ผมเชื่อว่า ผู้เลี้ยงสุนัขและแมวหลายๆ ท่านคงเคยมีประสบการณ์เหล่านี้ เช่น มีอาการเบ่งและร้องเวลาปัสสาวะ ปัสสาวะเป็นเลือด ปัสสาวะกะปริบกะปรอย หรืออาจถึงขั้นปัสสาวะไม่ออก อาการเหล่านี้อาจเกิดจาก “โรคนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ” ได้ และเมื่อได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น “โรคนิ่ว” แล้ว ก็มักจะจบลงที่ “การผ่าตัด” เพื่อเอาก้อนนิ่วออก ดังนั้นโรคนิ่วนี้ จึงถือได้ว่าเป็นหนึ่งในโรคที่กระทบต่อสุขภาพของสุนัขและแมวโดยตรง และอาจบอกได้ว่าเป็นโรคที่ทำให้สุนัขและแมวเสียชีวิตได้ด้วย เมื่อเป็นแบบนี้แล้วเราจะมีวิธีการป้องกันการเกิดนิ่วได้อย่างไร วันนี้ผมก็มีข้อมูลที่น่าสนใจมาฝากเช่นเคย ซึ่งเป็นข้อมูลดีๆ จาก ผศ.น.สพ.ดร.วชิรา หุ่นประสิทธิ์ ภาควิชาอายุรศาสตร์คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรามาคุยเรื่องนี้กันครับ
@โรคนิ่วเกิดจากอะไรได้บ้าง?
ก่อนอื่นต้องทราบก่อนว่านิ่วในสุนัขและแมวนั้น มีหลายชนิด และแต่ละชนิดก็มีสาเหตุที่แตกต่างกันไป เช่น นิ่วติดเชื้อ เช่น นิ่วสตรูไวท์ นิ่วไม่ติดเชื้อ เช่น นิ่วแคลเซียมออกซาเลต เป็นต้น
@นิ่วที่พบได้บ่อยในสุนัขและแมวได้แก่นิ่วชนิดใด และมีสาเหตุมาจากอะไร?
เท่าที่มีรายงานในบ้านเรา พบว่า นิ่ว 2 อันดับแรกที่พบได้บ่อยมากๆ ในสุนัขและแมวประเทศไทยนั้น คือ นิ่วสตรูไวท์ และ นิ่วแคลเซียมออกซาเลต ซึ่งทั้งสองชนิดก็มีสาเหตุที่แตกต่างกัน
นิ่วสตรูไวท์ จะเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ (urinary tract infection; UTI) เป็นหลัก ส่งผลให้น้ำปัสสาวะมีสภาวะเป็นด่างเพิ่มขึ้น ทำให้สารประกอบของฟอสฟอรัสที่อยู่ในน้ำปัสสาวะแตกตัว และรวมตัวกับแร่ธาตุบางชนิดเช่นแมกนีเซียมหรือแอมโมเนียมกลายเป็นผลึกสตรูไวท์ที่ไม่สามารถถูกละลายได้ในน้ำปัสสาวะที่เป็นด่างจนเกิดการขยายขนาดของผลึก และรวมตัวกันเป็นก้อนนิ่วสตรูไวท์
ส่วนนิ่วแคลเซี่ยมออกซาเลตนั้น อาจมีสาเหตุที่ไม่แน่ชัด แต่พบว่าอาหาร สายพันธุ์ พันธุกรรม และปัจจัยด้านสภาพแวดล้อม ล้วนแต่มีความเกี่ยวข้องต่อการเกิดนิ่วชนิดนี้ทั้งสิ้น ทั้งนี้ สายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วชนิดนี้ ได้แก่ Miniature schnauzer, Yorkshire terrierเป็นต้น นอกจากนี้ภาวะแคลเซียมในเลือดสูง ก็เป็นปัจจัยโน้มนำที่มีผลให้เกิดแคลเซียมในปัสสาวะสูง และพัฒนาเป็นการเกิดนิ่วได้นอกจากนี้การให้สุนัขกินอาหารที่มีสารออกซาเลตสูง (เช่น พืชผักบางชนิด ได้แก่ หน่อไม้ คะน้า ผักโขม หัวไช้เท้า ปวยเล้ง มันเทศ และถั่วเหลือง เป็นต้น) อาจส่งผลให้มีออกซาเลตในปัสสาวะสูง และนำไปสู่การตกตะกอนของนิ่วได้
@เรามีวิธีป้องกันการเกิดนิ่วได้อย่างไร
การป้องกันการเกิดนิ่วนั้น จะเพ่งเล็งไปที่กลไกการเกิดนิ่วมากกว่า แต่การป้องกันนิ่วที่ได้ผลนั้น ส่วนมากจะเน้นไปที่การป้องกัน “การกลับมาเป็นใหม่” มากกว่าที่จะป้องกันการเป็นนิ่วในครั้งแรก เพราะ “เราไม่มีทางทราบได้” ว่าสุนัขตัวไหนจะเป็นนิ่ว เนื่องจากไม่จำเป็นว่าสุนัขและแมวทุกตัวจะเป็นนิ่ว แต่เมื่อตัวไหนที่เป็นแล้วก็จะมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำๆ และมักจะเป็นนิ่วชนิดเดิมๆ ได้อีก
ดังนั้นการป้องกัน จึงต้องมีการวางแผนร่วมกันกับสัตวแพทย์ โดยการป้องกันหลักๆ คือ การที่ไม่ให้ปัสสาวะของสุนัขและแมวเข้มข้นเกินไป นั่นคือ
- การเพิ่มปริมาณน้ำที่กิน ไม่ว่าจะมาจากการปรับอุปกรณ์การกินน้ำ หรือปรับเปลี่ยนรูปแบบของอาหารเป็นอาหารที่มีปริมาณน้ำมากขึ้น เช่นอาหารกระป๋อง
- การเปลี่ยนอาหารที่ให้ เป็นอาหารสำเร็จรูปสูตรป้องกันนิ่วโดยเฉพาะ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ลดโอกาสการกลับมาเป็นใหม่ได้ เนื่องจากอาหารดังกล่าวถูกพัฒนามาเพื่อป้องกันนิ่ว จึงแนะนำให้กินเป็นอาหารแบบเดียว โดยไม่มีการให้กินขนมหรืออาหารอื่นเสริม เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพของอาหารลดน้อยลง
- นอกจากนี้เจ้าของสัตว์เลี้ยงจำเป็นต้องพาสัตว์เลี้ยงมาพบสัตวแพทย์เป็นระยะๆ เพื่อประเมินผลการจัดการ และเพื่อตรวจสอบการกลับมาเป็นใหม่ของนิ่วอีกด้วย ทั้งนี้ เจ้าของสุนัขและแมวจะต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การผ่าจัดเอานิ่วออกไปแล้ว “ไม่ได้” หมายถึงการเอาสาเหตุของการเกิดนิ่วออกไปด้วย ดังนั้นต้องเรียนย้ำว่า เมื่อ
ปรับอาหารและให้เพิ่มน้ำกินแล้ว ไม่ได้ได้หมายความว่าสัตว์เลี้ยงของเราจะไม่เกิดนิ่วอีกเลย แต่การทำดังกล่าวนั้น เป็นเพียงแค่การช่วย “ชะลอการกลับมาเป็นใหม่ของนิ่วให้ช้าลงเท่านั้น” เพราะงานวิจัยในปัจจุบันก็ยังไม่ได้มีการยืนยันผลการป้องกันการกลับมาเป็นใหม่ได้
ดังนั้น เมื่อทุกท่านทราบดังนี้แล้ว จะเห็นว่า การทำความเข้าใจถึงกลไกการเกิดนิ่ว และความร่วมมือกันระหว่างเจ้าของสัตว์เลี้ยงและคุณหมอ จะช่วยให้เราจัดการจัดการกับปัญหานิ่วในทางเดินปัสสาวะของสุนัขและแมวได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ
หมอโอห์ม
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ และฝ่ายประชาสัมพันธ์และภาพลักษณ์องค์กร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี