'ต้นอังกาบหนู'รักษามะเร็ง! สุรินทร์ปลูกกันทั้งหมู่บ้าน พบยายวัย81ปีกินแล้วหายป่วย
วันอาทิตย์ ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2561, 18.05 น.
19 ส.ค.61 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งจาก นายบุญช่วย วิบูลย์อรรถ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 ม.1 บ้านนารุ่ง ต.นารุ่ง อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ว่าที่หมู่บ้านนารุ่ง มีการปลูกต้นอังกาบหนู กว่า 100 หลังคาเรือน หลังจากคุณยายจุ๋น วิบูลย์อรรถ อายุ 81 ปี ยายทวดในบ้านป่วยเป็นก้อนเนื้อที่ตับ อาการทรุดหนัก ถึงขั้นสั่งเสียลาตายกับลูกหลาน และมีการเตรียมจัดงานศพ พอดีมีญาติอยู่ที่ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ แนะนำให้ลองกินใบต้นอังกาบหนู เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ปรากฏว่า หายเจ็บหายป่วยและพบว่ามีสุขภาพดีขึ้น หลังจากนั้นจึงได้บูชาต้นอังกาบหนู ในราคา 1,000 บาท มาปลูกไว้ที่บริเวณหน้าบ้าน เด็ดใบรับประทานทุกวัน จนชาวบ้านนารุ่งทราบข่าว ต่างพากันนำไปปลูกเกือบจะทุกหลังคาเรือน

ผู้สื่อข่าวรุดลงพื้นที่ ตรวจสอบที่ บ้านนารุ่ง ต.นารุ่ง อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ พบชาวบ้านนารุ่งกว่า 100 หลังคาเรือน พากันปลูกต้นอังกาบหนู เพราะต่างพากันเชื่อว่าต้นอังกาบหนู สามารถรักษาโรค เบาหวาน และโรคมะเร็งได้ ปลูกกันทั้งหมู่บ้าน ซึ่งก่อนหน้านี้ ที่จะมีข่าวผ่านสื่อ บางคนได้ตัดต้นอังกาบหนูทิ้งไปบ้าง พอทราบข่าวผ่านสื่อต่างๆว่า ที่วัดโบสถ์ ต.เมืองบางขลัง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย มีชาวบ้านนำใบอังกาบหนูจากวัดโบสถ์ (เมืองโบราณบางขลัง) ไปต้มกินเพื่อรักษาโรคมะเร็ง ปรากฏว่าหายป่วย จึงทำให้ชาวบ้านเมื่อทราบข่าวต่างเดินทางมาเพื่อขอรับใบอังกาบหนูจากพระครูพิพัฒน์สุตากร เจ้าอาวาสวัดโบสถ์ อย่างไม่ขาดสาย ต่างก็พากันปลูกคืนเป็นจำนวนมาก และดีใจที่เห็นข่าวว่า ต้นอังกาบหนู รักษามะเร็งได้

นางติ๊ก วิบูลย์อรรถ อายุ 48 ปี ลูกสาวคุณยายจุ๋น กล่าวว่า คุณยายจุ๋นป่วยเป็นก้อนเนื้อที่ตับ ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลศีขรภูมิ อยู่เป็นเดือน ส่งไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลสุรินทร์ เอ็กซเรย์ปรากฏว่า มีก้อนเนื้อที่ตับอยู่ 2 ก้อนใหญ่ หมอยังไม่สรุปว่าเป็นมะเร็งในตอนนั้น ตนจึงแอบเอาใบต้นอังกาบหนูให้กิน ซึ่งตอนนั้นยังไม่รู่ด้วยซ้ำว่าชื่อต้นอะไร ยกมือไหว้อธิฐานต่อต้นอังกาบหนูขอให้คุณแม่อย่าปวดท้อง ขอให้หายป่วย ตอนนี้ออกจากโรงพยาบาลศีขรภูมิ พอดีมีญาติมาแนะนำให้ลองกินยาตัวหนึ่ง ตอนนั้นแกจะไม่รอดอยู่แล้ว ก็เลยเอามายัดใส่ปาก 3 ใบ ให้แม่เคี้ยว ก็บอกว่า หายปวดท้อง ต่างจากก่อนนี้ ทั้งอ้วก ทั้งถ่าย สภาพร่างกายแย่มากๆ จะไม่รอด จนบอกสั่งเสียสั่งลาลูกหลาน และคุณแม่ได้บนบานว่า ถ้าหายป่วยจะทำบุญผ้าป่า 11 กอง เมื่อ 3 ปีที่แล้ว เมื่อคุณยายกินแล้วหาย ชาวบ้านทราบข่าว ต่างพากันบูชานำไปปลูกเกือบทั้งหมู่บ้านกว่า 100 หลังคาเรือน โดยบูชากระถางละ 500 บาท แต่ตนไปบูชามาครั้งแรกกระถางละ 1,000 บาท เคยซื้อแม้กระทั้งใบละ 100 บาท เพื่อนำมาต้มให้แม่ดื่ม หลังเคี้ยวไม่ได้ หากสนใจสอบถามได้กับนายบุญช่วย วิบูลย์อรรถ โทรศัพท์ 065-070-0812

ด้านคุณยายจุ๋น วิบูลย์อรรถ อายุ 81 ปี กล่าวว่า ตนถามหมอว่า มานอนตั้งหลายวันทำไมไม่บอกว่าเป็นโรคอะไรกันแน่ เขาก็ไม่พูด ตนมีแต่ถ่ายออกมาเป็นน้ำโจ้กๆ อาการหนักมา 7 วัน ไม่ดีขึ้น รู้สึกเหมือนว่าตนกำลังจะตาย บอกลูกว่าขอกลับไปตายที่บ้านเกิด พอกลับจากโรงพยาบาลสุรินทร์มาถึงบ้าน ลูกๆก็อุ้มมาวางตรงนี้ พอดีหลานสาวที่เป็นลูกสาวกำนัน มาบอกว่ามีต้นยากำลังปลูกใหม่ ตนก็ไม่ปฏิเสธขอเป็นยาอะไรก็ได้กินแล้วขอให้หายปวดท้อง ตนเสี่ยงกินเลยเพราะยังไงก็จะตายอยู่แล้ว พอได้ยาลูกสาวกำนัน ตนไม่มีฟันจะเคี้ยวก็เลยให้ลูกสาวนำไปต้มนำน้ำมาดื่ม พอกินแล้วก็รู้สึกว่า มันเบาขึ้นๆ จนบอกลูกสาวว่า แม่รอดตายแล้วลูกเอ้ย และก็กินมาทุกๆวันจนถึงทุกวันนี้ เป็นเวลา 3 ปี ทุกวันกินแต่ยาโรคกระเพราะ แต่ยารักษาโรคมะเร็งไม่ได้กินแล้ว เป็นก้อนเนื้อ 2 ก้อนที่ตับ ซึ่งทุกวันนี้ปรากฏว่า ก้อนเนื้อทั้งสองได้หายไปแล้ว