จากกระแสข่าวที่มีพระเถระชั้นผู้ใหญ่หลายรูปถูกเจ้าหน้าที่กองปราบปรามบุกเข้าจับกุมดำเนินคดีในข้อหาฟอกเงิน หรือคดีทุจริตเงินทอนวัดล็อตที่ 3 จนมีคำถามเกิดขึ้นจากหลายฝ่ายว่า เรายังจะนับถือและทำบุญกับพระสงฆ์ทั่วไปได้อย่างบริสุทธิ์ใจอีกหรือไม่ ???
นอกจากนี้ยังมีข่าวเกี่ยวกับพระเข้าไปมีส่วนพัวพันกับสีกาในทำนองชู้สาว และมีข่าวเกี่ยวกับพระตุ๊ด พระเกย์ตามมาอีกเป็นระลอกๆ จนเกิดผลกระทบต่อจิตใจของชาวพุทธ เนื่องจากคนไทยส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธและถูกปลูกฝังให้ทำบุญโดยการเข้าวัด เพราะเป็นวิธีที่ทำให้สบายใจมาตั้งแต่เด็ก
วันนี้ "ทีมข่าวแนวหน้าออนไลน์" ได้ไปสอบถามความคิดเห็นของสาววัยรุ่นไทยยุค 4.0 เกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะการเข้าวัดทำบุญในปัจจุบันหลังจากที่มีกระแสข่าวดังกล่าวเกิดขึ้น
น.ส.ถาวรีย์ เอ่งฉ้วน หรือ "น้องสาลี" อายุ 19 ปี นักศึกษาสาขาบัญชี คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ให้คำตอบมาว่า แม้จะมีกระแสข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นต่อเนื่อง ตนก็ยังเข้าวัดทำบุญตามปกติ เพราะไม่ได้คิดว่าพระสงฆ์จะเป็นพระที่ไม่ดีไปทุกรูป และเราจะไปตัดสินเลยไม่ได้ เพราะพระที่ดีก็มี จึงไม่ควรไปตัดสินพระสงฆ์ในภาพรวม
เมื่อถามว่า รู้สึกอยากไรกับข่าวที่เกิดขึ้นกับวงการพระสงฆ์ในปัจจุบัน
น.ส.ถาวรีย์ เอ่งฉ้วน หรือ "น้องสาลี" บอกว่า ตนไม่ได้อคติใดๆ กับพระสงฆ์ เพราะหากวันไหนสะดวกก็จะเข้าวัดทำบุญเหมือนเดิม เพราะเราไปทำบุญเราทำด้วยใจ และตั้งใจที่จะไปทำบุญอยู่แล้ว มันขึ้นอยู่กับตัวเราเองมากมาก ดังนั้น หากเราจะเข้าวัดอย่าไปหวังผล หรือเพียงแค่ขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น อย่าไปโดยการถูกบังคับ หากเราจะทำบุญ เราไม่จำเป็นต้องไปทำที่วัดอย่างเดียวก็ได้ เพราะว่าถ้าอยากทำบุญไม่ว่าทำที่ไหน ทำด้วยอะไรก็แล้วแต่ สามารถทำได้ และได้บุญเหมือนกัน
"เราไปเจอหมา แมวจรจัด ป่วย หรือถูกรถชน เราก็สามารถช่วยเขานำไปรักษาที่โรงพยาบาลได้ และการนั่งสมาธิอยู่ที่บ้านก็ได้ชื่อว่าเราได้ทำให้สติเราสงบมากขึ้น เราก็ได้บุญแล้ว" น้องสาลี่ กล่าว
เมื่อถามว่า น้องสาลี่ เริ่มเข้าวัดมาตั้งแต่อายุเท่าไหร่
น้องสาลี่ บอกกับทีมข่าว จริงๆ ตนเข้าวัดทำบุญตั้งแต่เป็นเด็กแล้ว เพราะยายชอบพาไปทำบุญทุกๆ วันพระ ตนจึงได้ตามยายไปด้วยตลอด เพราะที่บ้านปลูกฝังให้เข้าวัดทำบุญอยู่แล้ว พร้อมกับกล่าวต่อว่า สำหรับอดีตพระที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษฯตามที่เห็นตามข่าวอยู่ในขณะนี้นั้น สำหรับตนเห็นว่าก็ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย เพราะเราไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านั้น และส่วนตัวเห็นว่า พระสงฆ์ไม่ควรที่จะมีเงินในบัญชีมากมายขนาดนั้น จริงๆ แล้ว พระสงฆ์ไม่จำเป็นต้องมีเงินในบัญชีเลยก็ได้
"หากเราอยากจะทำบุญจริงๆ เราไม่จำเป็นต้องเอาเงินให้พระโดยตรงก็ได้ เราสามารถที่จะนำเงินไปสบทบค่าน้ำ ค่าไฟของวัดก็ได้ หรือเราอาจจะนำสิ่งของที่จำเป็นไปถวายแทนเงินสดก็ได้" น.ส.ถาวรีย์ กล่าว
พร้อมกล่าวต่อว่า ข่าวเกี่ยวกับพระสงฆ์ก็มีออกมาเรื่อยๆ เราต้องแยกแยะให้ได้ แต่ในภาพรวมนั้น หากคนส่วนใหญ่เมื่อเขาเจออะไรที่ทำให้ไม่สบายใจก็จะต้องเข้าวัดไปทำบุญ เพื่อความสบายใจ ซึ่งที่พูดมานั้นไม่ได้บอกว่าไม่ควรไปเข้าวัดหรืออย่างไร เราก็ไปทำบุญ ไหว้พระได้ตามปกติ หากเราไม่สบายใจที่จะทำบุญกับพระสงฆ์ ก็หันไปทำบุญสัตว์จรจัด หรือการให้เล็กๆ น้อยๆ ก็ทำให้เราสบายใจดีมากขึ้นถ้าไปแล้วไม่สบายใจอย่าไปดีกว่า เพราะกลับมาก็จะไปคิดมากอีก "น้องสาลี่" กล่าวในที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี