วันอาทิตย์ ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
'ร.ร.บ้านตูแตหรำ' ใช้สมุนไพรพื้นบ้านภูมิปัญญาท้องถิ่นสร้างสุขภาวะ สานสัมพันธ์โรงเรียน-บ้าน

'ร.ร.บ้านตูแตหรำ' ใช้สมุนไพรพื้นบ้านภูมิปัญญาท้องถิ่นสร้างสุขภาวะ สานสัมพันธ์โรงเรียน-บ้าน

วันเสาร์ ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2561, 11.13 น.
Tag : บ้านตูแตหรำ ภูมิปัญญาท้องถิ่น โรงเรียน สมุนไพรพื้นบ้าน
  •  

โรงเรียนไม่ได้มีบทบาทเป็นแค่สถานศึกษาให้ความรู้เตรียมความพร้อมแก่เด็กนักเรียนในท้องถิ่นหรือชุมชนเพื่อให้ลูกหลานของคนในพื้นที่ได้เติบโตเป็นพลเมืองดีที่มีศักยภาพเท่านั้น แต่โรงเรียนยังไม่อาจแยกออกจากบทบาททางสังคมได้เพราะทั้งโรงเรียนและคนในชุมชนต่างต้องพึ่งพาเกื้อกูลช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

บ้านตูแตหรำ หมู่ 12 ตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล มีสภาพเป็นชุมชนแออัด ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพรับจ้าง ทำงานก่อสร้าง ทำประมง ใช้แรงงานหาเช้ากินค่ำ มีรายได้ไม่มากนัก โรงเรียนบ้านตูแตหรำคือสถานศึกษาเพียงแห่งเดียวที่อยู่ใกล้ชุมชนมากที่สุด ช่วงเวลาที่ผู้ปกครองออกไปประกอบอาชีพโรงเรียนจึงเป็นสถานที่เพียงแห่งเดียวที่ผู้ปกครองวางใจส่งบุตรหลานมาเล่าเรียน


 

 

แต่ด้วยสภาพความเป็นอยู่ของชุมชนทำให้ทำให้ทั้งผู้ปกครองและนักเรียนต่างต้องเผชิญกับปัญหาด้านสุขภาวะ ผู้ปกครองส่วนใหญ่มีปัญหาอาการปวดเมื่อยจากการทำงาน ส่วนเด็กนักเรียนมีปัญหาด้านสุขภาพฟัน ในจำนวนนักเรียน 100 คน มีนักเรียน 67 คนที่มีปัญหาฟันผุ และมีแนวโน้มต้องเผชิญกับโรคอ้วน นอกจากนั้นมักมีอาการปวดท้องผลจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ไม่สุขลักษณะ ซึ่งผลกระทบต่อการเรียนรู้ของเด็กๆ คณะครูจึงร่วมกันคิดหาทางแก้ปัญหาเหล่านี้ โดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีอยู่นำมาใช้ควบคู่ไปกับการดำเนินงาน โครงการ "สืบสานภูมิปัญญาสมุนไพรเพื่อชีวิต น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง" โดยได้รับการสนับสนุนจาก สำนักสร้างสรรค์โอกาสและนวัตกรรม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

 


"โชคชัย ทิพย์รองพล ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านตูแตหรำ" มองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับนักเรียน ซึ่งมีข้อมูลจากโรงพยาบาลมาตรวจสุขภาพเด็ก พบว่ามีเด็กฟันผุจำนวนมาก ที่เห็นได้ชัดอีกปัญหาหนึ่งในปัจจุบันคือเด็กมีภาวะอ้วนที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อการเรียนรู้ของนักเรียน ทางโรงเรียนจึงออกมาตรการหลายอย่างเพื่อแก้ปัญหาสุขภาพนักเรียน โดยที่ได้ดำเนินการแล้วคือ ห้ามแม่ค้านำไอศกรีม น้ำหวาน หรือน้ำอัดลมต่างๆ มาจำหน่ายในโรงเรียน ขณะเดียวกันก็เล็งเห็นว่าชุมชนเองก็มีสมุนไพรหลายชนิด สามารถนำมาแก้ไขปัญหาเรื่องสุขภาพได้ เช่น การทำน้ำสมุนไพรทดแทนน้ำหวานให้เด็กได้ดื่ม แม้แต่อาการปวดท้องของเด็กๆ สมุนไพรบางชนิดสามารถแก้ปัญหาได้ ซึ่งจะทำให้เด็กที่จะเข้ารับบริการจากห้องพยาบาลมีอัตราลดลง

"องค์ความรู้ที่ได้เป็นภูมิปัญญาในชุมชน ทั้งจากวิทยากรที่มีความรู้ความชำนาญในพื้นที่ นอกจากนี้ เรายังประสานงานกับโรงพยาบาลละงู ซึ่งมีแผนกแพทย์แผนไทยที่มีความชำนาญเข้ามาให้ความรู้ เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น" ผู้อำนวยการโรงเรียนเล่าถึงความร่วมมือที่เกิดขึ้น

 

 

ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านตูแตหรำ ยังกล่าวอีกว่า กิจกรรมที่ดำเนินการไม่ใช่เป็นประโยชน์เฉพาะโรงเรียน แต่ยังเชื่อมโยงไปยังชุมชนด้วย ตั้งแต่การประชุมชี้แจงสร้างความตระหนักให้เกิดขึ้นกับนักเรียนและชุมชน ผู้ปกครองจะเข้ามามีส่วนร่วมเสนอแนวทางแก้ปัญหา มีการจัดกิจกรรมทัศนศึกษาแหล่งเรียนรู้สมุนไพรเพื่อสร้างการเรียนรู้และเพิ่มประสบการณ์แก่นักเรียน กิจกรรมผลิตเครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร การสร้างสวนสมุนไพรในโรงเรียนโดยบอกข้อมูลด้วยคิวอาร์โค้ด รวมทั้งการนำเสนอผลงานที่ออกแบบไว้ให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมทุกกิจกรรม

"พอนักเรียนของเรามีความรู้แล้วก็ได้เอามาใช้ให้เกิดประโยชน์ เช่น การทำน้ำสมุนไพร ผลิตผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรต่างๆ ทั้งนักเรียน ครู คนชุมชนต่างชื่นชอบที่มีการนำสมุนไพรในท้องถิ่นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ต่อไปเราก็จะค้นหาสมุนไพรที่มีอยู่ในพื้นที่มาใช้ประโยชน์ให้มากขึ้น กิจกรรมที่เราทำเป็นเพียงพื้นฐานเพื่อให้เด็กได้ต่อยอดในระดับต่อไป อาจทำผลิตภัณฑ์ตราสินค้าของโรงเรียนออกจำหน่าย" ผู้อำนวยการโรงเรียนระบุ

 

 

"เฉลิม บัวดำ แพทย์แผนไทยชำนาญการ โรงพยาบาลละงู" เล่าว่า ทางโรงเรียนได้ขอคำปรึกษาในเรื่องการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นมาดูแลสุขภาพตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ในฐานะของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข มองเห็นปัญหาของชุมชนตูแตหรำ มีอาชีพก่อสร้าง การทำประมง มีปัญหาหลักคืออาการปวดเมื่อยที่ชาวบ้านประสบ ก็คิดว่าอย่างน้อยก็น่าจะนำสมุนไพรที่มีอยู่ในชุมชนมาทำลูกประคบ แก้ปัญหาปวดเมื่อยจากการทำงานที่เด็กๆ ก็สามารถนำกลับไปทำให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองได้ เป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ สามารถสร้างสัมพันธภาพในครอบครัว จึงเริ่มต้นด้วยการทำลูกประคบสมุนไพร ยาหม่องไพลแก้ปวดเมื่อย โดยใช้สมุนไพรที่มีอยู่ในพื้นที่เพื่อเป็นการลดต้นทุนในการผลิต

 

 

"หลายครอบครัวมีการปลูกสมุนไพรอยู่แล้ว เช่น ไพร ขมิ้น ตะไคร้ มะกรูด ใบมะขาม แต่ไม่ทราบวิธีการนำมาใช้ประโยชน์ ทางโรงเรียนเห็นช่องทางในการเผยแพร่องค์ความรู้การดูแลสุขภาพ จึงนำเอาองค์ความรู้และสมุนไพรที่มีอยู่ในชุมชนมาใช้ ทำให้สมุนไพรที่มีอยู่ในชุมชนไม่สูญหายไปไหน ที่แน่ๆ เราได้เครือข่ายเพิ่มคือ หมอยาสมุนไพรน้อยเป็นแกนนำกลุ่มแรกที่จะได้นำองค์ความรู้เข้าไปใช้ในชุมชน เป็นแบบอย่างให้โรงเรียนอื่นและชุมชนอื่นได้ทำต่อ จากการสอบถามพ่อแม่พบว่าเด็กๆ นำกลับไปทำสามารถทำได้ตามที่เรียนรู้ไป และจะได้ถ่ายทอดไปสู่น้องๆรุ่นต่อไป องค์ความรู้เหล่านี้ก็จะได้ไม่สูญหาย ชาวในชุมชนสุขภาพจะดีขึ้น ลดการไปแออัดที่โรงพยาบาล" แพทย์แผนไทยชำนาญการ โรงพยาบาลละงู กล่าว

 

 

"คัตติญา จิเบ็ญจะ ครูสอนวิชาวิทยาศาสตร์ในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการ" กล่าวถึงการบูรณาการองค์ความรู้ลงไปสู่ห้องเรียนว่า กิจกรรมที่ได้ดำเนินการมี 3 กระบวนการ คือ สร้างความตระหนักให้เกิดขึ้นกับนักเรียน ถ้าสุขภาพนักเรียนดีการเรียนก็จะดีไปด้วย ที่สำคัญคือกระบวนการปฏิบัติ นักเรียนได้ทำน้ำสมุนไพร ผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อใช้ประโยชน์กับตัวเองและครอบครัว  ส่วนสุดท้ายคือการคืนข้อมูลสรุปสู่ชุมชนมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับชุมชน นอกจากนี้นักเรียนยังได้นำความรู้เรื่องสมุนไพรทำออกมาในรูปแบบหนังสืออิเลคทรอนิคส์ (E-book) เพื่อเป็นสื่อประชาสัมพันธ์ให้ตนเองและชุมชนได้เรียนรู้ ส่วนในห้องเรียนก็จะใช้สมุนไพรมามาทดลองในวิชาวิทยาศาสตร์ เช่น การคลายน้ำของพืช การสังเคราะห์แสง เป็นการบูรณาการร่วมกับการเรียนการสอนไปด้วย

 

 

ผลจากการดำเนินโครงการได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นกับชุมชนแห่งนี้ ทั้งคณะครู นักเรียนและผู้ปกครอง เกิดความตระหนักถึงการดูแลรักษาสุขภาพด้วยสมุนไพรพื้นบ้าน สร้างการรับรู้ประโยชน์ของสมุนไพรและภูมิปัญญาที่มีอยู่ในท้องถิ่นให้เกิดขึ้นกับสมาชิกในชุมชน เกิดเป็นสัมพันธภาพที่ดีระหว่างโรงเรียนและคนในท้องถิ่นโดยมีเรื่องของสมุนไพรและสุขภาพเป็นเครื่องมือเชื่อมโยงการทำงานของทุกฝ่ายร่วมกัน

 


 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'ฮ.ทหาร\'ลงจอดฉุกเฉิน! สนามฟุตบอลโรงเรียน ฝนตกหนักทัศนวิสัยมองเห็นต่ำ 'ฮ.ทหาร'ลงจอดฉุกเฉิน! สนามฟุตบอลโรงเรียน ฝนตกหนักทัศนวิสัยมองเห็นต่ำ
  • นร.กัมพูชาหายครึ่งโรงเรียน! ปรับการสอนให้กลับบ้านทันก่อนด่านปิด นร.กัมพูชาหายครึ่งโรงเรียน! ปรับการสอนให้กลับบ้านทันก่อนด่านปิด
  • ผู้ใหญ่ใจดี! มอบข้าวสาร 900 กก. สนันสนุนโครงการอาหารกลางวัน ให้ รร.ช่องสะเดาฯ ผู้ใหญ่ใจดี! มอบข้าวสาร 900 กก. สนันสนุนโครงการอาหารกลางวัน ให้ รร.ช่องสะเดาฯ
  •  

Breaking News

'ราชัน'มาตามนัด!ได้4ทีมสุดท้ายสโมสรโลก

'ธนกร'ห่วงต่อรองภาษีทรัมป์จี้รบ.เตรียมแผนสำรอง

ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันอาทิตย์ 6 กรกฏาคม 2568

รัฐบาลชวนร่วมงานมหกรรมSoftPower

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved