉัน ระหว่างนั้นฉันได้ทบทวนตัวเอง และรู้สึกละอายใจมาก ในฐานะบุคคลสาธารณะที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย และเป็นแบบอย่างที่ดีของวงการและสังคม ไม่ควรหลงละโมบไปกับผลประโยชน์ก้อนใหญ่ ย่อหย่อนในการดูแลจัดการธุรกิจ จนเข้าขั้นฝ่าฝืนกฎหมาย ดังนั้น จึงขออภัยจากสังคม เพื่อนๆ ที่รักและห่วงใยฉัน ประเทศชาติ และกรมสรรพากร หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตรวจสอบเสร็จ ฉันยินดีรับโทษทุกประการ ทั้งจ่ายภาษีชดเชย และค่าปรับ...”
ไม่นานเธอก็โพสต์ข้อความดังกล่าวนี้ (แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น) ขึ้นบนบัญชี “เว่ยป๋อ” (ทวิตเตอร์จีน) ของตัวเองตามมาด้วยการที่รัฐบาลจีนสั่งปรับฟ่าน ปิงปิง และต้นสังกัดของเธอ ที่ต้องร่วมกันชำระค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินประมาณ 596 ล้านหยวน (ราว 2,786.4 ล้านบาท) และจ่ายภาษีย้อนหลังพร้อมค่าธรรมเนียมรวมอีกประมาณ 288 ล้านหยวน (ราว 1,360.8 ล้านบาท) ซึ่งหลังจากชำระเงินทั้งหมดภายในระยะเวลาที่กำหนดแล้ว พนักงานสอบสวนก็ไม่ได้ดำเนินคดีอาญากับเธอ เนื่องจากเป็นการกระทำผิดครั้งแรก แต่ภาพของฟ่าน ปิงปิง บนสื่อต่างๆ ก็ถูกจำกัดโดยอัตโนมัติ จนเธอหายไปจากการรับรู้ของแฟนคลับโดยปริยายในเวลาต่อมา
จากนั้นเอง ทางการจีนก็ประกาศเดินหน้ากวาดล้างวงการบันเทิงอย่างเข้มข้น โดยให้โอกาสคนที่ทำความผิดฐานเลี่ยงภาษีแบบฟ่าน ปิงปิง หากยอมรับผิดและจ่ายภาษีที่ค้างเอาไว้ทั้งหมดตามจริง จะได้รับการนิรโทษกรรม แต่หากไม่มีการดำเนินการใดๆ มกราคม ปี 2019 เป็นต้นไป บุคคลบันเทิงที่เลี่ยงภาษีทุกคน จะต้องได้รับโทษทางอาญาสถานหนักโดยไม่มีสิทธิขอลดทอนโทษแต่อย่างใด และนี่เองที่เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการจัดระเบียบวงการบันเทิงของจีนที่ได้รับความนิยมอยู่ในระดับต้นๆ ของโลก และมีกระแสความคลั่งไคล้ในหมู่พลเมืองอย่างล้นหลาม
“เจ้าเหว่ย” ก็เป็นซูเปอร์สตาร์ที่สร้างชื่อมาจากละคร “องค์หญิงกำมะลอ” อีกคน ที่นอกจากถูกเรียกเงินค่าตัวคืน 40 ล้านหยวนในปี 2018 เนื่องจากเกินอัตราที่รัฐกำหนดสำหรับรายได้ของศิลปินดาราในจีนแล้ว ล่าสุดในปี 2021 นี้ ผลงานทั้งหมดของเธอ ได้ถูกทางการจีนแบนออกจากทุกช่องทางออนไลน์ในประเทศไปเป็นที่เรียบร้อย หลังจากที่ทางรัฐบาลได้ทำการยกระดับการจัดระเบียบวงการบันเทิงจีนให้ครอบคลุมไปยังพื้นที่ออนไลน์ซึ่งได้รับความนิยมจากคนหนุ่มสาวในประเทศเป็นอย่างมาก
ว่ากันว่า นี่คือเกมรุกของทางรัฐบาลปักกิ่งที่น่าสนใจ เพราะสื่อในฝั่งตะวันตกหลายแห่งวิเคราะห์ตรงกันว่า ในกรณีของเจ้าเหว่ยนั้น มันมีความแตกต่างจากกรณีของฟ่าน ปิงปิง เพราะมีประเด็นของการแสดงออกทางการเมืองเพิ่มเติมเข้ามา ทำให้ต้องจำกัดบทบาทการชี้นำทางออนไลน์ของเธอในทันที
กระนั้น ทางการจีนก็ยังไม่มีความชัดเจนในประเด็นนี้ออกมา แต่เมื่อย้อนไปดูพฤติกรรมและความสัมพันธ์ส่วนตัวของเธอนั้น ก็พบว่า สามีของเธอมีความใกล้ชิดกับ “อาลีบาบากรุ๊ป” ที่เหมือนกำลังคัดง้างทางธุรกิจกับแนวทางของรัฐบาล “สี จิ้นผิง” และทั้งตัวเธอเองและสามีก็มีประวัติไม่โปร่งใสในตลาดหุ้นจีนจนต้องถูกแบน แถมเจ้าเหว่ยยังเคยได้แสดงออกทางสัญลักษณ์ในการสนับสนุนการแยกตัวไปของไต้หวันก่อนหน้านี้ เหล่านี้อาจเป็นชนวนที่หลายคนมองว่า ทำให้เธอตกเป็นศิลปินดารากลุ่มแรก ที่สำนักงานบริหารไซเบอร์ของจีน (Cyberspace Administration of China) บังคับใช้การ Cancel Culture (ทำให้หายไปจากสื่อ) ด้วยกฎหมายอย่างเข้มงวด
ตามรายงานข่าวของสื่อจากทางการจีนอย่าง “ซินหัว” บอกว่า เดือนสิงหาคม 2021 เพียงเดือนเดียว มีบัญชีบนแพลตฟอร์มสังคมออนไลน์ของจีน
ถูกปิดไปแล้วกว่า 4,000 สมาชิก กำจัดข้อมูลข่าวสารเชิงลบและเป็นอันตรายไปมากกว่า 150,000 ชิ้น และกลุ่มสนทนาปิดถูกควบคุมกว่า 2,000 กลุ่ม
“เราจะปราบปรามเด็ดขาด สำหรับผู้ที่ชักจูงให้เยาวชนติดตามดาราอย่างไร้เหตุผล และจะมีบทลงโทษที่รุนแรงต่อแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ปล่อยให้เกิดพฤติกรรมดังกล่าวขึ้น”
นี่เป็นนโยบายล่าสุดของ CAC หรือหน่วยงานสอดส่องไซเบอร์ของจีน หลังรัฐบาลเล็งเห็นว่า พฤติกรรมคลั่งไคล้ศิลปินดาราของหนุ่มสาวจีนในโลกออนไลน์กำลังดำดิ่งสู่ความล้มเหลวทางจิตสำนึก และความเป็นพลเมืองที่ดีทำให้การตัดไฟแต่ต้นลม ทั้งทางฝั่งศิลปินดาราที่อาจนำมาสู่ความกระด้างกระเดื่องทางการเมือง และศีลธรรมจริยธรรมตามแบบที่รัฐจีนพึงปลูกฝังและเครือข่ายสื่อสังคมออนไลน์ที่ปล่อยให้เกิดความเชื่อมโยงต่อศิลปินดาราคนนั้น ควบคู่ไปกับการบังคับใช้กฎหมายอัตราโทษสูงกับบริษัทที่เปิดให้บริการ “ระบบแนะนำทางออนไลน์” ในกรณีละเมิดคำสั่งให้การนำเสนอเชื่อมโยงถึงบุคคลต้องห้ามที่ทางการจีนระบุ หรือมีพฤติกรรมตามที่ทางการจีนกำหนดห้ามไว้ รวมไปถึงการควบคุมกิจกรรมของแฟนคลับผ่านกลุ่มงานจัดกิจกรรมอีเวนต์ สื่อสารมวลชนสายบันเทิง และค่ายศิลปินดาราทุกแขนง เพื่อแช่แข็งพฤติกรรมคลั่งดาราอันนำความเสื่อมเสียมาสู่สังคมในสายตาของทางรัฐบาลจีน เพื่อมิให้เกิดความเสียหายต่อศีลธรรมอันดี และความมั่นคงของประเทศตามที่เป็นมา
ต้องยอมรับว่า ความเชื่อมโยงระหว่างศิลปินดาราที่จีนกับแฟนคลับนั้นอยู่ในระดับที่เหนียวแน่นมาก จนบางทีก็มีการแสดงออกถึงความเพิกเฉยต่อพฤติกรรมด้านลบของศิลปินดาราที่ตนเองชื่นชอบออกมา และตรงนี้เองที่นำมาสู่การรุกเดินหน้าจัดระเบียบวงการบันเทิงแบบจัดหนักตามที่เกิดขึ้น ซึ่งคำถามที่น่าสนใจต่อปฏิบัติการนี้ก็คือ มันจะกลายเป็นการยิ่งห้ามยิ่งยุหรือไม่เพราะการบังคับแบบถอนรากถอนโคนเช่นนี้ อยู่บนความเสี่ยงตามความเข้าใจในแต่ละช่วงวัย และยุคสมัย ซึ่งความไม่ละมุนละไมในการแสดงความห่วงใย อาจกลายเป็นความน่ากังวลต่อไปในอนาคต ทั้งทางวัฒนธรรม สังคม และการเมือง รวมไปถึงเรื่องเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี