อีกหนึ่งบูธภายในงานมหกรรมสมุนไพรและอาหารครั้งที่ 3 ขึ้นมาในหัวข้อ "กินเปลี่ยนวัย" ที่ฮอลล์ 7-8 อิมแพค เมืองทองธานี ที่จัดขึ้นโดยคณะกรรมการพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่น ด้านสุขภาพแห่งชาติ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายด้านเกษตรกรรมยั่งยืน อาหารปลอดภัยเพื่อสุขภาพ ระหว่างวันที่ 29 ส.ค.- 2 ก.ย.61 ที่ผ่านมา คือ "เครือข่ายอินแปง"
หลายคนคงรู้จัก "เครือข่ายอินแปง" เนื่องจากเป็นเครือข่ายองค์กรชาวบ้านเริ่มต้นเมื่อ ปี 2530 ที่บ้านบัว ตำบลกุดบาก อำเภอกุดบาก จังหวัดสกลนคร เป็นกลุ่มคนในชุมชนที่มีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ชอบอิสระ ผูกพันอยู่กับป่าพึ่งป่าภูพานเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตจากอดีตมาจนปัจจุบัน และได้พบว่าชุมชนยังมีศักยภาพ ทรัพยากรธรรมชาติมากมาย
แต่อย่างไรก็ดี ระยะที่ผ่านมา 25-30 ปีที่ผ่านมา ปัจจัยภายนอกและการส่งเสริม โดยเฉพาะระบบการปลูกพืชเชิงเดี่ยว เช่น มันสำปะหลัง และอ้อย ก่อให้เกิดการบุกรุกทำลายป่า มีการใช้สารเคมีที่มีผลต่อชีวิต และสิ่งแวดล้อม ซึ่งไม่ได้เข้าไปเชื่อมต่อกับรากฐานของชุมชนอันที่จะเป็นการสร้าง ความเข็มแข็งให้กับชุมชน จึงต้องมีการพึ่งพาจากภายนอกแม้กระทั่งอาหาร ที่เป็นหัวใจสำคัญของการทำเกษตร
แต่ปัจจุบันเกษตรกรยังต้องอาศัยอาหารจากตลาดภายนอกในการบริโภค ทางโครงการจึงหาทางออกร่วมกับผู้นำหมู่บ้านมีการพูดคุยทบทวนอดีตและปัจจุบันเพื่อกำหนดแนวทางในอนาคตมีการศึกษาดูงาน การสำรวจทรัพยากรของชุมชน จนในที่สุดก็ค่อยๆ ก่อตัวเป็นกลุ่มเล็กๆ จำนวน 13คน ขึ้นเรียกว่า กลุ่มกองทุนพันธุ์ไม้พื้นบ้าน เพื่อการพื้นฟูอนุรักษ์และส่งเสริมการปลูกพืชพื้นบ้านในไร่นาขึ้น จนกลายมาเป็นกลุ่มเครือข่ายอินแปงที่แข็งแรงขึ้นในปัจจุบัน
"นายธวัชชัย กุณวงษ์" ตัวแทนเครือข่ายอินแปง ได้เล่าความเป็นมาและความสำคัญเกี่ยวกับพืชผลในพื้นที่ชุมชนว่า ผลไม้ป่ามีมาตั้งแต่ดั้งเดิมอยู่แล้ว ซึ่งเรามองเห็นความสำคัญ เพราะเป็นทรัพยากรในท้องถิ่นอยู่แล้ว ถ้าเรารู้ว่าเราถนัดอะไรและสนใจพืชผลชนิดไหนที่มีประโยชน์ก็ควรจะอนุรักษ์และรักษาไว้ อย่างไรก็ตาม นอกจากนำมากินตามฤดูกาลแล้ว หากอยากรู้เพิ่มว่าพืชผลที่เราสนใจนั้นมีประโยชน์อย่างไรบ้างให้ไปถามปู ย่า ตา ยาย หรือหมอสมุนไพรภายในชุมชนว่ามีสรรพคุณอะไรบ้าง และในขณะเดียวกันหากเราได้ความรู้แล้วก็ต้องนำไปบอกต่อรุ่นลูกรุ่นหลานให้เขาได้อนุรักษ์ไว้
ทั้งนี้ ผลไม้ป่าที่นำมาแปรรูปนั้นก็ให้ทางมหาวิทยาลัยเข้ามาช่วยวิจัยสรรพคุณ และดูว่ามีคุณค่าทางโภชนาการอะไรบ้าง มีสารอาหารอย่างไรบ้าง เช่น การสกัดน้ำจาก “หมากเม่า” หรือ “มะเม่า” ผลไม้พื้นบ้านที่ให้ประโยชน์ได้หลายส่วน เป็นอีกหนึ่งตำรับยาสมุนไพรไทยที่คนไทยควรรู้จัก นำมาให้มหาวิทยาเข้ามาวิจัยก่อนที่จะนำออกมาขายในพื้นที่ชุมชน และขยายพื้นที่ออกไปทั่วประเทศ ให้เยาวชนมีรายได้จากพืชผลที่ปลูกอนุรักษ์ไว้
“ปัจจุบันนี้โลกมีความจำเป็นที่ต้องเกี่ยวข้องกับข้อมูล ที่จะต่อเชื่อมโยงกับโลกยุคใหม่ หากเยาวชนรุ่นใหม่จำเป็นต้องใช้สื่อใช้ข้อมูล เขาจะทำอย่างไรในพื้นที่ที่เขาอยู่ ผมมองว่าคนรุ่นใหม่ ถ้าเขาอยากอยู่ในหมู่บ้านอย่างอยู่รอดได้ เขาต้องจัดการทรัพยากรให้ได้ เขาต้องรู้เรื่องภูมิปัญญาของอินแปงให้ได้” นายธวัชชัย กล่าว
สำหรับโครงการและกิจกรรมของเครือข่ายอินแปง ประกอบด้วย การยกป่าภูพานมาไว้ในสวน/ป่าครอบครัว, ป่าชุมชนและป่าเทือกเขาภูพาน, วิสาหกิจชุมชน (โรงงานน้ำผลไม้อินแปง ภูพาน ข้าวฮาง,สมุนไพร), สถาบันการเงินและสวัสดิการชุมชน/ธนาคารอินแปง, การสร้างผู้นำรุ่นใหม่, การสร้างสถาบันการเรียนรู้เพื่อปวงชน เป็นต้น ส่วนความรู้ที่ถ่ายทอดให้รุ่นลูกรุ่นหลานสืบทอดต่อไป ประกอบด้วย การขยายพันธุ์พืชผลต่างๆ, การแปรรูปน้ำผลไม้พื้นบ้าน, การสร้างผู้นำรุ่นใหม่, การยกป่ามาไว้สวน และการแปรรูปสมุนไพร เป็นต้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี