เป็นข่าวที่ถูกพูดถึงมากในสื่อต่างประเทศแต่ในไทยอาจไม่ค่อยได้รับรู้มากนัก กรณีทางการไทยส่งตัว Sam Sokha หญิงชาวกัมพูชาซึ่งถูกทางการกัมพูชาดำเนินคดีในข้อหา "ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน" และข้อหา "ยุยงปลุกปั่น" เนื่องจากหญิงรายนี้ "ปารองเท้าใส่รูปของสมเด็จฮุน เซน" นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ทำให้เธอต้องหลบหนีข้ามฝั่งมายังประเทศไทยเมื่อปี 2560
การส่งตัวหญิงรายนี้ปรากฏเป็นข่าวเมื่อคืนวันที่ 8 ก.พ.2561 ตามเวลาท้องถิ่นกัมพูชา โดยเว็บไซต์ นสพ.พนมเปญโพสต์ (Phnom Penh Post) ของกัมพูชา ระบุว่า อัตราโทษรวมกันในทุกข้อหาตามความผิดชอง Sam Sokha ทำให้เธอมีโอกาสที่จะถูกจำคุกนานกว่า 3 ปี ขณะที่สำนักข่าวอัล จาซีรา (Al Jazeera) ของกาตาร์ นำเสนอข่าวนี้เมื่อ 11 ก.พ.61 ระบุว่า นอกจากการปารองเท้าใส่รูปของฮุน เซน แล้ว Sam Sokha ยังวิพากษ์วิจารณ์นายกฯ กัมพูชาอย่างรุนแรงด้วยว่า "เมื่อไหร่คนคนนี้จะหยุดทำลายชาติเสียที" นำมาซึ่งการถูกแจ้งข้อหาดังกล่าว
Sam Sokha
ที่มา : Al Jazeera , AP
สำหรับนานาชาติแล้วกรณีแบบนี้ถือเป็น "เรื่องใหญ่" เพราะในหลักสากลมีธรรมเนียมอยู่ว่า "ผู้ลี้ภัยต้องไม่ถูกส่งตัวกลับไปในที่ที่พวกเขาสุ่มเสี่ยงได้รับอันตราย" ซึ่งแม้ไทยจะไม่ได้รับรองอนุสัญญาผู้ลี้ภัยก็ตาม แต่ที่ผ่านมาทางการไทยก็ได้พยายามทำตามหลักมนุษยธรรมดังกล่าวมาโดยตลอด ทั้งนี้รายงานของอัล จาซีรา ระบุว่า Sam Sokha ถูกทางการไทยดำเนินคดีในข้อหาอยู่ในประเทศเกินเวลาที่กำหนด ทั้งที่เธอได้รับสถานะผู้ลี้ภัยจาก สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) และกำลังรอเดินทางไปประเทศที่ 3
กัมพูชาภายใต้การนำของ ฮุน เซน (Hun Sen) หรือชื่อเต็มๆ คือ "สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน" ชายผู้ครองอำนาจในฐานะนายกรัฐมนตรีกัมพูชาอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 2541 แต่หากนับย้อนไปถึงสมัยสงครามกลางเมืองยังไม่สิ้นสุด ต้องบอกว่าเขาคือผู้นำที่ครองอำนาจยาวนานมากคนหนึ่งของโลก โดยเป็น 1 ในผู้นำสูงสุดของกัมพูชา ตั้งแต่ปี 2528 หรือเมื่อราว 3 ทศวรรษก่อน
ฮุน เซน (ภาพเล็กซ้ายบน) เกิดในกำปงจาม เมืองทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงพนมเปญ (ภาพเล็กขวาบน)
ฮุน เซน หรือชื่อเดิมคือ "Hun Bunal" เกิดเมื่อปี 2495 ในครอบครัวชาวนา เป็นบุตรของ Hun Neang อดีตพระสงฆ์ในเมืองกำปงจาม (Kampong Cham) ที่สึกออกมาร่วมขบวนการปลดแอกกัมพูชาจากการปกครองของฝรั่งเศส ฮุน เซน นั้นออกจากบ้านในวัย 13 ปี เพื่อไปเรียนหนังสือกับพระสงฆ์ในกรุงพนมเปญ กระทั่งในปี 2513 เมื่อ นายพลลอนนอล (Lon Nol) ยึดอำนาจการปกครองกัมพูชาโดยการสนับสนุนจาก สหรัฐอเมริกา เขาได้ละทิ้งการเรียนเพื่อเข้าร่วม พรรคคอมมิวนิสต์กัมพูชา (Communist Party of Kampuchea) จุดเริ่มต้นแรกทางการเมืองของเขา
อย่างไรก็ตาม ในอัตชีวประวัติของฮุน เซน และประเทศกัมพูชา ที่รวบรวมโดยสำนักข่าว BBC ของอังกฤษ ระบุว่า ฮุน เซน ผู้สูญเสียดวงตาข้างซ้ายจากการสู้รบในสงครามกลางเมืองกัมพูชา ปฏิเสธว่าเขาไม่ใช่สมาชิกของ "กลุ่มเขมรแดง" (Khmer Rouge) ที่ก่อเหตุฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวกัมพูชาจนมีผู้เสียชีวิตนับล้านคน ระหว่างปี 2518-2522 โดยเขมรแดงนั้นเป็นขั้วอำนาจหนึ่งที่แตกออกมาจากพรรคคอมมิวนิสต์กัมพูชา ซึ่งช่วงที่เขมรแดงครองอำนาจ ฮุน เซน นั้นหลบหนีข้ามฝั่งไปยัง เวียดนาม เพื่อเข้าร่วมกับกองกำลังต่อต้านเขมรแดง
กองกะโหลกศีรษะเหยื่อฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวกัมพูชา ภายใต้การปกครองของกลุ่มเขมรแดงที่มี "พอล พต" (ภาพเล็กขวาบน) เป็นผู้นำ
ที่มา : https://www.britannica.com/topic/Khmer-Rouge
และแม้ในปี 2522 กองกำลังชาวกัมพูชาที่ได้รับการสนับสนุนจากเวียดนามจะสามารถโค่นล้มการปกครองอันโหดร้ายของกลุ่มเขมรแดงลงได้ และฮุน เซน ได้เป็นนายกฯ ในปี 2528 แต่ระหว่างนั้นกัมพูชายังเต็มไปด้วยความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างขั้วอำนาจต่างๆ บางยุคสมัยถึงขั้น "1 ประเทศ มีนายกรัฐมนตรี 2 คน" กว่าทุกอย่างจะสงบลงก็ต้องรอจนถึงปี 2541 ซึ่ง พรรคประชาชนกัมพูชา (Cambodian people’s party-CPP) ของฮุน เซน ชนะเลือกตั้งและฮุน เซน ได้เป็นนายกฯ เพียงหนึ่งเดียว
ตลอดช่วงเวลาการปกครองของฮุน เซน เขาถูกตั้งข้อสังเกตจากขั้วการเมืองที่อยู่ตรงข้ามเสมอว่าเป็น "หุ่นเชิดของเวียดนาม" ทั้งโดยเส้นทางความรุ่งโรจน์ทางการเมืองของฮุน เซน นั้นเริ่มต้นจากวันที่เขานำกองกำลังที่ได้รับการสนับสนุนจากเวียดนามกลับมาขับไล่เขมรแดงในปี 2522 แน่นอนว่าเขาปฏิเสธมาตลอด อย่างไรก็ตาม นั่นไม่เท่ากับข้อกล่าวหาว่าด้วยการใช้นโยบายที่ "ละเมิดสิทธิมนุษยชน" อย่างรุนแรงต่อพลเมืองกัมพูชา
"Country for Sale" รายงานจากองค์กร Global Witness ซึ่งเป็นองค์กรพัฒนาเอกชน (NGO) ระหว่างประเทศที่ทำงานด้านแก้ไขปัญหาการพัฒนาที่ก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางสังคมหรือกระทบต่อสิ่งแวดล้อม วิเคราะห์การพัฒนาเศรษฐกิจของกัมพูชาที่พบว่าท้ายที่สุดมีแต่ชนชั้นนำเท่านั้นที่ได้ประโยชน์
ที่มา : https://www.globalwitness.org/en/reports/country-sale/
สำนักข่าว BBC ของอังกฤษ เคยนำเสนอรายงานพิเศษเรื่อง "Cambodia: A land up for sale?" ในปี 2552 และ "Has Cambodia become a country for sale?" ในปี 2554 ระบุว่า รัฐบาลกัมพูชาใช้สารพัดวิธีการเพื่อ "นำที่ดินของชาวบ้านไปให้กรรมสิทธิ์กับนายทุน" อาทิ มีการเรียกร้องให้ชาวบ้านตัดแบ่งที่ดินมอบให้รัฐเพื่อนำไปเป็นสวัสดิการแก่ทหารที่พิการ แต่เมื่อส่งมอบแล้วฝ่ายรัฐกลับนำที่ดินไปให้ภาคเอกชนลงทุนปลูกยางพารา หรือมีชาวบ้านที่ไม่รู้หนังสือถูกหลอกไปงานเลี้ยง ให้ดื่มเหล้าจนเมามายแล้วประทับลายนิ้วมือบนสัญญายกที่ดินให้รัฐ
การขับไล่ชาวบ้านออกจากที่ดินเพื่อนำไปมอบให้กับนักลงทุนหลายรายซึ่งถูกระบุว่ามีสายสัมพันธ์กับคนในรัฐบาลกัมพูชาเกิดขึ้นทั่วไปทั้งในเมืองและชนบท โดยในปี 2548 ที่ดินร้อยละ 15 ของประเทศอยู่ในการครอบครองของบริษัทขนาดใหญ่ โดยมี 3 แห่งเป็นบริษัทต่างชาติ ด้วยสัญญาเช่าที่บริษัทเอกชนยืนยันกับรัฐบาลกัมพูชาว่าจะช่วยให้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น แต่วิธีการนั้นโหดร้าย มีทั้งการรื้อบ้านและการส่งทหารมายิงปืนข่มขู่เพื่อกับไล่ชาวบ้านออกไปจากพื้นที่ ส่วนฝ่ายนายทุนบอกว่าบางครั้งพวกเขาจำเป็นต้องทำเช่นนั้นเพราะชาวบ้านไม่เข้าใจข้อกฎหมาย
นโยบายดังกล่าวขยายตัวอย่างรวดเร็ว รายงานจาก นสพ.The Guardian ของอังกฤษ ระบุว่า ในปี 2550 มีชาวกัมพูชาราว 1.5 แสนคน ถูกขับไล่ออกจากที่ดินของตน โดยรัฐบาลฮุน เซน นำเอาที่ดินร้อยละ 45 ของที่ดินทั้งหมดในประเทศไปให้เอกชนเช่าทำประโยชน์ และที่ดินบางส่วนนั้นพบว่าเป็นพื้นที่ป่าและอุทยาน โดยธนาคารโลก (World Bank) ระบุว่า ในปี 2549 มีชาวกัมพูชาในกรุงพนมเปญต้องกลายเป็นคนไร้บ้านถึง 4 หมื่นคน
สถานีโทรทัศน์ที่ถูกระบุว่ามีสายสัมพันธ์กับฮุน เซน และรัฐบาลกัมพูชา
ฮุน เซน และรัฐบาลพรรค CPP ยังถูกมองว่า พยายามควบคุมสื่อสารมวลชนในประเทศ อาทิ Hun Mana บุตรสาวของฮุน เซน เป็นเจ้าของสถานีโทรทัศน์ Bayon Television , สถานีโทรทัศน์ Apsara TV มีเจ้าของร่วมคือ Say Sam Al รัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นบุตรชายของ Say Chhum รองประธานพรรค CPP ขณะที่ช่อง CTN CNC และ MyTV มีเจ้าของคือ Neak "Okhna" Kith Meng นักธุรกิจชาวกัมพูชาเชื้อสายจีน ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเครือข่ายของพรรค CPP
นอกจากการมีสื่อในมือของตนเองแล้ว รัฐบาลฮุน เซน ยังสั่งห้ามออกอากาศสถานีวิทยุ Voice of America และสถานีวิทยุ Radio Free Asia 2 คลื่นที่มีรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ดูแล เมื่อเดือน ส.ค.2560 รวมถึงสั่งปิดหนังสือพิมพ์ The Cambodia Daily ในเดือน ก.ย. ปีเดียวกัน ภายหลังการจับกุม Kem Sokha ผู้นำฝ่ายค้านคนหนึ่งในกัมพูชา ด้วยข้อหาจารกรรมและบ่อนทำลายชาติ
"คู่ปรับ" ฮุน เซน แห่งพรรค CPP (ซ้าย), สม รังสี แห่งพรรค CNRP (ขวา)
อนึ่ง..แม้กัมพูชาจะมีการเลือกตั้งทุกๆ 5 ปี แต่เป็นที่ทราบกันว่าพรรคฝ่ายค้านจะถูกขัดขวางทุกวิถีทางมิให้สามารถหาเสียงได้ โดยเฉพาะกับคู่แข่งคนสำคัญของฮุน เซนอย่าง สม รังสี (Sam Rainsy) ซึ่งเป็นผู้นำ พรรคสงเคราะห์ชาติกัมพูชา (Cambodia National Rescue Party-CNRP) ที่มักวิพากษ์วิจารณ์นายกฯฮุน เซน อย่างดุเดือด จนปัจจุบันต้องลี้ภัยทางการเมืองอยู่ในฝรั่งเศส พร้อมกับพรรค CNRP ที่ถูกยุบไปเมื่อเดือน พ.ย. 2560 ทำให้การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 29 ก.ค.2561 ฮุน เซน และพรรค CPP "ไร้คู่แข่ง" อย่างสิ้นเชิง
จึงไม่ต้องแปลกใจที่การส่งตัว Sam Sokha จากไทยกลับไปกัมพูชานั้นจะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากจากองค์การด้านสิทธิมนุษยชนนานาชาติ อาทิ รายงานของพนมเปญโพสต์ อ้างคำให้สัมภาษณ์ของ Phil Robertson รองผู้อำนวยการองค์กร ฮิวแมน ไรท์ วอทซ์ (Human Rights Watch) ประจำภูมิภาคเอเชีย ที่ตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลของไทยซึ่งเป็นเผด็จการทหาร กระทำการดังกล่าวเพื่อพยายาม "ผูกมิตร" กับฮุน เซน ใช่หรือไม่?
เช่นเดียวกับรายงานของอัล จาซีรา ที่อ้างคำให้สัมภาษณ์ของ Brad Adams ผู้อำนวยการองค์กรฮิวแมน ไรท์ วอทซ์ (Human Rights Watch) ประจำภูมิภาคเอเชีย ระบุว่า ทางการไทยส่งตัว Sam Sokha กลับไปกัมพูชาทั้งที่ทราบดีอยู่แล้วว่าสถานทูตชาติตะวันตกรวมถึง UNHCR กำลังจะช่วยให้เธอได้ลี้ภัยไปประเทศที่สาม และเรียกร้องให้ชาวไทยแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับการกระทำเช่นนี้ และแสดงความกังวลว่าทางการไทยอาจทำแบบเดียวกันกับผู้ลี้ภัยรายอื่นๆ อีก พร้อมกับเรียกร้องให้ทางการกัมพูชาปล่อยตัว Sam Sokha เพื่อให้ได้ลี้ภัยไปยังประเทศที่ 3
อังคณา นีละไพจิตร
ด้านกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) ประเทศไทย อังคณา นีละไพจิตร กล่าวกับทีมงาน "แนวหน้าออนไลน์" เมื่อ 12 ก.พ. 2561 ว่าเท่าที่ติดตามทราบว่า หญิงชาวกัมพูชารายนี้ถูกทางการไทยจับกุมเมื่อ 5 ม.ค.2561 ในข้อหาอยู่ในประเทศไทยเกินระยะเวลาที่กำหนด ต่อมาวันที่ 12 ม.ค.61 ทนายความได้ยื่นคำร้องไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อขอไม่ให้ถูกส่งตัวกลับ และล่าสุด เมื่อช่วงต้นเดือน ก.พ. 2561 ได้ยื่นขออุทธรณ์ต่อศาลเนื่องด้วยเกรงว่า หากส่งตัว Sam Sokha กลับไปยังกัมพูชาอาจจะเกิดอันตรายขึ้นกับเธอได้ แต่ก็มาถูกส่งตัวกลับไปเสียก่อน
อังคณา กล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศของไทยชี้แจงว่า การส่งตัว Sam Sokha กลับไปยังกัมพูชานั้นเชื่อว่า จะไม่เป็นการผลักดันให้ต้องไปเผชิญกับอันตรายนั้น แม้ประเทศไทยจะไม่ได้ลงนามในอนุสัญญาว่าด้วยผู้ลี้ภัย แต่ อนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้ายไร้ มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี ซึ่งไทยได้ไปลงนามไว้ ในข้อ 3 (1) ก็กำหนดว่ารัฐภาคีต้องไม่ส่งคนกลับไปยังรัฐที่มีเหตุให้เชื่อได้ว่าบุคคลที่ถูกส่งกลับนั้นจะเป็นอันตรายจากการถูกทรมาน ดังนั้น ทางการไทยก็ต้องปฏิบัติตามอนุสัญญาดังกล่าว
“เรื่องนี้น่าห่วงใย ปัญหาคือส่งกลับไปแล้ว สิ่งที่จะทำได้คือรัฐบาลไทยโดยกระทรวงการต่างประเทศควรจะติดตาม ว่าส่งกลับไปแล้วเขาได้รับการปฏิบัติตามหลักมนุษยธรรม ตามหลักสิทธิมนุษยชนครบถ้วนไหม เพื่อยืนยันว่าเขาได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย" กสม. ประเทศไทย ระบุ
ย้อนไปไม่ไกลเพียงไม่กี่เดือน แต่ห่างไปคนละทวีป โรเบิร์ต มูกาเบ (Robert Mugabe) อดีตผู้นำการปลดปล่อยอาณานิคม "โรดีเซีย" (Rhodesia) ในทวีปแอฟริกา จากการยึดครองของ อังกฤษ ก่อนเปลี่ยนชื่อประเทศเป็น ซิมบับเว ผู้ซึ่งเปลี่ยนตนเองจาก "วีรบุรุษประชาธิปไตย" ที่ชนะการเลือกตั้งในปี 2523 กลายเป็น "จอมเผด็จการ" ในฐานะผู้นำสูงสุดตลอดกาล ตั้งแต่ปี 2530 ถูกกองทัพทำรัฐประหารโค่นอำนาจลงเมื่อ 15 พ.ย. 2560
มูกาเบนั้นแตกต่างจากฮุน เซน อยู่บ้าง ในขณะที่ฮุน เซน วัยหนุ่มละทิ้งการเรียนไปใช้ชีวิตเป็นนักรบเต็มตัว มูกาเบ ในวัยหนุ่มนั้นมีความเป็นนักวิชาการผู้คงแก่เรียนมากกว่า จากการสอบได้ทุนไปเรียนต่อมหาวิทยาลัย Fort Hare สถาบันการศึกษาชั้นนำแห่งหนึ่งในประเทศแอฟริกาใต้ และเคยประกอบอาชีพเป็นครูก่อนหันมาเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่สิ่งที่เหมือนกันคือทั้งคู่ "เริ่มต้นในฐานะวีรบุรุษของชาติ" ก่อนจะขอ "ครองอำนาจอยู่ยาวๆ" จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งด้วยการใช้ทุกวิถีทางสกัดคู่แข่งทางการเมือง และความเป็นอยู่ที่ลำบากยากจนของประชาชน
วันนี้มูกาเบพ้นจากอำนาจไปแล้ว..ส่วนฮุน เซนนั้นยังอยู่ และเจ้าตัวยังมั่นใจว่าจะได้อยู่ไปอีกนาน ถึงขนาดที่กล่าวไว้เมื่อปลายปี 2560 ว่าพร้อมจะเป็นนายกฯ ต่อไปอีก 10 ปี!!!
ขอบคุณข้อมูลจาก
‘Shoe thrower’ Sam Sokha deported from Thailand : 8 ก.พ. 2561
Cambodia dissident in jail after Thailand deportation : 11 ก.พ. 2561
https://en.wikipedia.org/wiki/Hun_Sen
Profile: Cambodia's Hun Sen : 26 ก.ค. 2556
Cambodia profile - Timeline : 5 ก.ย. 2560
Cambodia: A land up for sale? : 12 ส.ค. 2552
Has Cambodia become a country for sale? : 13 ม.ค. 2554)
Country for sale : 26 เม.ย. 2551
https://en.wikipedia.org/wiki/Sam_Rainsy
พรรคฮุนเซนไร้คู่แข่งหลักเลือกตั้ง 2018 หลังศาลสั่งยุบ CNRP : 16 พ.ย. 2560
'โรเบิร์ต มูกาเบ' จากครูสู่นักสู้ทางการเมือง เริ่มต้นด้วยประชาธิปไตย จบลงอย่างจอมเผด็จการ : 16 พ.ย. 2560
'ฮุนเซน'ประกาศจะเป็น'นายก'ต่ออีก10ปี : 27 ธ.ค. 2560
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี