ถ้าพูดถึงเรื่องความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องดวงชะตาแล้ว ต้องยอมรับว่าไม่ใช่มีเพียงแค่คนไทยเท่านั้นที่มีความเชื่อในเรื่องนี้ แต่มันมีไปทั่วทุกมุมโลกหลากหลายอาชีพตั้งแต่แม่บ้านไปจนถึงระดับผู้นำประเทศ นักธุรกิจ และนักศึกษา โดยส่วนใหญ่จะเน้นดูในเรื่อง "เงิน งาน ความรัก การลงทุน" ทั้งนี้ก็เพื่อสร้างความมั่นใจและเชื่อมันในการตัดสินใจให้กับตนเอง ศาสตร์แห่งดวงชะตาจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในชีวิตของคนเหล่านี้
"จุฬากรณ์ ถนอมทรัพย์" หรือ "หมอตุ๊กแก" หมอดูศาสตร์พยากรณ์ไพ่ยิปซีชาวไทย ที่ปัจจุบันเธอใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวในรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา มากว่า 10 ปี และยังคงทำหน้าที่เป็นเข็มทิศชีวิตให้แก่ผู้คนในรัฐฟลอริดา และเป็นหมอดูจากการเปิดไพ่ทำนายดวงชะตาที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ที่คนไทยในสหรัฐอเมริการู้จักกันดี และด้วยการนำหลักวิทยาศาสตร์มาประกอบกับการอ่านไพ่อย่างแม่นยำที่ผ่านมาได้ส่งชื่อของเธอให้เป็นที่รู้จักไปยังทวีปยุโรป หรือแม้แต่ในแถบตะวันออกกลาง รวมถึงทั่วโลก หลังจากการเปลี่ยนโลกด้วยการสื่อสารผ่านโลกโซเชียล เมื่อกว่า 5 ปีที่ผ่านมา
จนแม่บ้าน สาวออฟฟิศ นักธุรกิจ ทั้งในและต่างประเทศต่างเรียกชื่อเธอจนติดปากว่า "หมอตุ๊กแก" หรือ "พี่ตุ๊กแก"
ในแต่ละปี "หมอตุ๊กแก" หรือ "พี่ตุ๊กแก" จะเดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านในประเทศไทย ที่อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม เพียงปีละครั้ง เป็นการเดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านตามวาระที่กำหนดไว้ แต่ก็ยังไม่ได้หยุดทำนายดวงผ่านโลกโซเชียลให้แก่คนไทยและชาวต่างชาติที่มีการลงคิวจองผ่านตารางนัดทางโซเชียลมีเดียเอาไว้ตลอด การกลับมาบ้านของเธอแต่ละครั้งจึงเหมือนกับการกลับมากราบไหว้บูชาครูบาอาจารย์ และกลับมาสู่ครอบครัวก่อนจะเดินทางกลับไปที่รัฐฟลอริดาอีกครั้ง
"จุฬากรณ์ ถนอมทรัพย์" หรือ "หมอตุ๊กแก" ได้เล่าเรื่องของตนเองให้กับทีมเฉพาะกิจ "แนวหน้าออนไลน์" ฟังว่า ตนเริ่มรู้จักเรื่องศาสตร์การดูดวงชะตามาตั้งแต่เด็ก แต่ก็ไม่ได้มีความเชื่อมากนัก เพราะพี่สาวเป็นอาจารย์เกี่ยวกับงานด้านวิทยาศาสตร์และวิจัย ตำแหน่งเป็นถึงรองศาสตราจารย์ หรือน้องชายจะเป็นผู้พิพากษา ก็ไม่ได้มีใครได้ให้ความสนใจในเรื่องนี้ แต่ตนกลับสนใจเรื่องนี้มาตั้งแต่ 7-8 ขวบ และศึกษามาเรื่อยๆ เพื่อลองทำนายแบบลองผิดลองถูกมาเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้คิดจะก้าวมายึดอาชีพเป็นหมอดู และไม่คิดว่าชีวิตจะต้องมาเดินบนถนนสายนี้
"วันหนึ่งคุณลุงฉลอง มีศรี เป็นคุณลุงที่เป็นญาติกันจะมาที่บ้านบ่อยมาก เพื่อจะมาบอกคุณพ่อเรื่องให้ระวังฟืนไฟไว้ให้ดีก็คิดว่าทำไมต้องมาเตือนบ่อยๆ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร แต่จากนั้นไม่เกินอาทิตย์ ที่บ้านได้โทรศัพท์มาบอกให้รีบกลับบ้าน เพราะบ้านไฟไหม้ เมื่อมาถึงบ้านไฟได้ไหม้เสียหายไปเยอะแล้ว และพื้นที่บ้านก็ไม่น่าถูกไฟไหม้ได้ เพราะบ้านต้นเพลิงอยู่ข้ามฝั่งถนนแต่ก็ลามมาติดบ้านเราได้ นั่นคือครั้งแรกที่คิดว่าดวงนั้นจะบอกว่าเราจะต้องเจอสถานการณ์อะไร" หมอตุ๊กแก เล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นของการเชื่อเรื่องดวง
จากนั้นครั้งที่ 2 คุณลุงฉลอง ซี่งเป็นหมอดูได้มาบอกว่าให้ระวังอุบัติเหตุให้มากๆ ไม่นานขณะที่กำลังขับรถไปรับน้องชายที่กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ บนถนนบรมราชชนนีก็เสียหลักหมุนขึ้นไปอยู่บนเกาะกลางถนน และไปหยุดนิ่ง แต่เสี้ยววินาทีก็มีรถบรรทุกเบรกไม่อยู่ตัดหน้ารถของตัวเองไปไม่ถึง 1 เมตร หลังจากนั้นทำให้เชื่อสนิทใจกับเรื่องของศาสตร์การดูดวงชะตา จึงได้บอกกับคุณลุงฉลองว่า จะศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะเป็นสิ่งที่หมดข้อสงสัยในตัวว่าเรื่องนี้เป็นศาสตร์ที่เชื่อถือได้ในระดับหนึ่งสำหรับการดำเนินชีวิต
หลังจากนั้นเธอก็ศึกษาเรื่องดวงอย่างจริงจังจากการใช้ศาสตร์ดูจากวัน เดือน ปีเกิด เป็นหลักต่อมาก็เห็นว่าเรื่องของศาสตร์การดูดวงชะตาจากไพ่ยิปซี เป็นศาสตร์ที่น่าสนใจก็ได้เริ่มศึกษา จากการอ่านต้นตำรับของคุณย่า มาเมล่า โคลแมน ชาวอังกฤษ ซึ่งถือว่ามีความแม่นยำมาก และจากนั้นก็ได้เรียนรู้จากหมอดูระดับอาจารย์ชื่อดังของไทย คือ อาจารย์เดวิด บุญทวี, อาจารย์อรอุมา ศิริอักษร ซึ่งแรกๆ ก็ดูให้เพื่อนๆ กับคนใกล้ตัว ซึ่งกลายเป็นแฟนคลับที่เหนียวแน่น และทำให้รู้สึกว่าการเราก้าวเข้ามาบนถนนสายนี้อย่างเต็มตัวแล้ว
พี่ตุ๊กแก เล่าต่อว่า ชีวิตต้องเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง เมื่อปี 2005 เพราะต้องเดินทางไปสหรัฐอเมริกา เพราะต้องตามสามีที่จะไปทำงานเป็นเชฟ ที่รัฐฟลอริดา แต่ก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร เพราะฐานดวงเราจะต้องไปอยู่แล้ว ไปอยู่นั้นเมื่อ 10 ปี ที่แล้วการติดต่อดูดวงกับเพื่อนที่เมืองไทยก็เริ่มลำบาก เพราะการจะเปิดไพ่ยิปซีนั้นต้องให้เจ้าตัวเปิดไพ่เอง เราจะมีหน้าที่จะทำเพียงผู้อ่านไพ่ให้แก่คนที่จะดูดวงของเขา ซึ่งมันก็มีระยะความแม่นใน 3-6 เดือน แต่การไม่ได้อยู่ต่อหน้าก็ดูได้เพียงดูจากฐานวันเดือนปีเกิด และศาสตร์ตัวเลขกับดวงดาวประกอบ
"แต่หลายคนก็บอกว่า อยากให้เปิดไพ่ให้ด้วย เราก็คิดหนักจนมาคิดได้ว่าเราเป็นคนชอบนั่งสมาธิ สวดมนต์เป็นประจำ จึงทดลองใช้วิธีการนั่งสมาธิสื่อถึงกันดู โดยตัวเรานั่งอยู่ที่บ้านในรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา แล้วให้คนที่จะดูดวงกับเรานั่งสมาธิอยู่ที่บ้านในประเทศไทยไปพร้อมๆ กันเพื่อให้จิตสงบนิ่งแล้วสื่อสารถึงกัน เมื่อทดลองทำเปิดไพ่หลายๆ ครั้งกับน้องๆ และคนที่ดูดวงกับเราปรากฎว่าสามารถอ่านไพ่ทำนายดวงได้จริงและสามารถสื่อสารถึงกันได้ จากนั้นก็ใช้วิธีการนี้มาตลอด จึงเป็นที่มาของการรับเปิดไพ่ยิปซีดูดวงทางโทรศัพท์ผ่านโลกโซเวียลนับตั้งแต่นั้นมา"
พี่ตุ๊กแก เล่าต่อว่า จากการนั่งสมาธิสื่อถึงกันตนยอมรับว่ามีประโยชน์มากเพราะนอกจากจะทำให้เรามีสมาธิ มีจิตใจที่สงบแล้ว ยังทำให้คนที่ดูดวงกับเราได้รู้จักนั่งสมาธิ มีสติ จิตใจสงบมากขึ้นด้วย จากนั้นตนก็จะแนะนำให้เขาทำบุญและอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวรและสรรพสัตว์ทั้งหลายด้วย
พี่ตุ๊กแก เล่าต่ออีกว่า หลังจากใช้วิธีนี้ได้มาระยะหนึ่ง ก็เริ่มมีคนไทยในรัฐอื่นๆ ในสหรัฐเอมริกาให้เปิดให้มากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งต่างรัฐบางแห่งไกลมาก ทั้งแอลเอ หรือรัฐอื่นที่ไกลกัน เวลาก็จะต่างกัน ทำให้เราต้องกำหนดเวลาให้ดีสำหรับการดูดวง เพราะมันส่งผลถึงสุขภาพของเราด้วย แต่เมื่อกว่า 5 ปีที่ผ่านมา โลกโซเชียล เช่น เฟซบุ๊ก ไลน์ไอดี เริ่มมีมากขึ้นเราก็ใช้โซเชียลให้เป็นประโยชน์ให้มากที่สุด
กระทั่งเริ่มมีลูกค้าในแถบยุโรป ประเทศเยอรมนี ฝรั่งเศส ในกลุ่มสแกนดิเนเวีย ก็จะติดต่อเราเข้ามานัดให้เปิดไพ่ให้โดยจะติดค่าดูครั้งละ 30 ดอลลาร์ในราคาเดียว โดยมีวิธีการโอนเงินผ่านหลายรูปแบบแล้วแต่คนดุที่จะสะดวก บางรายไม่มีเงิน แต่ไม่มีกำลังในชะตาชีวิตเราก็ดูดวงให้ฟรี เพราะถือว่าเราช่วยกันในการให้ทางชีวิตแก่เขา จนวันนี้มีคนที่ดูดวงไปให้แล้วหลายพันคน แต่ละคนจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 1 วันเราดูได้ไม่เกิน 8 คนก็หมดพลัง แต่ถ้าใครมีดวงเสี่ยงอันตรายเราจะรีบติดต่อเขาไปทันทีเพื่อให้มีการระวังตัวและไม่ประมาท
พี่ตุ๊กแก บอกว่า ตอนนี้คนที่ให้ตนดูดวงชะตาให้ได้กระจ่ายไปไกลจะทั่วโลกแล้ว แม้ในเอเชีย สิงคโปร์ ไต้หวัน ส่วนใหญ่จะเป็นแม่บ้านที่แต่งงานกับชาวต่างชาติ คนทำงาน นักศึกษา ซึ่งแต่ละที่จะมีรูปแบบชีวิตต่างกัน เช่น คนในอเมริกา จะห่วงและถามเรื่องจะได้รับใบบุคคลสัญชาติอเมริกันเมื่อไหร่ ไม่เครียดมากเหมือนคนในยุโรป เพราะคนในยุโรปจะทำงานเคร่งเครียด จะเน้นเรื่องงานการหางานเป็นหลัก แต่ทุกที่จะเหมือนกันเป็นหลัก คือ เงิน งาน ความรัก การลงทุน ตรงนี้เราก็จะสุขใจที่เขามีไกด์ชีวิตที่อ่านจากไพ่ออกไป
"แต่เรื่องที่เราจะไม่บอกเลย คือ คนดวงชะตาขาด คือจะต้องเสียชีวิตแน่ๆ เช่น เปิดไพ่ยังไงเขามีดวงเสียชีวิตแล้ว เราจะไม่บอกโดยตรง เคยมีกรณีที่คุณแม่ส่งดวงลูกชายมาให้ดู คือ เปิดไพ่ดูแล้วมีดวงจบแล้ว เราก็ไม่บอกตรงๆ ก็จะบอกให้คุณแม่ทำดีที่สุด จนระยะหนึ่งไม่นาน คุณแม่ส่งใบมรณบัตรมาให้ดู และให้การ์ดมาแสดงความขอบคุณบอกว่า เรารู้ใช้มั้ยที่ลูกชายเค้าจะไป แต่ก็ยังส่งกำลังใจให้เขาทำหน้าที่แม่จนนาทีสุดท้าย นี่คือความประทับใจนะ และเรื่องที่จะไม่ดูแน่ๆ คื่อ เรืองสามีภรรยาให้ดูการติดตามหาชู้ เพราะเป็นเรื่องในครอบครัวเราไม่เข้าไปยุ่งอันนี้เราถือมาก”
พี่ตุ๊กแก บอกว่า การที่เราให้ทิศทางในชีวิตเขาเราก็เหมือนได้ทำบุญ เงินที่ได้ส่วนหนึ่งก็จะนำเอาไปทำบุญให้แก่เขา ครูบาอาจารย์ และที่สำคัญตนไม่ใช่ร่างทรง ไม่มีการรับแก่กรรม แต่จะดูดวงจากการผนวกจากการเปิดไพ่ และวันเดือนปีเกิดของแต่ละคน โดยจะมีทะเบียนทำไว้ครบทุกคน ใครมีอะไรไม่ดีเราจะบอกทันที และต้องแบ่งชีวิตในการปฏิบัติธรรมด้วย
นอกจากนี้ เธอยังมีการเปิดไพ่ตามช่วงเวลาให้แก่คนทั่วไปที่จะศึกษาดวงชะตาของตัวเองในราศีต่างๆ บนเฟซบุ๊กทุกวันที่ 20 ของเดือนเพื่อเป็นการให้แนวทางแก่คนที่ไม่มีเงินที่จะดูดวงแบบลึกซึ้ง หรืออยากจะดูแบบเป็นไกด์ให้ชีวิตตัวเองด้วย
ส่วนคนที่ดูดวงให้มาแล้วก็มีหลากหลายอาชีพ และมีคนที่มีชื่อเสียงหลายคนแต่ขอไม่เปิดเผย และไม่น่าเชื่อว่าคนเหล่านั้นจะให้ความสำคัญต่อการดูดวง เช่น การจะทำงานใหญ่ๆ ลงทุนใหญ่ๆ ก็จะโทรศัพท์มาหาให้เปิดไพ่ให้ดูบ่อยครั้งก็มี และคนไทยก็ยังให้ความเชื่อเรื่องนี้ รวมถึงฝรั่ง และคนทั่วโลกก็ยังเชื่อในศาสตร์ของดวงชะตา แต่จะมีศาสตร์ที่แตกต่างกันออกไป ส่วนตนนั้นถือว่าเน้นการดูแบบพิสูจน์ได้นำมาใช้จริงๆ ได้ แต่ก็ขึ้นว่าคนที่จะดูนั้นจะยอมรับ หรือนำไปปรับใช้หรือไม่นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง
พี่ตุ๊กแก กล่าวต่ออีกว่า จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็จะดูดวงให้กับน้องๆ ที่อยู่ในหลายๆ ประเทศทั่วโลก ปัญหาสำหรับน้องๆ ตามประเทศทางอเมริกา กับทางยุโรป และเอเชียก็จะมีปัญหาที่แตกต่างกันไป ซึ่งตรงนี้ถือว่าเราได้รู้ได้เห็นชีวิตของผู้คนมานับไม่ถ้วน จึงเหมือนกับชีวิตน้องๆ หลายๆ คน ก็เป็นครูให้กับเราด้วย เหมือนโรงละครโรงใหญ่ที่ให้ได้ศึกษาไม่มีวันหมด ซึ่งถือว่าเราโชคดีมากๆ และมีความภาคภูมิใจในอาชีพนี้เป็นอย่างยิ่ง
มาจนถึงวันนี้ก็มีน้องๆ ที่สนใจอยากที่จะศึกษาศาสตร์ในการอ่านไพ่ยิปซี จึงมีเสียงเรียกร้องมามาก วันนี้จึงมีความภาคภูมิใจกับคำว่า "ครู" เป็นอย่างมาก ซึ่งในการศึกษาการอ่านไพ่ยิปซีให้แตกฉานนั้น จะว่ายากก็ยาก แต่ก็ไม่เกินความพยายามของเราหากตั้งใจจริง"
ในทางการสอนจะเน้นที่เรื่องการอ่านไพ่ให้เป็นมากกว่าให้จดจำความหมายของไพ่ ซึ่งเรื่องการจดจำนั้นถึงแม้เป็นสิ่งจำเป็นก็จริง แต่ความเข้าใจและการสื่อสารกับไพ่ถือเป็นเรื่องสำคัญกว่ามาก คนที่สามารถจดจำความหมายได้ถือเป็นส่วนดีแต่จะอ่านไพ่อย่างไรให้สอดคล้องกับชีวิตของผู้คน และแตกฉาน ตรงนี้สิเป็นสิ่งที่ยาก
"จึงอยากจะฝากถึงผู้ที่มีปัญหาในเรื่องการอ่านไพ่ให้เป็นว่าประสบการณ์เป็นสิ่งสำคัญต้องหมั่นฝึกฝน และอย่าหมดกำลังใจในการศึกษาศาสตร์นี้ เพราะจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนมนุษย์มาก อีกสิ่งหนึ่งที่เน้นกับลูกศิษย์เป็นประจำคือ เราเป็นหมอดูไพ่ยิปซี เราเปรียบเสมือนคนที่แปลภาษาเท่านั้น เราไม่ใช่ผู้วิเศษ เราอาจจะไม่ได้ถูกต้องทั้งหมด แต่เวลาทำหน้าที่แปลไพ่ เราต้องทำให้ดีที่สุด และต้องมีคุณธรรมด้วย ไม่เอาเปรียบหรือหาประโยชน์จากผู้คนที่เข้ามาขอความช่วยเหลือมากเกินไปด้วยค่ะ" พี่ตุ๊กแก กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามได้ที่เฟซบุ๊ก Julakorn Tanomsup ไลน์ไอดี gypsybytukkae อีเมล Tukkae 2005@gmail.com แต่ผู้สนใจจะดูดวงจากการเปิดไพ่จะมีต้องมีการลงนัดไว้ก่อน เมื่อถึงเวลานัดจะต้องให้เวลากับการเปิดไพ่ 1 ชั่วโมง ซึ่งจะครอบคลุมกับสิ่งที่ถาม และไม่ได้เน้นที่จะให้เชื่อเรื่องการดูดวงจนงมงาย แต่ต้องเชื่อเรื่องกรรม เรื่องการกระทำของตัวเองเป็นหลัก เพราะหากดูแล้วดวงดีแต่ไม่ทำอะไรก็ไม่สามารถจะเกิดเรื่องดีดีได้ ดวงตก ไม่แก้ไขก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากกรรมได้ การหันหน้าเข้าศึกษาหลักธรรม หรือศรัทธาในการศาสนาของตนเองคือสิ่งที่ดีที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี