11 มิ.ย.61 ประชาชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีภาษาท้องถิ่นสื่อสารกัน เรียกว่า ภาษาอีสาน เป็นเอกลักษณ์ รวมถึงมีบทเพลงที่ไพเราะ หวานซึ้ง กินใจ เร้าใจ เรียกว่า เพลงหมอลำ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษรุ่นสู่รุ่นมาช้านานเป็นจุดเด่น ซึ่งบทเพลงหมอลำ จะไพเราะสนุกสนานได้จะต้องมีเครื่องดนตรีประกอบ เช่น แคน กลอง ฉิ่ง ฉาบ และที่ขาดไม่ได้ก็คือ พิณและซุง เพราะถือว่าเป็นหัวใจหลักในการบรรเลงบทเพลงหมอลำที่สุดแสนจะไพเราะ
สำหรับ พิณและซุง เป็นเครื่องดนตรีพื้นเมืองประเภทดีด ที่ชาวอีสานรู้จักกันดีมาช้านาน โดยนำมาบรรเลงควบคู่กับแคนประสานเสียงกับบทเพลงหมอลำได้อย่างลงตัว ด้วยท้วงทำนอง ที่เร้าร้อน คึกคัก ตามแบบฉบับชาวอีสาน ใครได้ฟังจะต้องขยับแข้งขยับขาตามแบบไม่รู้ตัว เพราะมันในอารมณ์
นายอัมพร ขันแก้ว อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89 หมู่ที่ 13 บ้านสร้างถ่อใน ต.สร้างถ่อน้อย อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ ครูเพลงหมอลำ ซึ่งค่ำหวอดอยู่กับคณะหมอลำ แต่งเพลงให้นักร้องหมอลำมาหลายปี มีความต้องการที่จะอนุรักษ์ เครื่องดนตรีพื้นเมือง ประเภทดีด คือ พิณและซุง ไม่ให้สูญหาย จึงมีการเปิดสอนให้เด็กนักเรียนและเยาวชนในพื้นที่เข้ามาศึกษา ฝึกหัด การดีดพิณและซุง สามารถเล่นเป็นเพลงได้และจบไปแล้วหลายรุ่น ทำให้เด็กและเยาวชนในหมู่บ้าน มีงานทำ มีอาชีพติดตัว เป็นศิลปินกับคณะหมอลำ ที่สำคัญทำให้เยาวชนในหมู่บ้านห่างไกลยาเสพติดอีกด้วย
นายอัมพร ขันแก้ว บรมครูเพลงหมอลำ เล่าว่า บิดา เป็นศิลปินพื้นบ้าน(หมอลำ) สามารถเล่นได้ทั้งพิณและซุง รวมถึง ผลิตให้คณะหมอลำเป็นประจำ บางครั้งก็ถูกว่าจ้างให้ไปเดี่ยวพิณ เดี่ยวซุงในงานพิธีมงคลต่างๆทั้งภาคอีสาน ซึ่งตนก็ได้ติดตามบิดาทุกหนทุกแห่ง ระหว่างที่ได้ติดตามบิดาไปเล่น ก็ได้มีการศึกษาเรียนรู้ควบคู่กันไป จึงมีความเชี่ยวชาญการเล่นและผลิตพิณและซุงเป็นอย่างดี
กระทั่งบิดาเสียชีวิต ก็ได้มีการสืบทอดเจตนารมณ์ของบิดา เป็นเวลากว่า 60 ปี เพื่อเป็นการอนุรักษ์ศิลปะดินตรีแบบโบราณนี้ไว้ ที่ผ่านมาก็เปิดสอนเด็กนักเรียน เยาวชนในหมู่บ้านจบไปหลายรุ่นแล้ว โดยสอนวิธีการเล่นพิณและซุงอย่างถูกต้อง ทำให้เด็กที่จบออกไปนำเอาความรู้ที่ได้รับไปประกอบอาชีพกับคณะหมอลำ หรือไม่ก็ไปรับจ้างเล่นตามงานพิธีมงคลหรืองานวัดต่างๆเรียกว่า มีงานเล่นตลอดเวลา
นายอัมพร บอกถึงวิธีผลิตพิณและซุงพอเข้าใจว่า ไม้ที่ใช้ทำพิณและซุงมี 3 ชนิด คือ ไม้ขนุน ประดู่ และไม้พยุง โดยใช้ไม้ยาว 1 เมตร หน้ากว้าง 10 เซนติเมตร แปรรูปเป็นตัวพิณและซุง และใช้คอนแทคและตัวคีย์ มี 11 ตัว จากนั้นใส่สาย 2 เส้น 3 เส้น 4 เส้นตามความต้องการ แล้วทำการปรับเทียวเสียงให้เข้ากับโน้ตสากล เมื่อปรับเทียบเสียงถูกต้องแล้ว ก็ทำการตกแต่งลวดลายต่างๆ เช่น ลายกนก ลายมังกรและบายพญานาค บนเนื้อไม้พิณและซุงต่อมา ลงแลคเกอร์เพื่อความสวยงาม
สำหรับข้อแตกต่างระหว่างพิณและซุง คือพิณจะใช้สานกีตาร์ มีเสียงแหลม เพราะไม่ได้เจาะเป็นโพรง แต่จะเจาะเป็นรูเท่านั้น ซึ่งจะดีดคู่กับเสียงร้องเพลงหมอลำผู้หญิง เล่นกับหมอลำซิ่งในปัจจุบัน ส่วนซุง ใช้สายลวดเบรกรถจักรยาน ซึ่งเป็นเกลียวที่แข็งแรงกว่าสายกีตาร์ เมื่อดีดแล้วจะให้เสียทุ้มกังวาน เพราะเจาะเป็นโพรง ส่วยใหญ่จะเล่นกับคณะหมดลำย้อนยุค และที่สำคัญการดีดพิณจะต้องดีดทีละสาย ส่วนการดีดซุงจะดีดทุกสาย นั่นคือข้อแตกต่างของเครื่องดนตรีทั้ง 2 ชิ้น
ส่วนราคาขายพิณและซุง เริ่มตั้งแต่ 500 - 5,000 บาท ก็ขึ้นอยู่กับลูกค้าจะต้องการแบบไหน ซึ่งปัจจุบันนี้ก็ยังคงผลิตพิณและซุงป้อนคณะหมอลำ บางครั้งก็แต่งบทเพลงหมอลำแถมให้ด้วย เพื่อเป็นการเผยแพร่ศิลปะพื้นเมืองของชาวอีสานให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ บริเวณหลังบ้านได้กั้นที่จำนวน 2 งาน สำหรับปลูกพืชสมุนไพรหลากหลายชนิด เพื่อทำเป็นยารักษาโรค ทั้งแบบต้มรับประทาน หรือ แบบเคี้ยวสด ก็มีไว้บริการแก่ผู้สนใจแบบฟรีๆ ไม่ว่าจะเป็นสมุนไพรหญ้ารีแพร หมามุ่ยญี่ปุ่น ซึ่งเมื่อขนถูกร่างกายจะไม่คันเหมือนหมามุ่ยไทย มีสรรพคุณ เพิ่มพลังทางเพศ ,ว่านชมจันทร์ นำไปต้มกิน 1 หม้อ จะทำให้ร่างกายไม่หย่อนยาน เป็นยาระบาย ส่วน ถั่วดาวจินทรา มีสรรพคุณ แก้เหน็บชาตามมือ ตามเท้า เป็นต้น
หากใครสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม หรือ ต้องการยาสมุนไพรรักษาโรค ก็ติดต่อไปที่ นายอัมพร ขันแก้ว บ้านเลขที่ 89 หมู่ที่ 13 บ้านสร้างถ่อใน ต.สร้างถ่อน้อย อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ ได้ทุกวัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี