ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ ได้พบกับนางบุษบา งามสมทรง อายุ 52 ปี เจ้าของโรงงาน บี.เอส.สปอร์ต ตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 383 บ้านลำดวน ม.3 ต.ลำดวน จ.สุรินทร์ ลูกชาวไร่ชาวนา อดีตฐานะยากจน สู้ชีวิตปากกัด ตีนถีบ ด้วยลำแข้ง ด้วยความบากบั่น ขยันมั่นเพียร และไม่คิดย่อท้อต่อโชคชะตาจนประสบผลสำเร็จในชีวิต จากที่เคยเป็นอดีตสาวโรงงานผ้ามานานกว่า 30 ปี  ส่วนสามีเป็นคนงานก่อสร้าง ทำมาสารพัดอาชีพ ปลูกผักขาย พ่อค้าแม่ค้าตลาดนัด เร่ขายเสื้อผ้าที่ตัดเย็บเอง เคยยาก เคยจน คัดสนแทบไม่มีข้าวสารจะกรอหม้อ จึงดิ้นรน ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เงินมาหล่อเลี้ยงครอบครัว

ช่วงเริ่มต้นธุรกิจ ด้วยการทำงานกันเพียงสองสามีภรรยา มีจักรเย็บผ้าเพียงหลังเดียว ตัดเสื้อผ้าและชุดกีฬา เสร็จก็พากันนำใส่รถจักรยานยนต์ ตระเวนออกเร่ขายใน จ.สุรินทร์ และพื้นที่ใกล้เคียง เก็บเล็กผสมน้อยนานกว่า 10 ปี จนถึงทุกวันนี้ มีโรงงาน บี.เอส. สปอร์ต บนเนื้อที่กว่า 11 ไร่ มีคนงานกว่า 40 ชีวิต และจักรเย็บผ้าอุตสาหกรรม กว่า 100 หลัง มีอุปกรณ์ตัดเย็บเสื้อผ้าที่ทันสมัยมูลค่าหลาย 10 ล้านบาท มีเงินส่งลูกทั้ง 2 คนเรียนจนจบปริญญาตรี และศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ ร้าน บี.เอส.สปอร์ต เปิดขายทุกวัน ปัจจุบันมีลูกค้าทั่วประเทศ และผลิตส่งออกต่างประเทศ มีเงินหมุนเวียนเดือนละหลายสิบล้านบาท สร้างงานสร้างอาชีพให้กับผู้คนในชุมชนเป็นอย่างดี  สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่  081-9995619

นางบุษบา งามสมทรง อายุ 52 ปี เจ้าของโรงงาน บี.เอส.สปอร์ต กล่าวว่า ก่อนที่จะมาเป็นเจ้าของกิจการ โรงงาน บี.เอส.สปอร์ต อดีตเคยเป็นลูกจ้างสาวโรงงาน ลูกชาวไร่ชาวนา ตนเป็นสาวงาน ได้แฟนก็เป็นหนุ่มก่อสร้าง เริ่มแรกที่ จ.สุรินทร์ เป็นลูกจ้างเย็บเสื้อผ้า อยู่ร้านทองทศ ร้านกีฬาร้านแรกของ จ.สุรินทร์ ก็ไปฝึกงานกับร้านทองทศ พอได้ความรู้ประสบการณ์มา ก็ออกไปทำงานที่ จ.นครราชสีมา มั้ง กรุงเทพฯมั้ง แล้วแต่เพื่อนมาบอกว่ามีงาน เป็นสาวโรงงานมานานกว่า 30 ปี ตั้งแต่ จบ ป.6 มาแต่งงานมีสามีตอนอายุ 25 ปี มาเริ่มกิจการเป็นของตนเอง พอตั้งท้องกลับมาคลอดลูกที่บ้าน กลับไปคืนไม่ได้ เพราะต้องดูลูก ก็เลยรับจ้างเย็บผ้า ส่วนแฟนก็ปลูกผักขาย  

"ตอนนี้ก็ถือว่า ประสบผลสำเร็จมาเยอะ โรงงาน บี.เอส.สปอร์ต รับทำทุกอย่าง ลูกค้าสั่งทำอะไรเราก็ทำได้ทุกอย่าง ขอเวลา 1 วัน สำหรับการขึ้นแบบ และตัดเย็บ ลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในสุรินทร์ งานโรงเรียน หน่วยงานราชการ และ อบต. และตนอยากฝากเป็นกำลังให้กับคนที่กำลังท้อแท้กับชีวิตว่า ไม่ต้องท้อ ถ้ามีพลังในการดูแลตนเอง ตนเราต้องมีกำลังใจให้ตัวเอง และที่สำคัญ หนักเอาเบาสู้ อย่างหมิ่นงานน้อย อย่ารอคอยวาสนา สักวันจะได้ดีเอง"