วันเสาร์ ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
ต้นไม้...มัจจุราชริมทาง!?!?! ‘น้องอิน’อีกหนึ่งความสูญเสียล่าสุด

ต้นไม้...มัจจุราชริมทาง!?!?! ‘น้องอิน’อีกหนึ่งความสูญเสียล่าสุด

วันอาทิตย์ ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2561, 19.18 น.
Tag : Like สาระ ต้นไม้ริมทาง มัจจุราช น้องอิน ดาราเด็ก เผาร่างน้องอิน วัดราชสิงขร โพสต์เศร้า บางปะอิน เชิญดวงวิญญาณ ไมล์รถ
  •  

ต้นไม้...มัจจุราชริมทาง!?!?! ‘น้องอิน’อีกหนึ่งความสูญเสียล่าสุด

“น้องอิน”...         


น.ส.ณัฐนิชา เชิดชูบุพการี อายุ 20 ปี อดีตนักแสดงเด็กชื่อดัง ที่ประสบอุบัติเหตุขับรถยนต์ BMW รุ่น X1 สีขาว เสียหลักตกลงไปข้างทาง และแรงกระแทกจากตัวรถที่พุ่งชนเข้ากับ “ต้นจามจุรีขนาดใหญ่” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้ “น้องอิน” จากไปอย่างไม่มีวันกลับ เหตุเกิดบนถนนทางหลวงหมายเลข 9 อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา

กลายเป็นอีกหนึ่ง “ความสูญเสีย” ที่ทำให้เกิด “คำถาม” ถึงเรื่องการปลูก “ต้นไม้ใหญ่ข้างทาง” ว่ามีความปลอดภัยมากน้อยเพียงใด แน่นอนว่า “มุมหนึ่ง” การมีต้นไม้ใหญ่บริเวณทางหลวง ถือเป็นการสร้างความ “ร่มรื่น” และชี้วัดถึงสภาพพื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์

ทว่า...อีกมุมหนึ่งความร่มรื่นนั้น อาจกลายเป็น “มัจจุราช” ที่ฉุดคร่าชีวิตผู้คนไปจากคนที่รักอย่างไม่มีวันกลับ หากต้นไม้เหล่านั้น “ปลูก” หรือเกิดขึ้นอย่างไม่สอดคล้องกับ “ความปลอดภัย”

กองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน หรือ “กปถ.” กรมการขนส่งทางบก ให้ข้อมูลไว้ว่า อุบัติเหตุจากการ “ขับรถชนต้นไม้” นับเป็นอีกหนึ่งสาเหตุการเสียชีวิตของผู้ขับขี่ที่ไม่ควรมองข้าม เพราะหากรถเสียหลักหลุดออกจากถนน และชนต้นไม้ด้วย “ความเร็ว 60 กม./ชม.” แรงปะทะจากการชนจะเทียบเท่ากับรถตกจากที่สูง 14 เมตรหรือเท่ากับตกจากตึก 5 ชั้น

ที่น่ากลัวไปกว่านั้น...“อันตราย” จะมีความรุนแรงมากขึ้น หากรถพุ่งชนต้นไม้ด้วยความเร็ว 100 กม./ชม. เพราะจะเทียบเท่ากับรถตกจากที่สูง 39 เมตร หรือตกจากตึก 13 ชั้น

“กปถ.” ระบุว่า ดังนั้นการปลูก “ต้นไม้ริมถนน” ที่ถูกต้องตามหลักความปลอดภัยนั้น ต้องเว้นพื้นที่ข้างทาง และปราศจากวัตถุอันตราย หรือสิ่งกีดขวาง เพื่อความปลอดภัยสำหรับรถที่ “เสียหลัก” หลุดออกจากถนน ซึ่งเรียกพื้นที่ดังกล่าวนี้ว่า “เขตปลอดภัย” โดยจากการศึกษาก็พบว่าการเพิ่มระยะเขตปลอดภัยหรือระยะห่างอุปกรณ์ข้างทาง เพียง 6 เมตร จะช่วยลดอุบัติเหตุได้มากถึงร้อยละ 44

ขณะที่ข้อมูลจาก “กรมทางหลวง” ระบุว่า การปลูกต้นไม้ริมถนนเพื่อเสริมภูมิทัศน์ ป้องกันแสงไฟจากรถในช่องถนนตรงข้าม แต่หากปลูกต้นไม้ “ผิดวิธี” จะกลายเป็นองค์ประกอบที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุที่รุนแรง

ทั้งนี้ การปลูกต้นริมถนนที่ถูกต้อง ควรเว้นพื้นที่ข้างทางที่ปราศจากวัตถุอันตราย หรือสิ่งกีดขวาง ที่เรียกว่า clear zone ซึ่งเป็น “ระยะปลอดภัย” ตามลักษณะของถนน เช่น ถนนที่ใช้ความเร็วสูงอย่าง “มอเตอร์เวย์” ควรมีพื้นที่ว่าง 15 เมตร ถนนที่ใช้ความเร็วทั่วไป มีพื้นที่ว่าง 9 เมตร ถนนที่ใช้ความเร็วปานกลาง มีพื้นที่ว่าง 5 เมตร และถนนที่ใช้ความเร็วต่ำ มีพื้นที่ว่าง 2-3 เมตร และขนาดของต้นไม้ควรมีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 4 นิ้ว

ไม่เช่นนั้น...ต้นไม้จะเป็นปัจจัยเพิ่มแรงในการชน เพิ่มความเสี่ยงในการ “ฆ่าคน” ได้!!!

ขณะเดียวกันมีผลการศึกษาของ “นายศาสตราวุฒิ พลบูรณ์” คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย พบว่า ต้นไม้ข้างทางที่ถือว่ามีอันตราย คือ ต้นไม้ที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 10 เซนติเมตรขึ้นไป และความเร็วปะทะของรถยนต์มากกว่า 40 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทั้ง 2 ปัจจัยส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุที่รุนแรง สิ่งที่จะช่วยลดความรุนแรงของอุบัติเหตุได้ คือ พื้นที่ข้างทางที่ปราศจากวัตถุอันตรายหรือสิ่งกีดขวาง หรือ clear zone เพื่อความปลอดภัยสำหรับรถที่อาจเสียหลักหลุดจากถนน

พื้นที่ว่างข้างทางนับจากเขตไหล่ทางเป็นต้นไป ที่มีขนาดน้อยที่สุด คือ กว้าง 1.5 เมตร จะช่วยลดอุบัติเหตุในถนนทางตรงได้ ร้อยละ 12 ทางโค้ง ร้อยละ 9 , พื้นที่ว่างขนาด 2.4 เมตร ลดอุบัติเหตุในถนนทางตรงได้ ร้อยละ 21 ทางโค้ง ร้อยละ 14 , พื้นที่ว่างขนาด 3 เมตร ลดอุบัติเหตุในถนนทางตรงได้ ร้อยละ 25 ทางโค้ง ร้อยละ 17 และพื้นที่ว่างขนาด 5 เมตร ลดอุบัติเหตุในถนนทางตรงได้ ร้อยละ 35 ทางโค้ง ร้อยละ 23

ด้าน “ดร.นรบดี สาละธรรม” ผู้เชี่ยวชาญด้านอุบัติเหตุทางท้องถนน สมาคมวิทยาการจราจรและขนส่งแห่งประเทศไทย เคยให้ข้อมูลไว้ว่า หากจะปลูกต้นไม้บริเวณเกาะกลาง หรือไหล่ทางด้านซ้าย ก็ควรเลือกต้นไม้ที่ขนาดไม่ใหญ่และรากไม่ลึกมากนัก โดยวัดความสูงจากรากขึ้นมาประมาณ 1 เมตร ขนาดเส้นรอบวงหรือความกว้างของต้นไม้ ไม่ควรเกิน 30 ซม. แนวทางที่เหมาะสมคือการปลูกไม้พุ่มสลับกับไม้ยืนต้น แต่เจ้าหน้าที่ต้องทำการตัดแต่งกิ่งไม้ตลอดเวลา

ทั้งนี้ อุบัติเหตุที่ทำให้เสียชีวิตในหลายกรณี พบว่าต้นไม้ใหญ่ข้างทางมีส่วนสำคัญมากๆ ที่เป็นตัวเสริมความรุนแรง แต่หากจะปลูกก็ควรเลือกที่ลำต้นไม่ใหญ่มาก และเป็นชนิดที่สามารถช่วยลดแรงปะทะการพุ่งชนได้ โดยความสูงที่เหมาะสมไม่ควรเกินระดับสายตาผู้ขับขี่ และระยะการปลูกต้องไม่ถี่มากจนเกินไป

“ตามหลักของความปลอดภัย ต้นไม้ที่ไม่ควรปลูกริมถนน คือ ต้นไม้ที่หยั่งรากลึก แกนไม้เนื้อแข็ง และต้นไม้ที่โตเร็ว เช่น ต้นกระถินณรงค์ ต้นประดู่ ต้นจามจุรี และต้นตีนเป็ด เนื่องจากต้นไม้ที่มีขนาดเส้นรอบรูป 30 ซม. วัดที่ตำแหน่งความสูงลำต้นจากพื้นดินขึ้นมา 1 เมตร หรือมีขนาดเทียบเท่าขวดน้ำอัดลมขนาด 1.25 ลิตร ก็จะสามารถทำอันตรายเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้ ส่วนต้นกล้วยริมถนน แม้ว่าจะลดแรงกระแทกได้ แต่ไม่แนะนำ เพราะในระยะยาว กอกล้วยจะปิดบังเส้นทางการไหลของน้ำริมถนน ก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดอุบัติเหตุได้เช่นกัน”

ที่สำคัญต้องมีการเว้นระยะปลอดภัย หากเป็นบริเวณไหล่ทางด้านซ้าย ตามมาตรฐานสากลต้องเว้นพื้นที่ 9-12 เมตร ส่วนบริเวณร่องกลางถนนควบคุมค่อนข้างยาก เนื่องจากขึ้นอยู่กับลักษณะพื้นที่ แต่ก็มีแนวทางป้องกันคือการติดตั้งราวกันอันตราย หรือ GUARD RAIL

นอกจากนี้ การจะช่วยป้องกันไม่ได้รถออกนอกช่องทาง และเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ได้นั้น ยังควรติดตั้ง “ลูกเนินสะท้อนแสง” หรือ “หมุดเป้าสะท้อนแสง” ข้างทางทุก 15-20 เมตร ข้างเส้นขอบทางสีขาว เพื่อเตือนให้ผู้ขับขี่ที่ “หลับใน” หรือขับรถด้วยความเร็วสูง รู้ตัวว่ากำลังออกนอกช่องจราจรเมื่อเหยียบลูกเนิน

อีกแนวทางหนึ่งคือการทำ “เส้นสีขาว” เป็นลูกเนินตลอดทางจุดเสี่ยง แต่ปัญหาคือวิธีนี้ใช้งบประมาณค่อนข้างสูง รวมไปถึงการทำสภาพร่องกลางถนนให้พื้นล่างไม่แข็งเกินไป เพื่อรองรับแรงกระแทกและไม่ทำให้รถที่ตกลงไปสไลด์ขึ้นไปขวางอีกช่องจราจร

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะปรับปรุงสภาพถนน และวัตถุอันตรายข้างทางให้ดีเพียงใด แต่การลดปัจจัยเกิดเหตุด้วยการขับขี่อย่าง “ระมัดระวัง”  โดยไม่ใช้ความเร็วที่สูงเกินไป น่าจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ หรือหากเกิดขึ้นก็จะไม่รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

เตือน! สัปดาห์เดียวป่วยโควิด พุ่ง 8,000 ราย ระบาดหนักกว่าไข้หวัดใหญ่ 2 เท่า

'เอกนัฏ'ส่ง สุดซอย ปูพรมกวาดล้าง ปิดตาย โรงงานเหล็กผี IF จัดโทษหนัก เช็คบิล ขรก.มีเอี่ยว

'เด็ก-สตรี'อพยพมาพึ่งศูนย์พักพิง หลัง'อินเดีย-ปากีสถาน'เปิดฉากโจมตีปะทะเดือดรายวัน

สืบกระทุ่มแบนบุกรวบ 2 ตีนแมวคารังนอนพร้อมอาวุธปืน

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved