เมื่อถึงช่วงเดือน ต.ค.ถึงปลายเดือนพ.ย. ตามท้องนาจะพบเห็นเมล็ดข้าวเริ่มออกรวง เพราะต้นข้าวเริ่มออกรวง เมล็ดข้าวแก่ไม่เต็มที่ เรียกว่า ข้าวน้ำนม เหมะที่จะทำข้าวเม่า จึงพบเห็นการขายข้าวเม่าตามตลาดสดเทศบาลเมืองอำนาจเจริญ และตลาดวิชิตสินในตัวเมืองอำนาจเจริญอย่างคึกคัก สร้างรายได้แก่แม่บ้านชาวนาเป็นอย่างดี
นางมาลี งานดี อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70 หมู่ที่ 2 ต. ห้วยไร่ อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ เล่าว่า ทำนาปี จำนวน 10 ไร่ แบ่งเป็นปลูกข้าวจ้าว 5 ไร่และข้าวเหนียว 5 ไร่ และแบ่งไว้รับประทานส่วนหนึ่งให้ถึงปี ที่เหลือก็จะขายพอได้ค่าปุ๋ย โดยเฉพาะช่วงนี้เมล็ดข้าวยังไม่แก่เต็มที่ เมล็ดข้าวน้ำนม จึงนำเมล็ดมาทำข้าวเม่า ไปจำหน่ายยังตลาดสดเทศบาลเมืองอำนาจเจริญและตลาดกลางวันวิชิตสิน ซึ่งขายดีมาก ขายหมดทุกวัน ก็เก็บเป็นเงินทุน ไว้จ้างแรงงานเก็บเกี่ยวข้าวในช่วงปลายปี
นางมาลี ยังบอกถึงวิธีทำข้าวเม่าพอเข้าใจ ว่า การทำข้าวเม่าส่วนมากจะเอาข้าวไวต่อแสง หรือข้าวดอ (ภาษาอีสาน) มาทำ เนื่องจากมีการเจริญเติบโตเร็วกว่าข้าวชนิดอื่น โดยเริ่มแรก ต้องเดินตรวจเมล็ดข้าวในแปลงนาก่อน จากนั้น เลือกเอาเมล็ดข้าวที่พอดี คือไม่อ่อนและไม่แก่เกินไป เรียกว่า ข้าวน้ำนม ต่อมาทำการเกี่ยวข้าว จนได้ตามต้องการ ต่อมา นำรวงข้าวมาขูดเมล็ดออก ด้วยการใช้ไม้ประกบ 2 ข้างขูด เพื่อป้องกันรวงข้าวบาดมือ เสร็จแล้วนำเมล็ดข้าวใส่ถาดหรือกะละมัง ต่อมานำไปเทใส่กระทะ ตั้งบนเตาถ่านไฟไม่แรง คั่วจนได้ที่ เสร็จแล้วเอาใส่ถาดหรือกะละมัง ผึ่งให้เย็น คัดกากหรือเปลือกข้าวออก ก็จะได้เมล็ดข้าวสีเขียวอ่อน หอมติดจมูก เมื่อบริโภคแล้วจะมีรสชาติหวานมัน ถือเป็นข้าวเม่าเป็นขนมพื้นบ้านแบบโบราณอีกอย่างหนึ่ง
ทั้งนี้ ยังสามารถนำไปจำหน่ายได้ โดยบรรจุถุงจำหน่ายในราคา 150 บาทต่อกิโลกรัม ถ้าจะซื้อเป็นขีดก็ราคา ขีดละ 10 บาท ซึ่งขายดีมาก บางคนช่วงออกพรรษา กลับมาเยี่ยมบ้านจะกลับกรุงเทพหรือต่างจังหวัด ก็แวะซื้อข้าวเม่าหลายสิบกิโลกรัมติดไม้ติดมือไปด้วย เพื่อเป็นของฝากเพื่อนพี่น้อง ร่วงงาน และมีจำนวนไม่น้อยที่ซื้อใส่พัสดุฝากทางไปรษณีย์ส่งให้ญาติพี่น้องตามจังหวัดหรือกรุงเทพมหานคร เพราะข้าวเม่าอยู่ได้หลายวันไม่เสียง่าย
นางมาลี เล่าต่ออีกว่า บางคนก็ซื้อไปทานเลย แต่ก็มีนำไปแปรรูปเป็นขนมหลายชนิด เช่น ข้าวเม่าคลุก โดยการเอาข้าวเม่า ไปคลุกเค้ากับมะพร้าว ที่ผ่านการขูดเป็นเส้นๆ ใส่เกลือน้ำตาลให้พอเหมาะ เรียกว่า ขนมข้าวเม่าคลุก หรือไม่ก็เอาไปทำข้าวเม่าทอด ก็มีให้ซื้อหารับประทานตามตลาดทั่วไป ทุกปีช่วงรอการเก็บเกี่ยวข้าว ก็ทำข้าวเม่ามาวางขายเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงเช้าที่ตลาดสดเทศบาลเมืองอำนาจเจริญและตอนเย็นที่ตลาดวิชิตสิน เพราะปีนี้ฝนตกดี ได้ผลผลิตข้าวเต็มที่ จึงมีการทำข้าวเม่าเพิ่มขึ้น โดยมีลูกๆที่ปิดเทอมช่วยกันทำ ส่วนแม่ก็ออกมาขาย ได้เงินวันละ 1,000-1,500 บาท ก็เป็นทุนในการศึกษาลูก และค่าจ้างแรงงานเกี่ยวช่วงเดือนหน้านี้
ด้าน นางศิริพร ทองงาม อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 หมู่ที่ 4 บ้านเชือก ต.นาจิก อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ ขณะกำลังซื้อข้าวเม่า บอกว่า จะได้ทานข้าวเม่าปีละ 1 ครั้ง ก็ช่วงเดือน นี้แหละ วันนี้ก็เลยเดินหาซื้อข้าวเม่าไปทำเป็นของหวาน ไม่ว่าจะ ปรุงเป็นข้าวเม่าทอด ข้าวเม่าคลุก ข้าวเม่ากวน หรือจะทานข้าวเม่าสดๆ ก็อร่อยไม่แพ้กัน ซึ่งก็มีความสุขที่ได้ทำขนมหวานจากข้าวเม่าให้ลูกหลานได้รับประทานกัน เพื่อลูกหลานจะได้รู้ว่า ยังมีขนมพื้นเมืองโบราณ ที่ชื่อ ข้าวเม่า รสชาติอร่อยแบบไทยๆไม่แพ้ชนชาติใดในโลก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี