“เมืองหอยหลอด ยอดลิ้นจี่ มีอุทยาน ร.2
แม่กลองไหลผ่าน นมัสการหลวงพ่อบ้านแหลม”
ข้างต้นเป็นคำขวัญประจำจังหวัด “สมุทรสงคราม” ที่มีการกล่าวถึง “ลิ้นจี่” อยู่ด้วย
นั่นเพราะ สิ้นจี่” ถือเป็นอีกหนึ่ง “ของขึ้นชื่อ” ของจังหวัดสมุทรสงคราม ถ้าปีไหน ลิ้นจี่ติดดอกออกผลจะสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรชาวสวนลิ้นจี่อย่างมาก
อย่างไรก็ดี ลิ้นจี่แม่กลอง “ทิ้งช่วง” ไม่ติดดอกออกผลมาเป็นเวลาถึง 4 ปีแล้ว ทำให้ชาวสวนลิ้นจี่ ตัดต้นลิ้นจี่ทิ้งเป็นจำนวนมาก เพราะทนรับสภาพไม่ไหว พืชที่ชาวสวนปลูกแทนลิ้นจี่ คือ ส้มโอ มะพร้าวอ่อนน้ำหอม และทุเรียน ที่ติดดอกออกผลดีและดูแลง่าย ลงทุนน้อยกว่าลิ้นจี่ แต่เจ้าของลิ้นจี่ยังคงไม่มีความมั่นใจมากนัก เพราะถ้าเกิดภัยธรรมชาติ เช่น “ฝนตกชุก พายุกรรโชก อากาศร้อนเกิน 20 องศาเซลเซียส ถ้าเกิดเหตุดังที่กล่าวมาลิ้นจี่จะร่วง หรือออกผลเป็น “ลิ้นจี่กะเทย” ที่จำหน่ายไม่ได้ราคา
ล่าสุด “นายคันฉัตร ตันเสถียร” ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม จึงพาหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น พาณิชย์จังหวัด เกษตรจังหวัด ประชาสัมพันธ์จังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด หอการค้าจังหวัด ประธานสภาเกษตร และประธานกลุ่มปรับปรุงไม้ผล เข้าสวนลิ้นจี่ด้วยกัน 3 ตำบล ที่ลิ้นจี่ติดดอกออกผลมากที่สุด คือ ต.แควอ้อม อ.อัมพวา และ ต.บางสะแก และ ต.ปราโมทย์ อ.บางคนที
จากการ “ชมสวน” พบว่า มีลิ้นจี่ติดดอกออกผลมากจริงๆ แต่ยังอยู่ในขั้นตอนต้องดูอาการ และได้พบกับเกษตรกรบางรายที่นำ “ผึ้งโพง” มาจากภาคใต้และภาคเหนือ มาลงตามสวนลิ้นจี่ที่เกษตรกรว่าจ้างให้นำรังผึ้งมาส่ง เพื่อเสริมการติดดอกออกผลเพิ่มมากขึ้น เพราะผึ้งจะ “ผสมเกสร” ของดอกลิ้นจี่ จากต้นหนึ่ง ไปสู่อีกต้นหนึ่งทำให้ลิ้นจี่ติดดอกออกผลมากขึ้น นอกจากนี้ “น้ำผึ้ง” ในรังยังนำมาจำหน่ายได้อีกด้วย
เมื่อสอบถามชาวสวนผู้ปลูกลิ้นจี่ที่ติดดอกออกผล ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า “อย่า” ให้เกิดภัยพิบัติในขณะนี้ เช่น ฝนตกหนัก มีลมกรรโชกแรง และมีลมพายุพัดเข้ามารุนแรง ท้ายสุด คือ “อากาศร้อน” จนเกินไป ต่อจากนี้ไปอยากให้อากาศหนาวเย็นสบายๆ อุณหภูมิไม่เกิน 20 องศาเซลเซียส ประมาณ 20 วัน ลิ้นจี่จะไม่ร่วงและจะเติบโตได้เร็วขึ้น
นายคันฉัตร ตันเสถียร ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวว่า เท่าที่สำรวจดู 2-3 ตำบลที่ปลูกลิ้นจี่ “ฟันธง” ได้เลยว่าปีนี้ได้กินลิ้นจี่แน่นอน 70% เพราะออกดอกมากเกือบทุกสวน แต่ก็อาจมีปัญหาเรื่อง “มรสุม” ที่พัดผ่านเข้ามา หากมีทั้ง “ฝน-ลม-ร้อน” ลิ้นจี่ก็คงมีปัญหา แต่คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ปีนี้ได้กิน “ลิ้นจี่แม่กลอง” ค่อนข้างแน่นอน จะมากหรือน้อยเท่านั้น
สิ่งที่อยากขอร้องเกษตรกรชาวสวนลิ้นจี่ คือ กลัวชาวสวนจะเร่งเก็บลิ้นจี่ขาย หรือไปทำสัญญาผูกมัดกับ “นายทุน” ที่เข้ามาซื้อในสวน ที่เรียกกันว่า “เหมาหมดสวน” เกษตรกรชาวสวนจะเกิดปัญหา เพราะถ้าลิ้นจี่ติดดอกออกผลเยอะอย่างที่คิด ชาวสวนลิ้นจี่กลัว “ขายไม่ได้ ขายไม่ทัน” รีบตัดสินใจเหมาให้พ่อค้าแม่ค้าคนกลางไปจะมาเสียใจภายหลัง เพราะเมื่อเหมาให้พ่อค้าแม่ค้าคนกลางไป ถึงเวลาเขามาเก็บ พอดีราคาตกต่ำ ทางพ่อค้าแม่ค้าตีตามราคาปัจจุบัน ถ้าไม่ตกลง ก็ไม่เก็บ ถูกหรือแพงชาวสวนก็ต้องขาย เพราะไม่เช่นนั้น “เน่า” หรือ “ร่วงโคนต้น” อย่างแน่นอน
เหมือน...ผีถึงป่าช้า อย่างไรก็ต้องเผา
ทางจังหวัดจะหาวิธีแก้ปัญหาทุกเรื่องที่เกษตรกรชาวสวนลิ้นจี่ที่ได้รับผลกระทบ เช่น เก็บผลผลิตไม่ทัน ขาดแคลนแรงงาน หรือถูกกดเรื่องราคาจนขาดทุน ตลอดจนปัญหาไม่มีสถานที่จัดจำหน่าย ให้ทราบผลแน่นอนเสียก่อน ว่า ลิ้นจี่ติดแน่นอน จำนวนเท่าใด ทราบผลแน่นอนทางจังหวัดจะให้ทางพาณิชย์จังหวัดหาตลาดส่งออกให้ หรือจะซื้อตรงขายตรงก็จะดำเนินการให้
ที่เป็นห่วงอีกเรื่องหนึ่ง คือ เรื่องการ “เก็บผลผลิต” จำหน่าย โดยที่ผลผลิตยังไม่สมบูรณ์ เพราะเกษตรกรชาวสวนกลัวขายไม่ได้ ขายไม่ทัน กลัวราคาตกต่ำ จึงตัดสินใจรีบเก็บผลผลิตจำหน่ายในช่วงต้นๆ เพราะราคาดี สุดท้าย คือ “ถูกตีกลับคืน” เพราะผลผลิตยังไม่สมบูรณ์ จะเสียหายในด้านเศรษฐกิจ เสียหายทั้งชื่อเสียงของจังหวัด
“เตือนไว้ก่อนถ้ามีเหตุการณ์อย่างนั้น ทางจังหวัดไม่ช่วย แล้วก็จะเล่นงานตามกฎหมายด้วย เพราะมี พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค กำกับดูแลอยู่ และผิดกฎหมายในเรื่องการจำหน่ายสินค้าไม่ได้มาตรฐานอีกกรณีหนึ่ง มีโทษทั้งจำทั้งปรับเช่นเดียวกัน” ผวจ.สมุทรสงคราม กล่าว
ผวจ.สมุทรสงคราม กล้าวทิ้งท้ายว่า เรื่องการใช้ “สารเคมีอันตราย” ก็เช่นกัน พยายามหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่มีผลกระทบกับผู้บริโภค เพราะถ้าใช้สารเคมี แล้วมี “สารตกค้าง” อยู่ เมื่อส่งไปจำหน่ายปลายทาง พบสารเคมีปนเปื้อนถูกตีกลับแน่นอน เสียหายทางด้านเศรษฐกิจ และชื่อเสียงของจังหวัด และถ้าส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศ ผลเสียหายถึงประเทศไทย
สราวุฒิ ศรีธนานันท์/สมุทรสงคราม...รายงาน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี