เหตุการณ์สลดใจที่เกิดขึ้นใน อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ หลังจากสุนัขของ นายปิยะณัฐ แดงสร้อย อายุ 27 ปีจำนวน 3 ตัว รุมขย้ำกัด น้องตวงข้าว วัย 4 ขวบ เสียชีวิตขณะนำตัวส่งโรงพยาบาท กลายเป็นเรื่องที่สังคมถามกลับมาว่าหากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นใครจะต้องเป็นคนรับผิดชอบต่อการสูญเสียครั้งนี้
แน่นอนว่าคนที่เป็นพ่อและแม่ ยังทำใจไม่ได้ และจำเป็นหรือไม่ที่เจ้าของสุนัขทั้ง 3 ตัว จะต้องออกมารับผิดชอบ เพราะการเลี้ยงดูสุนัขแล้วไปสร้างความเสียหายต่อร่างกายและทรัพย์สินของผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นหมาไทย หรือหมาเทศ ตัวใหญ่ หรือตัวเล็ก หูตั้ง หรือหูตูบ ก็มีสิทธิ์ที่จะเป็นสุนัขที่จะดุได้ เพราะฉะนั้นเจ้าของสุนัขหากปล่อยให้สุนัขไปทำร้ายคนอื่นแบบนี้ สามารถเอาผิดเจ้าของหมาได้ตั้งแต่เรียกค่าสินไหมทดแทนตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
โดย ดร.สาธิต ปรัชญาอริยะกุล เลขาธิการสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การเลี้ยงดูสุนัขแล้วไปสร้างความเสียหายต่อร่างกายและทรัพย์สินของผู้อื่น เช่น ไปกัดเด็กหรือไปกัดไก่ผู้อื่น เจ้าของต้องรับผิดชอบตาม ป.อาญา มาตรา 377 ถ้าผู้ควบคุมสัตว์ดุหรือสัตว์ร้าย ปล่อยปละละเลยให้สัตว์นั้นเที่ยวไปโดยลำพังในประการที่อาจจะทำอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และตาม ป.พ.พ. มาตรา 433
อย่างไรก็ตาม ถ้าความเสียหายเกิดขึ้นเพราะสัตว์ เจ้าของสัตว์จำต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในความเสียหาย ให้แก่ฝ่ายที่เสียหายจากสัตว์นั้น เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าได้ใช้ความระมัดระวังอันสมควรแก่การเลี้ยงสัตว์นั้น อีกทั้งตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ฯ การฆ่าสัตว์ในกรณีที่มีความจำเป็นเพื่อป้องกันอันตรายแก่ชีวิตหรือร่างกายมนุษย์หรือสัตว์อื่น หรือป้องกันความเสียหายที่เกิดแก่ทรัพย์สิน ไม่ถือว่าเป็นการทารุณกรรมสัตว์ ดังนั้นการเลี้ยงสัตว์ควรจะมีความรับผิดชอบทั้งต่อตัวของสัตว์นั้น และที่สำคัญต้องรับผิดชอบต่อผู้อื่นด้วยเปิดข้อกฎหมาย เมื่อคุณถูกสุนัขกัด 'สามารถเอาผิดเจ้าของได้'
นอกจากนี้ ยังเกี่ยวกับ มาตรา 446 กรณีทำให้มีความเสียหายแก่ร่างกายและอนามัย รวมถึงเสียเสรีภาพก็สามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนได้เพิ่มเติม อีกทั้ง ยังสามารถเอาผิดเจ้าของสุนัขฐานประมาท หากอันตรายจนสาหัส จะผิดตาม มาตรา 300 โทษคือจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หากได้รับอันตรายไม่มากจะมีโทษตาม มาตรา 390 ฐานประมาทจนทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บทั้งกายและใจ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท และโทษที่หนักที่สุดหากพิสูจน์ได้ว่าเจ้าของสัตว์ประมาท คือ มาตรา 291 ผู้ใดกระทำประมาทจนทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต โทษสูงสุดคือจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท
เหตุการณ์สุนัขกัดเด็กนั้นไม่ได้เกิดขึ้นแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว อย่างในอดีตก็มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมากมาย อาทิ สุนัขพันธุ์ไทยผสมร็อคไวเลอร์ กัดเด็ก 1 ขวบ จนมีแผลฉีกที่หัว ใบหู และลำตัว ที่ จ.อ่างทอง, สุนัขแม่ลูกอ่อนขย้ำหน้าเด็กหญิง 3 ขวบ จนเจ็บสาหัส ที่ จ.ปราจีนบุรี, สุนัขพันธุ์บางแก้วกัดเด็ก 6 ขวบ เป็นแผลที่เอวเหวอะ ที่ จ.ชลบุรี, สุนัขพันธุ์ไทยพันธุ์ผสม กัดเด็ก 2 ขวบ ที่ใบหน้าจนเป็นแผลเหวอะ เย็บ 20 เข็ม ที่ จ.อ่างทอง, สุนัขพันธุ์ไทย กระโจนกัดหน้าและหัวเด็ก 5 ขวบ เย็บ 39 เข็ม ที่ จ.นครศรีธรรมราช, สุนัข 2 ตัว ไล่กัดนักมวยเด็ก วัย 11 ปี เป็นแผลที่แขนสาหัส เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่เราควรใส่ใจตั้งแต่การเลี้ยงดูสุนัข การดูแลเอาใจใส่ ต้องระมัดระวัง และต้องมีความรับผิดชอบหากเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นมา ไม่ควรปฏิเสธในส่วนที่ตัวเองต้องรับผิดชอบ จะไปโทษสุนัขไม่ได้ เพราะไม่มีใครอยากให้ความสูญเสียเกิดกับครอบครัวตัวเองอย่างแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี