"ทีมข่าวแนวหน้าออนไลน์" จะพาไปพักผ่อนกันที่ "จังหวัดกระบี่" ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ต่างพากันมาเยือน และสัมผัสกับทรัพยากรที่ล้ำค่ายิ่ง วันนี้เราพาไปที่ "น้ำพุร้อน" แต่ไม่ใช่น้ำพุร้อนธรรมดา เพราะเป็น "น้ำพุร้อนเค็ม" ที่มีชื่อเสียงระดับโลกเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะที่อำเภอ "คลองท่อม" เมืองป่าชายเลนทะเลอันดามันของไทย
ความมหัศจรรย์ของบ่อน้ำพุร้อนเค็มนั้น อยู่ที่อุณหภูมิของน้ำในบ่อไม่ร้อนมากจนเกินไป มีอุณหภูมิสูงประมาณ 40-47 องศาเซลเซียส ลักษณะน้ำใสสะอาดสะท้อนกับท้องฟ้าเป็นสีมรกตสวยงาม เมื่อเดินเข้าไปจะมีเส้นทางเดินชมศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน นับเป็นแหล่งท่องเที่ยว Unseen ที่น่าสนใจสำหรับคนที่ชอบการผ่อนคลายด้วยการสปาธรรมชาติแบบนี้ เหมาะสำหรับการอาบชำระร่างกายแบบบรรเทาการปวดกล้ามเนื้อ และปวดข้อต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้มีการไหลเวียนของเลือดให้ดีขึ้น
ปัจจุบันมีกลุ่มนักท่องเที่ยวที่นิยมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพมากขึ้น "น้ำพุร้อนเค็ม" จึงเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่มา จ.กระบี่ ก็อย่าลืมมาแวะมาสปาด้วยน้ำพุร้อนเค็มที่ อ.คลองท่อม เพราะเป็นแหล่งที่พักผ่อนแบบสุขภาพแบบธรรมชาติ
ไหนๆ พาไปเที่ยวแล้ว เรามารู้จัก "น้ำพุร้อนเค็ม" กันดีกว่า...
“น้ำพุร้อนเค็ม” อย่างที่บอกขึ้นชื่อว่าเค็ม น้ำก็จะมีรสชาติเค็มเหมือนน้ำทะเล สาเหตุที่มีรสชาติเค็มนั้น เกิดจากการผสมกันของน้ำร้อนและน้ำทะเลในระดับลึกก่อนโผล่พ้นพื้นผิวดิน เกิดเป็นน้ำพุร้อน จัดอยู่ในประเภทน้ำพุร้อนเกลือ (Salt Spring) หรือน้ำพุเกลือ ซึ่งมีปริมาณของเกลือผสมอยู่มากกว่า 9 กรัมต่อลิตร ในบริเวณรอบๆ เป็นพื้นที่ป่าชายเลนตามธรรมชาติ น้ำจะใสสะอาดสะท้อนกับท้องฟ้า เป็นสีมรกตสวยงาม
ข้อควรปฏิบัติในการแช่น้ำพุร้อนเค็ม
เราจำเป็นต้องอาบน้ำธรรมดาก่อนที่จะลงไปแช่น้ำพุร้อนเค็ม เริ่มจากการแช่ขาทั้งสองข้างลงไปก่อน และใช้น้ำลูบแขน ลำตัว เพื่อให้ร่างกายปรับอุณหภูมิ ประมาณ 3 นาที ลดระดับตัวลงในน้ำอยู่ระดับเอว รอให้ร่างกายปรับอุณหภูมิประมาณ 2-3 นาที จึงค่อยแช่น้ำในระดับหน้าอก โดยแช่น้ำพุร้อนเค็มรอบละไม่เกิน 10-15 นาที หลังแช่น้ำพุร้อนเค็ม ควรนั่งพักประมาณ 5 นาที ดื่มน้ำสะอาดเพื่อชดเชยการเสียเหงื่อ ขณะใช้บริการ ถ้ามีอาการผิดปกติ เช่น หน้ามืด ใจสั่น วิงเวียนศีรษะ ให้รีบขึ้นจากบ่อทันทีพร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบ ผู้ที่เป็นโรคหัวใจ ความดัน เบาหวาน ควรแจ้ง หรือปรึกษาเจ้าหน้าที่ก่อนลงแช่น้ำพุร้อนเค็ม
ชาวบ้านในพื้นที่แนะนำว่า หากจะไปแช่น้ำพุร้อนเพื่อบรรเทาอาการปวดเมื่อยควรไปตอนเช้ามืด เพราะจะจะแช่นานๆ ถ้ามาแช่ในช่วงสายๆ น้ำจะร้อนเกินไป นอกจากนี้ชาวบ้านในละแวกนั้นยังเล่าให้ฟังว่า น้ำพุร้อนเค็มสามารถช่วยให้คนที่เดินไม่ได้ เป็นอัมพาต ประสบอุบัติเหตุ สามารถเดินได้ ด้วยการมาแช่น้ำพุร้อนทุกวัน เมื่อเล่ากันปากต่อปากก็มีคนมารักษาตัวด้วยน้ำพุร้อนเค็มเป็นจำนวนมากในปัจจุบัน
มารู้จัก “น้ำพุร้อนเค็มจระเข้” ที่ลึกลับที่แฝงด้วยความสวยงาม
ห่างจากบ่อน้ำพุร้อนเค็ม ประมาณ 200-400 เมตร เลี้ยวขวาเข้ามาอีกประมาณ 200 เมตร จะพบสถานที่ที่ชาวบ้านแนะนำ เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ที่เห็นแล้วต้องตะลึงกับความสวยงามบนความลึกลับ เพราะบรรยากาศโดยรอบเงียบสงบ ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเข้ามามากนัก นอกจากชาวบ้านในพื้นที่เท่านั้น
“น้ำพุร้อนเค็มจระเข้” ตามความเชื่อของชาวบ้านสมัยก่อนบอกว่า ที่เรียกว่าบ่อจระเข้ เพราะมีมีคนเคยเห็นจระเข้ขนาดใหญ่มาเล่นน้ำในบ่อน้ำพุร้อน และเชื่อว่าเป็นที่อยู่ของจระเข้ด้วย แต่ปัจจุบันไม่ค่อยมีคนนิยมเข้ามาแช่น้ำที่บ่อน้ำร้อนเค็มจระเข้มากนัก หากใครผ่านไปแช่น้ำพุร้อนเค็มคล่องท่อม อย่าลืมแวะไปชื่นชมความสวยงามแบบลึกลับที่หาดูได้ยาก บอกได้เลยว่าเป็นสถานที่ที่ Unseen มากๆ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี