เจ้าของสุนัขและแมวหลายท่านน่าจะเคยมีประสบการณ์ที่สัตว์เลี้ยงของท่านได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคนิ่วในทางเดินปัสสาวะ หรืออาจเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับโรคนิ่วในทางเดินปัสสาวะ ซึ่งก็จะก็พบว่าเจ้าของสัตว์หลายท่านไม่ทราบมาก่อนว่าสัตว์เลี้ยงก็เป็นโรคนิ่วได้ เช่นเดียวกับคน
วันนี้ผมมีเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับโรคนิ่วในทางเดินปัสสาวะของสัตว์เลี้ยงจาก ผศ.น.สพ.ดร.วชิราหุ่นประสิทธิ์ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะสัตวแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาฝากกันครับ
โรคนิ่วนั้น เกิดมาจากการที่ปัสสาวะของสุนัขและแมวมีความเข้มข้นของสารก่อนิ่วอยู่มาก ทำให้ก่อตัวกันเป็นก้อนหินแข็งๆ อยู่ในทางเดินปัสสาวะ แล้วอาจจะทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น ปัสสาวะมีเลือดปน หรือปัสสาวะขัด บางตัวก็มีการอุดตันทางเดินปัสสาวะได้
เมื่อพิจารณาดูตัวก้อนนิ่วนั้น พบว่านิ่วมีอยู่หลายชนิดและการจัดกลุ่มของนิ่วก็มีหลายวิธี เช่น
@กลุ่มนิ่วที่เกิดจากการติดเชื้อ (นิ่วสตรูไวต์) และ
@กลุ่มนิ่วที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ (เช่น นิ่วแคลเซียม นิ่วยูเรต)
การจัดกลุ่มนิ่วแบบนี้ จะสะท้อนถึงสาเหตุการเกิดนิ่วนั่นเอง แต่ถึงอย่างไรก็ตาม การเกิดนิ่วนั้นในปัสสาวะจะต้องมีสารก่อนิ่วเหล่านี้มากกว่าปกติ ซึ่งก็มีปัจจัยหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการก่อให้เกิดก้อนนิ่ว ปัจจัยสำคัญที่สุดก็คือพันธุกรรมนั่นเองหรือเราเรียกว่าโรคกรรมพันธุ์ ที่ทำให้ร่างกายมีการขับสารก่อนิ่วออกมามากกว่าปกติ
สำหรับปริมาณน้ำที่กิน ก็มีส่วนร่วมด้วย เช่นเดียวกันเนื่องจากหากปัสสาวะเข้มข้นมากก็จะทำให้ปริมาณสารก่อนิ่วมาก และก่อตัวเป็นก้อนแข็งได้
ปัจจัยในเรื่องของอาหารนั้น พบว่า การที่มีปริมาณสารบางอย่างที่มากหรือน้อยจนเกินไปในอาหาร ก็ส่งผลต่อการขับสารก่อนิ่วได้เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้แล้วยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อการเกิดนิ่วได้ซึ่งปัจจัยเหล่านั้นเกี่ยวข้องกับการที่ปัสสาวะเข้มข้นมากขึ้นได้แก่ การอั้นปัสสาวะอันเนื่องมาจากปัจจัยทางสุขภาพ เช่นโรคอ้วน การอั้นปัสสาวะในแมวเนื่องจากกระบะทรายไม่เพียงพอ หรือไม่สะอาด สิ่งเหล่านี้ย่อมส่งผลให้ปัสสาวะมีความเข้มข้นสูงขึ้นและมีโอกาสเกิดนิ่วได้เพิ่มขึ้น
อีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญคือ เรื่องของการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง เช่น กระเพาะปัสสาวะอักเสบติดเชื้อบางครั้งแบคทีเรียที่ติดเชื้อเข้าไปนั้นไปสร้างสภาวะที่เอื้อต่อการเกิดนิ่วติดเชื้อได้ ซึ่งต้องมองว่าเหตุปัจจัยอะไรที่ทำให้สัตว์มีการติดเชื้อที่ทางเดินปัสสาวะ เช่น โรคระบบประสาท เป็นต้น
ดังนั้น จะเห็นได้ว่ามีปัจจัยอยู่หลายอย่างมากที่เกี่ยวข้องกับการเกิดนิ่วเนื่องจากนิ่วแต่ละชนิดก็มีสาเหตุที่แตกต่างกันออกไป การลดปัจจัยต่างๆ ลงได้ก็ย่อมส่งผลดี
ต่อตัวสัตว์ และหากว่าสุนัขและแมวเคยเป็นนิ่วมาก่อนและทราบชนิดของนิ่วแล้ว ก็จะทำให้การป้องกันการกลับมาเป็นใหม่ของนิ่วมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
แนะนำว่า เจ้าของสัตว์ควรหมั่นสังเกตอาการ สี ปริมาณ รวมถึงสิ่งแปลกปลอมที่ปนมาขณะสัตว์เลี้ยงของเราปัสสาวะนะครับ หากเจอปัญหาเหล่านี้ ควรรีบปรึกษาสัตวแพทย์โดยด่วน เพื่อทำการตรวจ วินิจฉัย และให้การรักษาอย่างทันท่วงที มีประสิทธิภาพ และประสบความสำเร็จครับ
“หมอโอห์ม”
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ ฝ่ายประชาสัมพันธ์และภาพลักษณ์องค์กร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี