เมื่อไม่นานมานี้ มีกระแสฮือฮาในโลกโซเชียล (ครั้งแล้วครั้งเล่า) ว่า มีการบริโภคหมูดิบ เครื่องในดิบๆแล้วป่วยเป็น “โรคไข้หูดับ” ซึ่งมีความรุนแรง และอาจเกิดอันตรายถึงชีวิตเลยทีเดียว หลายท่านคงสงสัยว่าโรคนี้คืออะไร วันนี้เราผมข้อมูลดีๆ จาก รศ.น.สพ.ดร.ศุภชัย เนื้อนวลสุวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางการวิเคราะห์ความเสี่ยงอาหารและน้ำ ภาควิชาสัตวแพทยสาธารณสุข คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
@โรคไข้หูดับคืออะไร?
โรคไข้หูดับ คือโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า Streptococcus suis โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดโรคในมนุษย์ นั้นคือ ซีโรไทป์ 2 ซึ่งจัดเป็น “โรคสัตว์สู่คน” (zoonosis) ที่เกิดจาก “การสัมผัส” กับสุกรที่มีแบคทีเรียนี้อยู่ และสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ผ่านบาดแผลที่ผิวหนัง และเยื่อบุต่างๆ
ไม่ใช่เพียงแต่ผู้ปรุงอาหารจากเนื้อสุกร และพ่อค้าเนื้อหมูเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงผู้ที่ต้องทำงานคลุกคลีหรือสัมผัสกับตัวสุกรโดยตรงในระดับฟาร์มและโรงเชือด เช่น สัตวแพทย์ สัตวบาล ผู้เลี้ยงสุกร ผู้ที่ทำงานในโรงเชือด จึงมีความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อชนิดนี้เข้าสู่ร่างกายได้
นอกจากนี้ อุบัติการณ์การเกิดโรคส่วนมากตามสื่อนั้น จะพบว่ามีการติดเชื้อที่เกิดจาก “การบริโภค” เนื้อหรือเลือดสุกรที่ไม่สุก ดังนั้นเราจึงเห็นข่าวของประชาชนผู้ที่บริโภค “เนื้อสุกรดิบ” เสียเป็นส่วนใหญ่
@อาการของโรคนี้เป็นอย่างไร?
ผู้ป่วยจะมีกลุ่มอาการเฉพาะ คือ มีไข้ ร่วมกับการปวดเมื่อย ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน ถ่ายเหลว การรู้สึกตัวเปลี่ยนไป รวมถึงมีอาการของสมองอักเสบ คอแข็ง หูหนวก เลือดออกใต้ผิวหนัง ชักและปวดตามข้อ ประสิทธิภาพการได้ยินลดลงจนถึงเกิดภาวะหูดับถาวร ซึ่งหากมีภาวะการติดเชื้อในกระแสเลือดรุนแรงด้วยอาจทำให้เสียชีวิตได้
@มีการเกิดโรคในประเทศอื่นๆ มากน้อยเพียงใด
นอกจากการระบาดในประเทศไทยแล้ว ยังพบในอีกหลายประเทศแถบเอเชียได้แก่ ประเทศจีน ฮ่องกง ไต้หวัน และเวียดนามเป็นต้น ส่วนการระบาดในประเทศไทยส่วนใหญ่นั้นจะอยู่ในภาคเหนือและภาคอีสานเป็นส่วนใหญ่
ซึ่งสถานการณ์ของการแพร่กระจายของโรคไข้หูดับในวงการสัตวแพทย์นั้น ปัจจุบันพบว่าสามารถแยกเชื้อโรคไข้หูดับได้จาก “สุกรทุกช่วงอายุ” ตั้งแต่ในลูกสุกร สุกรขุน แม่สุกร และต่อเนื่องไปถึงโรงเชือดสุกรเลยทีเดียว
ทั้งนี้ยังมีรายงานการปนเปื้อนเชื้อไข้หูดับในผลิตภัณฑ์สุกร ที่พบใน ต่อมน้ำเหลือง เนื้อสุกร รวมถึงเลือดที่สุกแล้วอีกด้วย
@มีคำแนะนำสำหรับผู้บริโภคอย่างไร
คำแนะนำสำหรับผู้บริโภคอย่างเราๆ ที่ทำได้ง่ายที่สุดคือ
- หลีกเลี่ยงการบริโภคเนื้อหรือเลือดสุกรแบบดิบๆ หรือแบบกึ่งดิบกึ่งสุก ไม่ว่าจะเป็น ลาบหมูดิบ ก้อยหมูดิบ ซอยจุ๊หมูดิบ รวมถึงซูชิหมูดิบเป็นต้น เนื่องจากเชื้อโรคไข้หูดับนั้น “ไม่ทน” ต่อความร้อน ดังนั้น “การปรุงให้สุก” จะช่วยทำลายเชื้อไข้หูดับได้
- ระมัดระวังการกินที่มีการปนเปื้อนระหว่างเนื้อสุกรดิบและสุก โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบอาหารสำหรับวัตถุดิบและอาหารที่ผ่านความร้อนแล้ว
- ในการรับประทานหมูกระทะ หรือการปิ้งย่าง ควรแยกอุปกรณ์ในการคีบ เช่นตะเกียบที่ใช้คีบเนื้อสุกรดิบและตะเกียบที่ใช้ในการรับประทานเนื้อหมูที่สุกแล้ว
- สำหรับผู้ปรุงอาหาร ควรสวมถุงมือขณะเตรียมเนื้อหมูสด (โดยเฉพาะผู้ที่มีบาดแผลที่มือ) และควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังสัมผัสเนื้อหมูดิบ
- เลือกซื้อเนื้อสุกรและ ผลิตภัณฑ์เนื้อสุกรจากฟาร์มหรือแหล่งที่ได้มาตรฐาน
เมื่อเราปฏิบัติตนได้ดังนี้แล้ว ปัญหาโรคไข้หูดับก็เป็นโรคที่ไม่ได้น่ากลัวจนถึงกับต้องตระหนก แต่พึงตระหนักรู้ถึงการป้องกันตนเองเท่านั้นครับ
หมอโอห์ม
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ ฝ่ายประชาสัมพันธ์และภาพลักษณ์องค์กร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี